xs
xsm
sm
md
lg

ครม.รับทราบมาตรการแก้ไขทุจริตปืนสวัสดิการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ครม.รับทราบมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในโครงการจัดหาอาวุธปืนสวัสดิการ

วันนี้ (28 ต.ค.) นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในโครงการจัดหาอาวุธปืนสวัสดิการ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) เป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง สำนักงานตำรวจแห่งแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ให้ได้ข้อยุติโดยให้ มท. สรุปผลการพิจารณา/ผลการดำเนินการ/ความเห็นในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งจาก สลค. เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี
สาระสำคัญของเรื่อง

1. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ขอให้นำมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในโครงการจัดหาอาวุธปืนสวัสดิการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยเห็นควรให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) พิจารณาดำเนินการ ดังนี้ (1) การพิจารณาอนุมัติให้หน่วยงานของรัฐ ดำเนินการโครงการจัดหาอาวุธปืนสวัสดิการข้าราชการหรือโครงการในลักษณะเดียวกัน ให้พิจารณาด้วยความรัดกุม คำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม (2) การต่ออายุโครงการจัดหาอาวุธปืนเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการ (ถ้ามี) ต้องพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และ (3) การผ่อนผันคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 108/2535 เรื่อง จำกัดการออกใบอนุญาตให้บุคคลสั่ง หรือนำเข้าซึ่งอาวุธปืนบางชนิด ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2535 ในลักษณะที่จะให้ นายทะเบียนท้องที่อนุญาตให้ร้านค้าอาวุธปืนนำเข้าอาวุธปืนสั้น โดยผ่านช่องทางโครงการจัดหาอาวุธปืนสวัสดิการข้าราชการ ต้องพิจารณาให้เท่าที่จำเป็นและต้องดำเนินการ ตามกฎหมายโดยเคร่งครัด

2. โดยที่เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ที่บัญญัติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจเสนอมาตรการ ความเห็น และข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี และเมื่อคณะรัฐมนตรีได้รับแจ้งมาตรการฯ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว หากเป็นกรณีที่ไม่อาจดำเนินการได้ ให้แจ้งปัญหาและอุปสรรคต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบต่อไป ทั้งนี้ ไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. (ครบกำหนดวันที่ 20 ธันวาคม 2568)

จึงเข้าข่ายลักษณะเรื่องที่ให้เสนอคณะรัฐมนตรีได้ตามมาตรา 4(1) แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548


กำลังโหลดความคิดเห็น