พท.รุมจี้ สส.รบ.เข้าเป็นองค์ประชุม พิจารณาพ.ร.บ.ครู หลังกระท่อนกระแท่นหลายมาตรา ไล่ไม่พร้อมก็ยุบสภา เหน็บ ‘ฝ่ายค้ำ’ กล้ายื่นซักฟอกหรือไม่ ปชน.ถามเครื่องแสดงตนมีปัญหาหรือไม่ เชื่อคนกินภาษีมีสำนึก "ไชยา" สวนปัญหาอยู่ที่คน สุดท้ายกม.อสม.อดไปต่อ เหตุตกลงกันไม่ได้
วันที่ (29 ตุลาคม) เมื่อเวลา 15.50 น. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ขณะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาจบแล้ว ขณะที่ลงมติมาตรา 4 บรรยากาศเป็นไปด้วยความกระท่อนกระแท่น เนื่องจากต้องรอให้สมาชิกเข้ามาแสดงตนเป็นเวลานาน ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นหารือว่า พ.ร.บ.นี้เป็นพ.ร.บ.ที่มีความสำคัญ ครูทั้งประเทศเขารอกันหมด กรรมาธิการทำงานอย่างหนัก แต่เวลานี้องค์ประชุมไม่ครบ ตนได้ข่าวว่าจะมีพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติเรื่องของสแกมเมอร์ บางพรรคการเมืองจึงไม่แสดงตนหรือไม่ ขอให้ท่านประธานช่วยตรวจสอบองค์ประชุมว่าที่นั่งอยู่ใครไม่กดบัตรบ้าง สภาฯ จะได้เดินต่อได้ เนื่องจากหลังจากนี้จะมีการพิจารณาพ.ร.บ.อสม.ต่อ หลังจากนั้นได้ลงมติ โดยมีผู้แสดงตน 250 คน และลงมติเห็นด้วยกับมาตราดังกล่าว 246 คน
จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาในมาตรา 5 ซึ่งนายฉลาดใช้เวลารอสมาชิกมาแสดงตนเกือบ 10 นาที และกดออดอยู่หลายครั้ง นายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนเห็นประธานกดออดอยู่ 8 ครั้งแล้ว หรือจะต้องให้ประธานกดออด 16 ครั้ง ยากเย็นขนาดนั้นเลยหรือ ตนเริ่มรำคาญแล้ว ทำให้นายฉลาด กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร อีกไม่นาน ขอให้รอสักครู่ ระหว่างนั้นนายธีระชัย กล่าวแทรกขึ้นว่า ตนนั่งอยู่ตลอด กดให้และแสดงตนตลอด พรรครัฐบาลไปไหน ให้ตนถามหน่อย ถ้าไม่ทำก็ยุบสภาไปเลย ตนเรียกร้องให้ฝ่ายค้ำเสนอยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วยุบสภาไปเลย กล้าหรือไม่ ตนไม่เห็นกลัว ยุบวันไหนก็เลือกวันนั้น นายฉลาด จึงกล่าวว่า โดยกฎหมายถ้ายุบสภาต้องเลือกตั้งใหม่อยู่แล้ว ยุบเมื่อไหร่เมื่อนั้น รออีกไม่นาน ตนกดออดรอบที่ 9
แต่ระหว่างนั้นยังคงใช้เวลารอสมาชิกอีกสักพัก นางพรรณศิริ กุลนาถศิริ สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย จึงกล่าวว่า หลังจากพ.ร.บ.ฉบับนี้จะมีการพิจารณาพ.ร.บ.อสม.ต่อ ฉะนั้น เพื่อนสมาชิกพรรครัฐบาลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตรงไหน ขอให้รีบเข้ามาในห้องประชุมแห่งนี้โดยด่วน ด้านนายฉลาด จึงได้กดออกอีกครั้ง และกล่าวว่า เพื่อนสมาชิกที่อยู่ด้านนอก ตอนนี้เพื่อนรออยู่ เรารอได้ ขอให้รอเพื่อนที่ใช้เวลาในการเข้ามา และเมื่อมั่นใจว่าองค์ประชุมครบแล้ว นายฉลาดจึงได้ปิดการแสดงตน พร้อมขานตัวเลข 247 ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุมกึ่งหนึ่งพอดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณามาตราต่อไป องค์ประชุมยังมีความกระท่อนกระแท่นอย่างต่อเนื่อง และใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการแสดงตนและลงมติ ทำให้สส.จากพรรคฝ่ายค้าน ต่างสลับกันลุกขึ้นหารือประธานในที่ประชุม เช่น นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ที่หารือว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากประชาชนในพื้นที่ที่ถามตนว่าสภาฯ เกิดอะไรขึ้น เสียงออดดังเหมือนเสียงไฟไหม้ ไม่ต้องกดก็ได้ เรารอกันอยู่ การประชุมถือเป็นหน้าที่หลักของผู้แทนราษฎร ไม่ใช่ให้ประชาชนต้องโทรมาถามว่าเกิดไฟไหม้หรือไม่ ขอความกรุณาเพื่อนสมาชิกให้ความสำคัญด้วย
นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ชี้แจงว่า เรียกเข้าห้องประชุมก็ต้องกดออด ตนก็นั่งรอ เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วหรือไม่ ใกล้แล้ว ขณะที่นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) หารือว่า ขอให้ประธานลองตรวจสอบระบบแสดงตัว เพราะคิดว่าสส.ในสภาฯ แห่งนี้ทุกคนกินภาษีประชาชน และน่าจะมีจิตสำนึกมาลงมติอยู่แล้ว ไม่น่าจะต้องรอนานเช่นนี้ เครื่องมีปัญหาหรือไม่ นายไชยา ชี้แจงว่า “เครื่องไม่มีปัญหาหรอกครับ คนน่ะมีปัญหา” ทำให้ในห้องประชุมหัวเราะขึ้นมาพร้อมกับเสียงปรบมือ ภายหลังมติเสร็จ นายไชยา ได้กล่าวต่อประชุมว่า “เป็นไงครับเพื่อนสมาชิกต่อหรือไม่ ต่อก็อย่าให้รอนาน” จากนั้นพิจารณาต่อจนจบในวาระ 2 และวาระ 3
จากนั้น สส.ของภูมิใจไทยได้ทักท้วงเรื่องการพิจารณาร่างพ.ร.บ.อสม. ต่อ เนื่องจากมีอสม.มารอที่สภาฯ แล้ว ขณะที่สส.ของพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยที่จะให้มีการพิจารณาต่อ จึงขอให้ประธานพิจารราเรื่องนี้ด้วย ฟากนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) จึงทักท้วงว่า ตนไม่ได้ขัดข้อง แต่เพื่อนสมาชิกทั้ง 2 พรรคที่พูดนั้นเหลือสส.กี่คน ให้กล้องแพลนมาดูก็ได้ นายจุลพันธ์ จึงพูดแทรกขึ้นมาว่า ขอให้เรียกมารยาทกลับมาด้วย ซึ่งเมื่อตกลงกันไม่ได้ นายไชยาจึงกล่าวว่า ขอให้ไปคุยกันก่อน จะคุยพรุ่งนี้ก็ได้ และได้ปิดประชุมในเวลา 19.25 น.


