นายกฯ นำคณะเยือน สปป.ลาว กระชับความสัมพันธ์ เศรษฐกิจ พลังงาน การค้า ปราบยาเสพติด ฉลอง 75 ปี ความสัมพันธ์ พร้อมโทรศัพท์คุย ปธน.เกาหลีใต้ เรื่องประชุมเอเปก ยืนยันปราบสแกมเมอร์ไม่ติดขัด หลังถูกวิจารณ์อาจมีนักการเมืองเอี่ยว ระบุ ตำรวจ-ดีอี ทำตลอด ไม่ได้ตามกระแส
วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 07.20 น. ที่ บน.6 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ที่ประกอบด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศทหาร เพื่อเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และถือว่าการเยือนครั้งแรก ของนายกรัฐมนตรี เป็นการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบรอบ 75 ปี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยก่อนออกเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจแรก หลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ไปเพื่อกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศ รวมถึงการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือที่ทั้งสองประเทศมีอยู่ ทั้งด้านพลังงาน ความมั่นคง การค้า รวมถึงการแสวงหาความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงความร่วมมือในการปราบปรามสแกมเมอร์ วันนี้จะมีการพูดคุยเป็นเนื้อหาหลักหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ใช่ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นภาพรวมอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ประเทศไทยมีแนวทางที่จะไปเสนอเรื่องนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้สื่อข่าวต้องไม่ถามในรายละเอียด ต้องถามในเรื่องของกรอบ ถามในเรื่องนโยบาย ถามรายละเอียดแบบนี้ไม่ได้หรอกครับ นายกฯ ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง
ส่วนที่มีกำหนดการจะหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ที่เวียงจันทน์ ในวันนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า มีการนัดหมายกัน เป็นการหารือกัน ถึงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก ซึ่งจะมีขึ้นหลังการประชุมอาเซียนซัมมิต
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะมีการพูดคุยเรื่องของสแกมเมอร์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของ Current affair (เหตุการณ์ หรือ ข่าวสารปัจจุบัน) ที่มีความสำคัญ และส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ หรือการเมือง
เมื่อถามว่า ภาพรวมการปราบปรามสแกมเมอร์ถือว่าดีใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้การพูดคุยในทุกๆ ด้าน มีความคืบหน้าไปในทางที่ดี
เมื่อถามต่อว่า จะสามารถกวาดล้างได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พอหยุดแล้ว ก็ลงรายละเอียดอีก ใจเย็นๆ
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจจะมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ทำให้การปราบปรามนั้นติดขัด นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่เคยมีติดขัด จริงๆ แล้ว เรามีการปราบปรามสแกมเมอร์อยู่แล้ว ฝ่ายตำรวจก็ดำเนินการอยู่ตลอด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมก็ทำ เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ได้ทำตามกระแส
เมื่อถามว่า คณะกรรมการชุดที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมาใหม่ มีกรอบการทำงานและมีเป้าหมายอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรอบการทำงานเป็นไปตามหนังสือ โดยมี พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานในส่วนของผู้ปฏิบัติงานและผู้ประสานงาน เมื่อถามต่อว่า หวังผลแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หวังผลเลิศ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หากเกาหลีใต้หรือนานาชาติ เช่น สหรัฐฯ ขอความร่วมมือให้เราปราบปรามเราจะมีความพร้อมหรือวางกรอบไว้อย่างไร นายกรัฐมนตรี ยิ้ม พยักหน้ารับ ก่อนกล่าวว่าขอบคุณครับและเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที