นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-นิวซีแลนด์ สมัยพิเศษ เสนอ 3 แนวทางความร่วมมือ “ความมั่นคง-ความมั่งคั่ง-เพื่อประชาชน” หนุนตั้งศูนย์อาเซียน-นิวซีแลนด์ และขับเคลื่อนวาระสีเขียวเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
วันนี้ (วันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568) เวลา 12.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชม.) ณ ห้องประชุมใหญ่ 2 ชั้น 3 ศูนย์ประชุม KLCC กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้นำ 2 ผู้แทนประเทศสมาชิกอาเซียนและเลขาธิการอาเซียน ร่วมกับ นายคริสโตเฟอร์ ลักซอน (The Right Honourable Christopher Luxon) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-นิวซีแลนด์ สมัยพิเศษ (ASEAN-New Zealand Commemorative Summit) โดย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าว “Kia Ora” ซึ่งเป็นคำทักทายในภาษาเมารี (Maori) ต่อนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ พร้อมแสดงความยินดีต่อการจัดประชุมครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างอาเซียนและนิวซีแลนด์ตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยชื่นชมนิวซีแลนด์ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ไว้วางใจได้ของอาเซียน มีนโยบายต่างประเทศที่สนับสนุนการค้าเสรี ความร่วมมือพหุภาคี และการดำเนินการตามกฎเกณฑ์สากลอย่างมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน ในโอกาสครบรอบ 50 ปีถือเป็นก้าวสำคัญและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่ภูมิภาคกำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน พร้อมเสนอถึงการให้ความสำคัญกับ 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านความมั่นคง (Security) ด้านความมั่งคั่ง (Prosperity) และเพื่อประชาชน (Peoples)
ด้านความมั่นคง นายกรัฐมนตรีเสนอให้ร่วมมือกับนิวซีแลนด์ในประเด็นความมั่นคงทางทะเล การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอาชญากรรมออนไลน์ การบริหารจัดการภัยพิบัติ และการสร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุข พร้อมหวังว่า กองทุน Vision Fund จะสนับสนุนโครงการริเริ่มด้านมนุษยธรรมของภูมิภาค นอกจากนี้ ไทยเห็นว่าการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมา จะเป็นหนทางสู่การเจรจาและสร้างความเชื่อมั่น โดยให้ความสำคัญ
กับการสนับสนุนของนิวซีแลนด์ต่อความพยายามด้านมนุษยธรรมที่อาเซียนประสานงาน และหวังที่จะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสันติภาพและเสถียรภาพ
ด้านเศรษฐกิจ ไทยเสนอให้มีการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนภายใต้กรอบหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน และเสนอให้จัดการประชุมผู้นำภาคธุรกิจอาเซียน-นิวซีแลนด์ เพื่อหารือแนวทางการใช้ศักยภาพของภูมิภาค การใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี และการเชื่อมโยงเศรษฐกิจทั้งทางอากาศและดิจิทัล
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความร่วมมือด้านวาระสีเขียว ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเสนอให้อาเซียนและนิวซีแลนด์ร่วมมือกันในด้านนวัตกรรมสีเขียว พลังงานหมุนเวียน คาร์บอนเครดิต การจัดการป่าไม้ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ทั้งนี้ การประชุมโต๊ะกลมอาเซียน-นิวซีแลนด์ว่าด้วยวาระสีเขียวที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนถึงความสนใจของอาเซียนในการขยายความร่วมมือในประเด็นดังกล่าว
ด้านประชาชน นายกรัฐมนตรีเสนอให้เสริมสร้างความร่วมมือด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน เพื่อให้การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนแนวคิดการจัดตั้งศูนย์อาเซียน-นิวซีแลนด์ (ASEAN-New Zealand Centre) เพื่อเป็นกลไกกลางในการส่งเสริมความร่วมมืออย่างยั่งยืนในอนาคต
จากนั้น ในเวลา 13.15 น. ณ โรงแรม Mandarin Oriental นายกรัฐมนตรีได้ร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันอาเซียน-นิวซีแลนด์ (ASEAN-New Zealand Gala Lunch) ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี


