"อนุทิน" ลั่น “เซงกะบ๊วย” กล่าวหา ‘อนุทิน-เนวิน‘ เป็นเจ้าของสแกมเมอร์ ยันทำมาตลอด แต่คนทำงานไม่จำเป็นต้องพูด ซัด ’ไอซ์ รักชนก‘ อยากทำก็มาบริหารประเทศ หลังติง "ธรรมนัส" นั่งหัวโต๊ะปราบค้ามนุษย์
วันนี้ (24 ต.ค. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นิวยอร์กไทม์ รายงานว่าไทยเป็นศูนย์กลางของสแกมเมอร์ว่า เรื่องนี้มีการตรวจสอบอยู่แล้ว โดยกรณีที่เมียนมามีการปราบสแกมเมอร์แล้วทะลักเข้ามายังไทย เราต้องทั้งป้องกันและปราบปราม ซึ่งเราทำอยู่แล้ว คนที่ไม่ได้อ่านข่าวมาก็อ่านข่าวแล้วมาขยายผล ให้มีความปั่นป่วนวุ่นวาย ยืนยันว่ามีการดำเนินมาตรการปราบปรามเต็มที่ และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป้าหมายที่ตนเองให้ไว้กับฝ่ายความมั่นคงคือ ต้องล้ำหน้าฝ่ายกระทำผิดอยู่เสมอ ไม่ใช่เป็นโปลิสจับขโมย เราต้องดักทางทุกอย่างให้ถูก และแสวงหาความร่วมมือให้ได้มากที่สุด
ล่าสุดที่ได้หารือกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ท่านบอกว่าจะเร่งจัดให้มีผู้ชำนาญการและร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้กระทำผิด รัฐบาลชุดนี้ต้องทำชัดเจน ตนเองก็ได้ลงนามถอนสัญชาตินายลียง พัด เพราะเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมาย ทำให้เห็นว่าสิ่งที่ไม่เคยทำมาในอดีต รัฐบาลนี้จะทำ แม้เพิ่งเข้ามาทำงาน 3 สัปดาห์กว่า
นายอนุทิน กล่าวต่อว่าเราทำ ไม่ใช่ไม่ทำ แต่คนทำไม่จำเป็นต้องพูด เพราะเรื่องพวกนี้เกี่ยวข้องกับความลับทางราชการ กลยุทธ์วิธีการ หากพูดฝ่ายตรงข้ามก็จะสามารถหาวิธีมาแก้ไข และทำให้กระบวนการปราบปรามไม่เสร็จสักที
ส่วนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่ามีนักการเมือง อักษรย่อ ช. ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ ได้ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โชคดีที่ท่านไม่ได้บอกอักษรนามสกุล ถ้าเป็นนามสกุล ช. คงเป็นตนเอง โชคดีที่บอกชื่อก็ไม่เป็นไร คงไม่ต้องตรวจสอบ ไม่ใช่ได้ยินใครมาก็ไปตรวจสอบ เราสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษเนื่องจากรัฐบาลมีกลไกอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูผิดกับงานปราบปรามสแกมเมอร์ นายอนุทิน ระบุว่า ของพวกนี้ เราไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ เพราะคุณไม่ใช่คนทำงาน ถ้าอยากทำเช่นนั้นก็มาบริหารประเทศก่อนก็ทำในสิ่งที่อยากจะทำก็ได้ ไม่ได้ห้าม แต่วิธีการของตนเองก็เป็นแบบนี้
“ที่ผมต้องยอมถูกดุ ถูกด่า ถูกว่า ถูกตำหนิมาโดย ตลอด บางทีไม่ต้องพูดทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ของพวกนี้ไม่ได้จบภายใน 2 วัน 4 เดือนก็ไม่จบ บอกได้เลย เราจะทำให้เกิดการปราบปรามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
นายอนุทิน กล่าวต่อว่าเป็นรัฐบาลต้องถูกกดดันอยู่แล้ว ไม่ถูกกดดันเรื่องนี้ก็ถูกกดดันเรื่องอื่น ต้องทำงานภายใต้กดดันเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ต้องทำคือ ไม่ไปเสียขวัญกับความกดดัน ถ้ามั่นใจว่าได้ดำเนินการมาในทิศทางที่ถูกต้องก็ทำต่อไป ใครจะมาพูดว่าวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องรับฟัง อันไหนเข้าท่าก็โอเค แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เข้าท่า
“ข้อสรุปที่บอกว่ายังปราบสแกมเมอร์ไม่ได้สักที สงสัยอนุทิน เนวิน เป็นเจ้าของสแกมเมอร์เอง บทสรุปเซงกะบ๊วยแบบนี้มันไม่ได้”


