xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเฮ! ดัน “สแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ” เป็นวาระเร่งด่วนของ IPU สำเร็จ เขมรไม่เข้าประชุมไม่ร่วมโหวต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ที่ประชุม IPU โหวตหนุนบรรจุ “การต่อต้านอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติและอาชญากรรมไซเบอร์” เป็นวาระเร่งด่วนของปีนี้ ตามข้อเสนอของไทย ขณะที่ผู้แทนกัมพูชาไม่ได้เข้าร่วมประชุมและไม่ร่วมโหวต “โรม” ถามหายไปไหน ทั้งที่เคยบอกว่าจะไม่คัดค้าน

ที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) สมัยที่ 151 ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ลงมติบรรจุ “การต่อต้านอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติและอาชญากรรมไซเบอร์” เป็นวาระเร่งด่วนของปีนี้ หลังร่างข้อมติที่เสนอโดยรัฐสภาไทยและพันธมิตรได้รับเสียงสนับสนุนเกิน 2 ใน 3 ของสมาชิกกว่า 100 ประเทศ ถือเป็น “วาระเร่งด่วนเพียงเรื่องเดียวของปี 2025” และสร้างประวัติศาสตร์ให้รัฐสภาไทยในเวทีโลก

เบื้องหลังความสำเร็จมาจากการประสานงานอย่างเข้มข้นของคณะผู้แทนรัฐสภาไทย นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และทีมไทยแลนด์ที่เจรจากับทุกกลุ่มภูมิภาค ปรับเนื้อหาขยายจากการต่อต้านสแกมเมอร์ข้ามพรมแดน ไปสู่การครอบคลุมอาชญากรรมองค์กรที่คุกคามประชาธิปไตยและความมั่นคงของมนุษย์

การประชุม IPU ปีนี้มีการเสนอวาระเร่งด่วน 2 เรื่อง คือ การช่วยเหลือมาดากัสการ์ เสนอโดยแอฟริกาใต้ ในนามกลุ่มแอฟริกา และการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติและไซเบอร์ เสนอโดยไทย อาร์เจนตินา ชิลี โปแลนด์ และสวีเดน

ผลการลงคะแนน ร่างของมาดากัสการ์ได้ 743 เสียงเห็นด้วย ขณะที่ร่างของไทยได้ 850 เสียงเห็นด้วย และ 200 เสียงไม่เห็นด้วย เกินกว่าคะแนนขั้นต่ำ 601 เสียง จึงได้รับเลือกเป็น “ระเบียบวาระเร่งด่วน” ของปีนี้ ขณะที่ผู้แทนกัมพูชาไม่ได้เข้าร่วมประชุมและไม่ร่วมโหวต

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นผู้เสนอร่างข้อมติของไทย โดยระบุว่า ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและไซเบอร์ เช่น การฉ้อโกง การหลอกลวงออนไลน์ และศูนย์คอลเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้มีเหยื่อนับแสนคน สูญเงินกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์ และถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน เขาเรียกร้องให้รัฐสภาทั่วโลกร่วมมือกันหยุดยั้งปัญหานี้
ข้อเสนอของไทยได้รับเสียงปรบมือจากที่ประชุม แต่ก็มีผู้แทนรัสเซียคัดค้าน โดยอ้างว่าไม่เป็นไปตามขั้นตอน เนื่องจากส่งเอกสารช้าเกินกำหนด 48 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ประธานที่ประชุมและคณะกรรมการบริหาร IPU ชี้แจงว่าร่างข้อมติดังกล่าวเข้าเกณฑ์วาระเร่งด่วนใหม่ และให้สมาชิกตัดสินผ่านการลงคะแนน

บรรยากาศการโหวตเป็นไปอย่างตื่นเต้น เพราะแต่ละประเทศมีจำนวนเสียงไม่เท่ากันและสามารถแบ่งคะแนนได้ เช่น ไทยมี 18 เสียง จีน และอินเดีย มีประเทศละ 23 เสียง รัสเซีย 20 เสียง กัมพูชา 13 เสียง ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนให้การคำนวณผล แต่ท้ายที่สุด ไทยก็สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนได้เกินเกณฑ์อย่างขาดลอย

สาระสำคัญของร่างข้อมติไทย มุ่งให้รัฐสภาทั่วโลกร่วมกันผลักดันกฎหมายและกลไกเพื่อต่อสู้กับ อาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ (Transnational organized crime) อาชญากรรมไซเบอร์ (Cybercrime) และภัยคุกคามแบบผสมผสาน (Hybrid threats)

ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่ส่งผลโดยตรงต่อประชาธิปไตยและความมั่นคงของมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 การผ่านมติครั้งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทนำของประเทศไทยในการขับเคลื่อนวาระโลกเพื่อรับมืออาชญากรรมยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง


ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะสมาชิกรัฐสภาไทยที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา เปิดใจถึงกรณีที่ร่างข้อมติของไทยว่าด้วยการปราบปรามสแกมเมอร์และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ชนะโหวตในวงประชุมใหญ่ IPU ได้รับการบรรจุเป็น “วาระเร่งด่วน” หรือ Emergency item ครั้งประวัติศาสตร์ว่า แม้จะได้รับความร่วมมือที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะจากประเทศในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน แต่การจะชนะโหวตด้วยคะแนน 2 ใน 3 นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย

นายรังสิมันต์ อธิบายว่า ความยากเป็นเพราะคะแนนจากกลุ่มประเทศที่แบ่งกันตามภูมิภาค เช่น แอฟริกา ละตินอเมริกา และยุโรป แต่ละกลุ่มมีคะแนนรวมกันสูงมาก โดยเฉพาะยุโรปที่มีคะแนนมากที่สุด ไทยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุยเจรจากับประเทศต่างๆ เหล่านั้น เพื่อขอการสนับสนุน

“ต้องขอขอบคุณประเทศออสเตรเลียที่สนับสนุนไทยอย่างแข็งขัน ช่วยเป็นตัวเชื่อมให้ไทยได้คุยกับกลุ่มประเทศในยุโรป โดยเฉพาะโปแลนด์ที่ทำหน้าที่เชื่อมไทยกับประเทศในยุโรปชาติอื่นๆ อีก เช่น สวีเดน และยังรวมถึงละตินอเมริกาด้วย”

นายรังสิมันต์ เล่าถึงจุดพลิกเกมที่ทำให้ร่างข้อมติของไทยกลายเป็นร่างที่ได้เปรียบ และชนะโหวตในที่สุดว่า เบื้องต้นไทยโฟกัสเฉพาะเรื่องศูนย์กลางสแกมเมอร์ และอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดนเท่านั้น แต่เราก็ต้องยอมรับว่าการจะได้รับเสียงสนับสนุนมากพอ ต้องมีการเจรจาและสอบถามความต้องการของเพื่อนสมาชิกกลุ่มอื่นๆ ด้วย และเราพบว่ากลุ่มประเทศละตินอเมริกาและยุโรปต้องการผลักดันเรื่องอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ และขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งเมื่อทีมรัฐสภาไทยนำมาพิจารณาแล้ว ก็พบว่าเรื่องยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของไทยด้วยเช่นกัน จึงนำประเด็นความต้องการเหล่านี้มารวมกันกับของไทย และประสานงานกันอย่างใกล้ชิด”

“ทีมเลขาฯ ของรัฐสภาก็ร่วมทำงานด้วยกันจนดึกดื่นทุกคืน ต้องพูดคุยเจรจา เพราะการจะนำ 3 เรื่อง จาก 3 ทวีป มารวมกันเป็นข้อมติเดียว ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถึงแม้จะมีหัวข้อใหญ่เดียวกัน แต่มีรายละเอียดที่แตกต่างกันมาก”

“แต่ข้อดีก็คือ เมื่อร่างข้อมตินี้ผ่านเกณฑ์ 2 ใน 3 และได้รับการบรรจุเป็นระเบียบวาระเร่งด่วน เมื่อถึงในชั้นของกรรมาธิการยกร่าง คงจะทำงานกันง่ายขึ้น เพราะเหมือนกับได้ทำงานร่วมกันมาก่อนแล้ว”

นายรังสิมันต์ ยังตั้งข้อสังเกตถึงท่าทีของกัมพูชา ว่า “หายไปไหน ทำไมไม่มาโหวต” ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็พูดทำนองว่าจะไม่คัดค้าน แต่ท้ายที่สุดก็หายไป ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะการทำงานเรื่องสแกมเมอร์ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศ

นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเป็นร่างข้อมติเพื่อเสนอเป็น “วาระเร่งด่วน” หรือ Emergency item ร่างแรกที่เสนอโดยประเทศไทย แล้วผ่านเข้าสู่เวทีใหญ่ IPU ได้สำเร็จ และยังถือว่าได้คะแนนโหวตสูงมาก เพราะตั้งเป้าไว้ว่าได้ประมาณ 700 คะแนน ก็มากแล้ว แต่คะแนนออกมาได้ไปมากกว่า 800 คะแนน

โอกาสนี้ นายรังสิมันต์ ยังได้กล่าวขอบคุณ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และทีมสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่รัฐสภาทุกคนด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น