นายกรัฐมนตรีแถลง “โครงการไฟฟ้าชุมชน ลดค่าไฟให้ประชาชน” เดินหน้าพลังงานสะอาด หนุนโซลาร์ฟาร์ม–โซลาร์สูบน้ำ สอดคล้องนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล
วันนี้ (24 ตุลาคม 2568) เวลา 12.00 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวเรื่อง “โครงการไฟฟ้าชุมชน ลดค่าไฟให้ประชาชน” ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายในการผลักดันและขับเคลื่อนโครงการไฟฟ้าชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานในระดับท้องถิ่น และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าของประชาชนทั่วประเทศ
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ร่วมหารือกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อเร่งรัดโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้า ซึ่งกระทรวงพลังงานได้เสนอ โครงการไฟฟ้าชุมชนพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อขยายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดไปยังชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ผ่านความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลัง
โดยโครงการ จะจัดตั้ง “โซลาร์ฟาร์มชุมชน” ขนาดไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ และอาจมีขนาดย่อยลง เช่น 5 เมกะวัตต์ หรือ 3 เมกะวัตต์ ขึ้นอยู่กับศักยภาพและพื้นที่ของแต่ละชุมชน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงไฟฟ้าในราคาย่อมเยา โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเป็นผู้รับผิดชอบการจ่ายไฟฟ้าในราคาพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการของ “โครงการโซลาร์สูบน้ำ” ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการไฟฟ้าชุมชนพลังงานแสงอาทิตย์ มีเป้าหมายในการกระจายระบบพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้ในระบบชลประทานและประปาหมู่บ้านทั่วประเทศ โดยจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นต้นทุนหลักในการสูบน้ำเข้าสู่ระบบเกษตรและการผลิตน้ำประปา เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตประปาหมู่บ้าน ลดค่าใช้จ่ายด้านการอุปโภคบริโภคของประชาชน และกระจายการลงทุนไปยังระดับท้องถิ่น ส่งเสริมการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ฐานราก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม รวดเร็ว และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยคาดว่าโครงการจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในรอบสุดท้ายภายในวันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568 หลังจากผ่านการพิจารณาทั้งสองเรียบร้อยแล้ว


