รัฐบาลชี้ “คนละครึ่งพลัส” ใช้ได้กับร้านนวด–ร้านบริการรายย่อยทั่วประเทศ หนุนเศรษฐกิจฐานรากให้คนตัวเล็กเข้าถึงสิทธิได้จริง
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ประชาชนสามารถเริ่มใช้สิทธิในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยรัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ขยายขอบเขตการใช้สิทธิให้ครอบคลุมถึง ธุรกิจบริการรายย่อย ที่อยู่ในระบบภาษีของรัฐ เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กในชุมชนได้รับประโยชน์จากมาตรการอย่างแท้จริง
โครงการคนละครึ่งพลัสครั้งนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะร้านอาหารหรือร้านค้าเท่านั้น แต่ประชาชนสามารถใช้สิทธิร่วมจ่ายได้กับ ร้านนวดแผนไทย ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ร้านซักรีด ร้านล้างรถ ร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงร้านบริการในชีวิตประจำวันอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ โดยสามารถชำระเงินผ่านแอป G-Wallet ได้สะดวกและปลอดภัยเช่นเดียวกับร้านค้าทั่วไป
รองโฆษกรัฐบาลระบุว่า มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางรัฐบาลในการ ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและสร้างรายได้ให้ธุรกิจรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจชุมชน การขยายสิทธิให้ร้านบริการเข้าร่วม จะช่วยให้ประชาชนใช้สิทธิได้จริงในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันยังช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง


