“เทพไท” วิเคราะห์อายุรัฐบาล “อนุทิน” อาจสั้นกว่า 4 เดือน ชี้เสี่ยง “อุบัติเหตุทางการเมือง” หากไม่ทำ 3 ภารกิจใหญ่ให้สำเร็จ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงกระแสวิเคราะห์อายุของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า จะอยู่ครบ 4 เดือน ตามที่ลงนามใน MOU กับพรรคประชาชนหรือไม่ หลังนายอนุทินประกาศว่าจะยุบสภาในวันที่ 31 มกราคม 2569 อย่างแน่นอน แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจเกิดเหตุทำให้ต้องยุบสภาก่อนกำหนด
นายเทพไท กล่าวว่า ก่อนถึงวันยุบสภา รัฐบาลอนุทินจำเป็นต้องเร่งทำ 3 เรื่องสำคัญให้สำเร็จก่อน คือ
1. ดึงตัว สส.จากพรรคต่างๆ เข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทยให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในระบบเขตจากกลุ่มบ้านใหญ่ พร้อมเคลียร์พื้นที่ทับซ้อนให้เรียบร้อย ปัจจุบันเห็นได้จากการเปิดตัวอดีต ส.ส. และสมาชิกใหม่รายวัน โดยตั้งเป้าหมายให้ได้ สส. 120 คน
2. โยกย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งให้ครบทุกตำแหน่ง นับตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ สัปดาห์แรกย้ายข้าราชการกระทรวงการคลังชุดใหญ่ สัปดาห์ถัดมาย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย 45 ตำแหน่ง โดยอ้างว่าเพื่อคืนความเป็นธรรมและความเหมาะสม แต่ในข้อเท็จจริงคือการจัดระเบียบอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเลือกตั้ง
3. ผลักดันโครงการประชานิยมเฉพาะหน้าให้สำเร็จ เช่น โครงการ “คนละครึ่ง” ที่จะเปิดลงทะเบียนปลายเดือนตุลาคมนี้และใช้ได้ถึงสิ้นปี รวมถึงนโยบายลดค่าโดยสารประชาชน และโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพอื่น ๆ เพื่อสร้างคะแนนนิยมก่อนยุบสภา
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ไม่ว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังวันที่ 31 มกราคม 2569 รัฐบาลต้องทำสามเรื่องนี้ให้เสร็จ เพราะเป็นปัจจัยหลักในการเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง พร้อมระบุว่าผลการลงมติร่างแก้รัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ถือเป็น “สัญญาณเตือน” ต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเสียงข้างน้อย หลังร่างของพรรคประชาชนชนะร่างของพรรคภูมิใจไทย ด้วยคะแนน 300 ต่อ 287 เสียง แม้จะมี ส.ว. สายสีน้ำเงินสนับสนุนก็ตาม
“นี่เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลของนายอนุทินเริ่มง่อนแง่น ไม่มีหลักประกันว่าจะอยู่รอดได้ หากพรรคฝ่ายค้านสองพรรค คือ พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย จับมือกันตรวจสอบและกดดันอย่างจริงจัง รัฐบาลอนุทินอาจต้องยุบสภาก่อนเวลาที่ตั้งไว้” นายเทพไท กล่าวทิ้งท้าย