รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบร่างปฏิญญามะละกาว่าด้วยการสร้างมูลค่ามรดกทางวัฒนธรรม (Malaka Declaration on Cultural Heritage Value Creation)
วันนี้ (21ต.ต.) นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญามะละกาว่าด้วยการสร้างมูลค่ามรดกทางวัฒนธรรม (Malaka Declaration on Cultural Heritage Value Creation) (ร่างปฏิญญาฯ) ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 โดยหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนถ้อยคำของเอกสารดังกล่าวที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญหรือที่ไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ก่อนจะมีการรับรองเอกสารดังกล่าว ให้ วธ. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีร่วมรับรองร่างปฏิญญาฯ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 [มีกำหนดรับรองร่างปฏิญญาฯ ในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 26 - 28 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย (มาเลเซีย)] ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอ
ทั้งนี้ ร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อปกป้อง ส่งเสริม และสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจจากมรดกทางวัฒนธรรมที่รุ่มรวยของอาเซียนซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้และตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมทั้งแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะบูรณาการมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับการพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุม และสนับสนุนขีดความสามารถในระดับท้องถิ่น การอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
วัตถุประสงค์ของปฏิญญาฯ
(1) ใช้ประโยชน์และเพิ่มศักยภาพสูงสุดของมรดกทางวัฒนธรรม
(2) ส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อยกระดับและพัฒนาภาคส่วนมรดกทางวัฒนธรรม
(3) พัฒนาและขับเคลื่อนกลยุทธ์การสร้างมูลค่าของสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมและมรดก ซึ่งครอบคลุมโบราณวัตถุ ประเพณี แนวปฏิบัติ การแสดงออกทางวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์
(4) เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ การสร้างรายได้ และการจ้างงานในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และมรดกทางวัฒนธรรม
(5) ปกป้อง อนุรักษ์ และพัฒนาความหลากหลายทางวัฒนธรรม มรดกที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ รวมถึงภูมิปัญญาดั้งเดิมและแนวปฏิบัติภายในภูมิภาคอาเซียน
(6) ขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาคส่วนมรดกทางวัฒนธรรม
การสร้างมูลค่ามรดกทางวัฒนธรรม
ตระหนักรู้ถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่ามรดกทางวัฒนธรรมที่ปรับใช้แนวทางเชิงนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของมรดกก็ทางวัฒนธรรมในการสร้างมูลค่า สร้างการจ้างงาน สร้างรายได้ และการพัฒนาที่ยั่งยืน
ความตกลงร่วมกัน
(1) จัดตั้งและเสริมสร้างกฎหมายระดับชาติ กรอบการดำเนินงานในระดับภูมิภาคและกลไกความร่วมมือเพื่อพัฒนาการสนับสนุนเชิงสถาบันสำหรับห่วงโซ่คุณค่าทางวัฒนธรรม
(2) ปรับใช้แนวทางการดำเนินการรูปแบบเศรษฐกิจใหม่ สำหรับการสร้างมูลค่ามรดกทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างแหล่งรายได้และการจ้างงานใหม่
(3) ลงทุนในโครงการฝึกอบรมสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านมรดกทางวัฒนธรรม ผู้จัดการงานด้านวัฒนธรรม การบังคับใช้กฎหมาย พิธีการศุลกากร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาขีดความสามารถและศักยภาพในการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมและการสร้างมูลค่า
(4) ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มพูนความเป็นหุ้นส่วนระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติระหว่างสถาบันทางวัฒนธรรม สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาคเอกชน และหน่วยงานภาคประชาสังคมในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
(5) ยกระดับการติดตามและประเมินผลผ่านกระบวนการกรอบการดำเนินงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานและความร่วมมือดังกล่าวเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ