“อภิสิทธิ์” ชำแหละ ท่องเที่ยวไทยติดหล่ม 5 ด้าน! จี้รัฐบาลปรับกลยุทธ์ตามพฤติกรรมโลก แนะเร่งยกระดับ "เมืองรอง" และ "ทักษะแรงงาน" สู้เทรนด์โลก
วันนี้ (29 ต.ค. 2568) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บรรยายในหัวข้อ “การท่องเที่ยวกับอนาคตประเทศไทย” จัดโดยสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ณ โรงแรมควีนส์แลนด์ โดยได้วิเคราะห์ปัญหาสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป
นายอภิสิทธิ์ ได้สรุปปัญหาและข้อเสนอแนะหลักที่รัฐบาลและผู้ประกอบการต้องเร่งดำเนินการไว้ 5 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. พฤติกรรมท่องเที่ยวเปลี่ยน เล็ก-เร็ว-เฉพาะกลุ่ม
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวโลกได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จากเดิมที่นิยมมาเป็นหมู่คณะใหญ่ แต่แนวโน้มปัจจุบันนักท่องเที่ยวเปลี่ยนเป็น กลุ่มเล็กลงและมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น รัฐบาลและผู้ประกอบการจึงต้องร่วมกันหามาตรการรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้
2. กระแสยั่งยืน ต้องช่วย SMEs ปรับตัว
กระแสการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนและอนุรักษ์ธรรมชาติกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง รัฐบาลควรหาทางช่วยผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ในการพัฒนาขีดความสามารถและมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
3. วิกฤตแรงงาน เพิ่มทักษะรับเทคโนโลยี
หลังการระบาดของโควิด-19 แรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักและยังคงเผชิญปัญหา นายอภิสิทธิ์ชี้ว่า รัฐบาลควรเร่ง เพิ่มทักษะแรงงานท่องเที่ยว (Reskill/Upskill) ให้เข้าใจและสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพของแรงงาน และช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนจากการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย
4. เมืองรองทรุดโทรมเร่งแก้โครงสร้างพื้นฐาน
แหล่งท่องเที่ยวในเมืองรองหลายแห่งยังอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม และการเข้าถึงยังไม่สะดวก นายอภิสิทธิ์เสนอให้รัฐบาลเร่งปรับปรุงสาธารณูปโภค สถานที่ท่องเที่ยว และ ระบบคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะการเชื่อมโยงการเดินทางรูปแบบต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงอย่างเป็นระบบ
5. การตลาดภาครัฐต้องเข้าถึงเป้าหมายด้วยโซเชียลมีเดีย
นายอภิสิทธิ์ เสนอแนะว่า หน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือ ททท. ประสิทธิภาพในการทำการตลาด ยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ไม่เต็มที่ จึงเสนอให้มีการปรับปรุงแนวทางการสื่อสาร โดยใช้ช่องทาง โซเชียลมีเดีย (Social Media) ให้มากขึ้น เพื่อให้ตรงกับพฤติกรรมการค้นหาและตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน


