“เอกนิติ” เตรียมหารือแบงค์ชาติ ถึงกรอบเงินเฟ้อปีหน้า เผยทีม Connect the Dots จะตรวจสอบเงินทุนสีเทาให้เสร็จ ธ.ค.นี้ และเตรียมคุย พณ.-เอกชน หวังดึงสินค้าบางรายการออกจากภาษีทรัมป์ 19% ยันไม่รื้อนโยบายคณะเจรจา รบ.เก่า
วันที่ 15 ต.ค.นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง กล่าวถึง แนวทางการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนให้ถึง 75% ว่า ที่ผ่านมาที่เราเบิกจ่ายช้า เพราะมีการจัดทำทีโออาร์ช้า ซึ่งวันนี้มีการกำหนดเลยว่า จะต้องทำทีโออาร์ให้แล้วเสร็จเมื่อไร และเงินที่ลงไปต้องถึงในภูมิภาคภายใน 5 วัน ซึ่งจะมีมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายที่ชัดเจน
ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยทำหนังสือเปิดผนึกว่า เงินเฟ้อจะอยู่ที่ 4 % ไปอีก 2 ปีนั้น นายเอกนิติ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย แต่คงมีการหารือนอกรอบ
สำหรับมุมมองกระทรวงการคลัง มองว่า เงินเฟ้อต่ำไปหรือไม่ นายเอกนิติ กล่าวว่า เงินเฟ้อมี 2 ส่วน คือ เงินเฟ้อทั่วไปกับเงินเฟ้อพื้นฐาน โดยเงินเฟ้อทั่วไปมีการคิดคำนวณราคาพลังงานและอาหารสดซึ่งผันผวนตามราคาตลาด วันนี้ที่เงินเฟ้อทั่วไปติดลบ เพราะราคาพลังงานติดลบเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ถือว่า เป็นผลดีกับประชาชน ก็เลยทำให้เงินเฟ้อติดลบ และเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวกอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ตนกับผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยก็เห็นสอดคล้องกัน แต่เงินเฟ้อปีหน้าคงต้องมานั่งคุยกัน
ส่วนกรณีการจัดตั้งทีมทำงาน Connect the Dots หรือ การเชื่อมโยงระบบความปลอดภัยทางการเงิน เพื่อตรวจสอบเงินทุนไหลเข้าที่มีความผิดปกติในช่วงที่ผ่านมา ที่ถูกมองว่า เป็นทุนสีเทานั้น นายเอกนิติ กล่าวว่า มีการประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางผู้ว่า ธปท.พูดคุยกับกระทรวงการคลัง ได้ตกลงกันว่า เรื่อง Connect the Dots จะมีการเชิญ กลต. ปปง. ที่ต้องดูแลในส่วนนี้ด้วย ซึ่งกรอบการทำงานจะต้องมีการตรวจสอบให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม และจะนำมารายงานในคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจด้วย
ทั้งนี้ นายเอกนิติ กล่าวถึง กรณีที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีมเจรจาภาษีสหรัฐฯว่า พยายามทำให้เกิดประโยชน์ที่ดีที่สุด โดยได้มีการคุยนอกรอบกับ รมว.พาณิชย์ และภาคเอกชนบอกว่าทุกคนจะมาช่วยกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่า สิ่งที่เราเคยเจรจาไว้แล้ว 19% ให้พยายามทำให้ดี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการลงรายละเอียด เช่น สินค้าบางชนิด เราอาจจะขอให้ดึงออกมาจากรายการ 19% เป็นแนวทางที่กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งต้องคุยกับภาคเอกชนด้วย
ส่วนจะรื้อรายละเอียดของเดิมหรือไม่ นายเอกนิติ กล่าวว่า คงไม่ได้รื้อ เพราะกรอบนโยบายผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลที่แล้ว ถือเป็นกรอบนโยบาย วันนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลลงรายละเอียด
ทั้งนี้ ตนในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาจะมาดูรายละเอียดว่า สินค้าประเภทไหนที่ประเทศไทยสามารถได้ประโยชน์สูงสุด รวมถึงจะมีการดูแลผู้ประกอบการอย่างไร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์นำเสนอมาว่า จะมีสินค้าบางชนิดที่ต้องการนำเข้าอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหา แต่บางอย่างจะสามารถดึงออกมาจากรายการ 19% ได้หรือไม่ กระทรวงพาณิชย์กำลังดูรายละเอียดอยู่