‘ธรรมนัส‘ แจงปมถูกโยงเอี่ยวสแกมเมอร์ บอก มีตังค์ก่อนเล่นการเมือง ยืนยัน ไม่ใช่มนุษย์สีเทาไม่เคยประกอบอาชีพสีเทา ชี้ไม่ได้ฟ้องปิดปาก แต่เป็นการพิสูจน์ให้กระจ่างว่าไม่ใช่สิ่งที่เขาพูด“ ขออย่ารีบกล่าวหา ‘เบน สมิธ‘ โยงสแกมเมอร์ ให้เวลาพิสูจน์ตัวเองก่อน ตามกระบวนการบ้านเมือง ย้อน ‘โรม’ ต่างคนต่างหน้าที่ หลังเรียกร้องให้ปลดพ้น ครม. ชี้อำนาจอยู่ที่นายกฯ
วันนี้ (21 ต.ค. 68) เวลา 09:25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยบอกผู้สื่อข่าวว่า “คิดถึงจัง ไม่ได้เจอตั้งนาน” พร้อมถูกถามว่าโกรธหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ตอบทันทีว่า ”ไม่โกรธครับ“
จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ ว่า ตอนก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง ตอนชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน มีสำนักข่าวโจมตีว่าร่ำรวย มีบริษัทมากกว่า 20 แห่งในการทำมาหากิน ซึ่งตอนนั้น ตนเป็นนักการเมืองสมัครเล่น การชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน จึงมีปัญหาบ้าง จึงอยากเรียนว่า ตนทำธุรกิจมาก่อนทำการเมือง หรือหากพูดภาษาชาวบ้านคือมีตังค์ก่อนมาเล่นการเมือง และไม่เคยปฏิเสธว่าเป็นผู้ทำธุรกิจรถเมล์เกือบ 300 คัน และมีธุรกิจด้านสลากกินแบ่งรัฐบาล ธุรกิจตลาดสด และอสังหาริมทรัพย์
ดังนั้น สิ่งที่ตนไม่เคยทำ คือ ธุรกิจที่อยู่บนความเดือดร้อนของประชาชน และสิ่งสำคัญที่สุดในรัฐบาลชุดที่แล้ว คือการเข้ามาเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นฝ่ายตรวจสอบ ตนได้ให้ข้อมูลกับผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ท่านเก่า จนเป็นที่มีที่ไปของการออกหมายจับ หมายค้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ซึ่งอาชีพอะไรก็ตามที่นักการเมืองหลายคนมองว่า เป็นมนุษย์สีเทา ตนไม่เคยประกอบอาชีพสีเทา ซึ่งก็มีเรื่องเก่าๆ ที่เคยผ่านกระบวนการยุติธรรมมาแล้ว ในฐานะที่เราเข้ามาทำงานการเมืองต้องยอมรับตรงนี้
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวต่อว่า อะไรก็ตามที่ถูกกล่าวหา พาดพิง หรือเรื่องหมิ่นเหม่ และเราไม่ได้ทำความผิด ซึ่งเราไม่ได้ใช้วิธีปิดปาก แต่เป็นการฟ้องให้เกิดความกระจ่างว่าเราไม่ใช่ คือสิ่งที่เราต้องทำ “ไม่ใช่ฟ้องปิดปาก อันไหนที่พาดพิงถึงเราถ้าเป็นความจริง ก็รับแล้วมาแก้ไข แต่อันไหนที่ไม่ใช่ เราจำเป็นต้องฟ้อง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาพูด”
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตนเป็นคนที่คนเข้าหาง่าย และไม่เคยกีดกันว่าเป็นคนเพศไหน วัยไหน สัญชาติใด เพราะเราเป็นคนไม่ถือตัว สื่อมวลชนหลายท่านก็พูดคุยกันหยอกล้อกัน และไม่เคยโกรธกันเป็นเรื่องปกติ
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้าน มีการกล่าวหา ร้อยเอกธรรมนัสมีความเชื่อมโยงกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ และมีความเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์นั้น ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ตนได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่มีอะไรปิดบัง พูดกันตรงไปตรงมาด้วยข้อมูล และสิ่งสำคัญที่สุดอย่าเพิ่งกล่าวหาว่านายเบนสมิธเป็นแก๊งสแกมเมอร์ ในเรื่องกฎหมายคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา กฎหมายยังไม่มี ดังนั้นอย่าพึ่งไปกล่าวหาแบบนั้น ต้องให้เขาพิสูจน์ตนเองก่อน และเมื่อเขาพิสูจน์แล้ว ประเทศเราก็มีหน่วยงานตรวจสอบเต็มไปหมด ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของบ้านเมือง ส่วนตนเองเป็นมนุษย์ที่ยืนอยู่บนเวทีที่กล้าพูด กล้าทำ เพราะเราเป็นคนของพรรคกล้าธรรม
ส่วนที่เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.) นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พบรายชื่อคนที่เคยขอสัญชาติไทย มีความเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ ซึ่งคาดว่าเป็นนายเบน สมิธ นั้น ร้อนเอกธรรมนัส ระบุว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องของนายกฯ
ส่วนการที่นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอให้นายกรัฐมนตรีปลดร้อยเอกธรรมนัส ออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ระบุว่า ผู้แต่งตั้งคือนายกรัฐมนตรี ตนก็เป็น สส.ตนก็อยู่ทางฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร และพร้อมตรวจสอบเหมือนกัน ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารให้ดีที่สุด ตอนกำชับลูกพรรคที่เป็นข้าราชการการเมือง ต้องทำงานให้ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้บ้านเมืองมีปัญหา
ส่วนการแต่งตั้งร้อยเอกธรรมมนัส จะไม่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาลเหมือนกับที่ผ่านมาใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า เมื่อตนมีปัญหาก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยตัวเอง ไม่ชอบเป็นภาระใคร
ส่วนจะมีการเข้าไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวในคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ (กมธ.) ด้วยหรือไม่ ร้อยเอกธรรมมนัส ระบุว่าเพียงว่า ตนไม่มีวันหยุดเลย กลับเข้าบ้านก็ดึกแล้ว ตื่นเช้าก็มาทำงานต่อ