xs
xsm
sm
md
lg

“อัคร“ ย้ำบนเวที IPU รัฐสภาต้องมีบทบาทเข้มกำกับงบกลาโหม ตรวจสอบโปร่งใส เสนอแนวคิด “เศรษฐศาสตร์การป้องกันประเทศ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อัคร“ ย้ำบนเวที IPU รัฐสภาต้องมีบทบาทเข้มกำกับงบกลาโหม ตรวจสอบโปร่งใส ตรงไปตรงมา เสนอแนวคิด “เศรษฐศาสตร์การป้องกันประเทศ” ให้การใช้จ่ายด้านกลาโหมตอบโจทย์ทั้งความมั่นคงและเศรษฐกิจ ชี้กองทัพต้องอยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลพลเรือน ไม่ละเมิดสิทธิประชาชน–คุ้มครองสวัสดิการทหารทุกระดับ


นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถ้อยแถลงเรื่อง “การเสริมสร้างการกำกับดูแลการใช้จ่ายด้านกลาโหมโดยรัฐสภา” ในเวที"Panel discussion on strengthening parliamentary oversight of defense spending" ระหว่างการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา(IPU) ครั้งที่ 151 ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า การใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหม เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญลำดับต้นๆ ในการทดสอบการกำกับดูแลของรัฐสภาที่มีต่อกองทัพ ทั้งโครงการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งมีบางส่วนเป็นเงินนอกงบประมาณ, การประกอบธุรกิจบางอย่างของกองทัพที่ใช้เป็นสวัสดิการของกำลังพล รวมไปถึงสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของกำลังพล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่รัฐสภาต้องให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเรื่องอื่นๆ
สส.อัคร กล่าวถึงแนวคิดเรื่อง “เศรษฐศาสตร์การป้องกันประเทศ” ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรสำหรับการป้องกันประเทศและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเขาชี้ว่าอาจเป็นแนวทางสำหรับนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนและการใช้จ่ายด้านกลาโหมสอดคล้องกับลำดับความสำคัญด้านความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงและซับซ้อนของประเทศ ขณะเดียวกันการใช้จ่ายด้านกลาโหมควรส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วย

สส.จากจังหวัดเพชรบูรณ์ ยังพูดถึงบทบาทของรัฐสภาไทยในการกำกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม โดยผ่านการทำงานของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ เช่น คณะกรรมาธิการทั้งสองสภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ได้ตรวจสอบงบประมาณของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดจนโครงการสวัสดิการทางธุของกองทัพ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ความซื่อสัตย์ และการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณชนเพื่อมีส่วนร่วมในการพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทหารและสวัสดิการของกำลังพล ตลอดจนดำเนินการตามข้อร้องเรียนหรือประเด็นที่น่ากังวลต่างๆ ที่มีต่อกองทัพและกำลังพล
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของรัฐสภาไทยได้รวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการปฏิรูปกองทัพและสวัสดิการกำลังพล โดยยึดตามข้อเท็จจริง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนและปรับโครงสร้างกองทัพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยจำนวนนายทหารระดับสูงและจำนวนกำลังพลที่สมดุล เหมาะสมกับภารกิจ และในขณะเดียวกันก็ปรับใช้เทคโนโลยีป้องกันประเทศที่ทันสมัยมากขึ้น

ขณะเดียวกัน รัฐสภาไทยก็ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสวัสดิภาพและสิทธิประโยชน์ของกำลังพล โดยเฉพาะนายทหารชั้นผู้น้อย เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมีความโปร่งใส ยุติธรรม และปราศจากการทรมาน การกดขี่ หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรูปแบบใดๆ ซึ่งรวมถึงการรับประกันว่ากำลังพลจะไม่ถูกแสวงหาประโยชน์เพื่อใช้แรงงานที่ไม่ใช่ทางทหาร หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์

“สิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับระบอบประชาธิปไตย คือจะต้องทำให้แน่ใจว่ากองทัพปฏิบัติการภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลพลเรือน และยึดมั่นในหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติการทางทหารใดๆ จะต้องไม่ล่วงละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของประชาชน”นายอัครกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น