xs
xsm
sm
md
lg

จับตา"อนุทิน" เลือกทางไหน? "ปานเทพ" จี้ยกเลิก MOU 43-44 ทันที!! ** โยกย้ายบิ๊กมหาดไทย ล้างขั้วแดง…“น้ำเงินขึ้นพรึบ” ดึง “พรพจน์” กลับมานั่งอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อเขากระโดง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว


++ จับตา"อนุทิน" เลือกทางไหน? "ปานเทพ" จี้ยกเลิก MOU 43-44 ทันที!!

หลังจากนี้ต้องจับตาให้ดี เมื่อ “อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมคณะเดินหน้ายื่นหนังสือถึง “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ชนิดที่เรียกได้ว่า "จี้ติด" ขอให้รัฐบาลโชว์ความกล้าหาญ ยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544 หรือ บันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับเขตแดนทางบกและพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลโดยทันที
เหตุผลหลักคือ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงร้ายแรง จนไทยสุ่มเสี่ยงเสียเปรียบ!

“อาจารย์ปานเทพ” ยื่นข้อเสนอเด็ดขาด ให้รัฐบาลยกเลิกทันทีโดยไม่ต้องทำประชามติ และสั่ง ระงับการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC, GBC, RBC) ที่มีข่าวว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 21-22 ตุลาคมนี้ ไปก่อน จนกว่าครม. จะมีมติ! พร้อมแนบเอกสาร "ชุดใหญ่ไฟกะพริบ" 4 บทความ เพื่อประกอบการพิจารณา

ขณะที่ปฏิกิริยาของ “นายกฯอนุทิน” หลังจากรับหนังสือ และรับฟังข้อความทั้งหมดท่ามกลางสักขีพยานสื่อมวลชนและประชาชน “เสี่ยหนู” กล่าวสั้นๆว่า "จะต้องไปอ่านละเอียดก่อน"

ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ยื่นหนังสือถึง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ ยกเลิก MOU 2543 และ MOU 2544
คำพูดนี้เอง ที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา คำถามคือ "ขอไปอ่านก่อน" ของนายกฯอนุทิน เป็นการแสดงความรอบคอบ ตามขั้นตอน หรือ คือการ "ซื้อเวลา" เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบรับที่ชัดเจน!?

หากจริงใจ จะยกเลิกตามหลักฐานที่ชัดยิ่งกว่าชัด ว่ากัมพูชาละเมิดจริง ทำไมจึงไม่กล้ารับปากในเบื้องต้นเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนผู้รักชาติ ?

ไม่ว่ารัฐบาลจะออกลีลาชะชะช่าอย่างไร ก็ต้องบอกว่า...นี่คือ "เผือกร้อน" ที่อนุทินและพรรคภูมิใจไทย ต้องตัดสินใจ

“อาจารย์ปานเทพ” ยังได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กตามหลัง ว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้ส่ง "สาร" ไปถึงนายกฯแล้วว่า หากเห็นด้วย นี่จะเป็น"ผลงานและความกล้าหาญ" ที่น่าชื่นชมของรัฐบาลอนุทิน แต่หากมีการประชุม JBC เกิดขึ้นจริงตามกำหนดเดิม โดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน... รัฐบาลนายอนุทินจะต้อง "รับผิดชอบ" แต่เพียงผู้เดียว หากประเทศไทยต้องเสียสิทธิ หรือความชอบธรรม!
งานนี้ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า “นายกฯอนุทิน” จะใช้เวลา "อ่าน" นานแค่ไหน อ่านจบกี่โมง? และจะนำเข้าครม.เพื่อขอมติ หรือไม่อย่างไร ก่อนการประชุม JBC ที่กำลังจะมาถึงจะเป็น "ตัวชี้ขาด" ว่า อนุทินจะเลือกเส้นทางความกล้าหาญเพื่อผลประโยชน์ของชาติ หรือ เลือกที่ “พลิ้ว” และใช้กลยุทธถ่วงเวลา!?
โปรดอย่ากระพริบตา.

พรพจน์ เพ็ญพาส
++ โยกย้ายบิ๊กมหาดไทย ล้างขั้วแดง…“น้ำเงินขึ้นพรึบ” ดึง “พรพจน์” กลับมานั่งอธิบดีกรมที่ดิน เพื่อเขากระโดง

ไม่ต้องเหนียมกันแล้ว เพราะมีเวลาเหลือไม่มากสำหรับการเตรียมตัวเลือกตั้ง แถมปัญหา “ที่ดินเขากระโดง” ก็เหมือนไฟลนก้น
ที่ประชุมครม. เมื่อวานนี้ (14ต.ค.) ได้ให้ความเห็นชอบ แต่งตั้งโยกย้าย ผู้ว่าราชการจังหวัด และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ในกำกับของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ลอตแรก 45 ตำแหน่ง

คนที่รู้วงใน โดยเฉพาะนักข่าวสายกระทรวงมหาดไทย เห็นรายชื่อแล้ว สรุปสั้นๆว่า ล้างบางขั้วแดง...ขั้วน้ำเงินขึ้นพรึบ! เป้าหมายเพื่อหวังผลเลือกตั้ง

เนวิน ชิดชอบ
เพราะก่อนหน้านี้ ช่วงที่พรรคเพื่อไทย ยึดเอากระทรวงมหาดไทยกลับคืนไป แล้วให้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” มาเป็น รมว.มหาดไทย ก็เพิ่งย้ายล้างบางขั้วน้ำเงินไปหมาดๆ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งเช่นกัน เมื่อกระทรวงมหาดไทย กลับมาอยู่ในกำกับของพรรคภูมิใจไทย ในมือของ“อนุทิน ชาญวีรกูล” ก็เลยถูกล้างบางกลับไปอีกรอบ

เป็นการ “เอาคืน” แบบไม่สนใจว่าประชาชน ที่เฝ้ามอง จะรู้สึกอย่างไร กับการชิงอำนาจเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง

ผู้ว่าฯ หลายจังหวัด ที่ถูกมองว่า เป็นพื้นที่สีแดง ถูกเก็บเข้ากรุ ไปเป็นผู้ตรวจฯ

ตั้งอธิบดีกรมต่างๆใหม่ โดยเอาคนของตัวเองที่เคยถูกเก็บเข้ากรุออกมา หรือเป็นผู้ในสายของตัวเองอยู่แล้วที่มีผลงานดี ให้ได้มีตำแหน่งสูงขึ้น ไปอยู่จังหวัดที่ใหญ่ขึ้น

อย่างเช่น “นฤชา โฆษาศิวิไลซ์” จากผู้ตรวจฯ ไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง... “สยาม ศิริมงคล”จากผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ไปเป็น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน... “ธีรพัฒน์ คัชมาตย์” ผู้ว่าฯอุทัยธานี เป็น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย... “ธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล”ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

และที่พูดถึงกันมาก คือ “พรพจน์ เพ็ญพาส” รองปลัดฯมหาดไทย คัมแบ็ก เป็นอธิบดีกรมที่ดิน

ช่วงที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” เป็น รมว.มหาดไทย “เดชอิศม์ ขาวทอง” เป็น รมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน ได้มีคำสั่งย้าย “พรพจน์ เพ็ญพาส” จากอธิบดีกรมที่ดินไปเป็น รองปลัดฯมหาดไทย แล้ว ย้าย “ขจรเกียรติ รักพานิชมณี” จากผู้ว่าฯสระแก้ว มาเป็นอธิบดีกรมที่ดิน

เพื่อให้มาเซ็นเพิกถอน “ที่ดินเขากระโดง” โดยเฉพาะ แต่ “ขจรเกียรติ”เมื่อมาถึงแล้ว ก็ยังไม่เซ็นทันที บอกว่าขอศึกษารายละเอียด ทำความเข้าใจก่อน ต่อมาก็มีเหตุให้ต้องเข้าผ่าตัด ประกอบกับเป็นจังหวะเดียวกับ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ถูกร้องศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอนจากตำแหน่ง เรื่องคลิปเสียง

ทำให้ “ขจรเกียรติ” มีเวลายื้อ จนกระทั่งรัฐบาลแพทองธาร ล้มไป ก็เลยไม่ต้องเซ็นเพิกถอน

“รัฐบาลอนุทิน” อาจเห็นคุณงามความดี ในเรื่องดังกล่าว การโยกย้ายครั้งนี้จึงไม่ถึงกับตกต่ำ “ขจรเกียรติ” พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ไปเป็น ผู้ว่าฯขอนแก่น จังหวัดใหญ่ในภาคอีสาน

สำหรับ “พรพจน์ เพ็ญพาส” นั้นเป็นที่รู้กันดีว่า ในชีวิตราชการเติบโตมาตามเส้นทาง “บุรีรัมย์คอนเนกชัน” เมื่อ “ที่ดินเขากระโดง” กำลังเป็นประเด็นร้อน เขาจึงต้องกลับมากำกับดูแลกรมที่ดินอีกครั้ง

ขจรเกียรติ รักพานิชมณี
เพราะขณะนี้ ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการยื่นฟ้อง “กรุณา ชิดชอบ” ภรรยา ของ “เนวิน ชิดชอบ” ซึ่ง ครอบครองโฉนดที่ดินเลขที่ 8564 และ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ (1991) จํากัด ซึ่งครอบครองโฉนดที่ดินเลขที่ 3466 บริเวณแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ ต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ในข้อหาหรือฐานความผิด เพิกถอนเอกสิทธิ์ , ขับไล่ , ละเมิด , เรียกค่าเสียหาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย รฟท. ขอให้ศาลฯพิพากษา เพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 8564 และ โฉนดที่ดินเลขที่ 3466 และขอให้ศาลฯ มีคำสั่งให้นางกรุณา และ บริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ฯ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และขนย้ายทรัพย์สินพร้อมบริวาร ออกจากที่ดินดังกล่าว และส่งมอบที่ดินคืนแก่ รฟท. ในสภาพเรียบร้อย รวมทั้งขอให้ศาลฯ มีคำสั่งให้นางกรุณา และบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ฯ ชดใช้เงินค่าใช้ประโยชน์ย้อนหลัง 1 ปี นับแต่วันฟ้องพร้อมดอกเบี้ย 5% ต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

ต้องติดตามกันว่า การนำ “พรพจน์ เพ็ญพาส” กลับมานั่งเป็นอธิบดีกรมที่ดิน จะสามารถผ่อนหนักเป็นเบา ขจัดปัดเป่า ปัญหาที่ดินเขากระโดงไปได้ อย่างที่บ้านใหญ่บุรีรัมย์ตั้งหวังไว้หรือไม่

สำหรับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย บอกว่าการแต่งตั้งโยกย้าย ผู้ว่าฯ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการ “เอาคืน” หรือ “ล้างบาง” เป็นเรื่องของปลัดกระทรวงมหาดไทยล้วนๆ ที่เป็นคนพิจารณาสั่งย้าย ตนเองเป็นเพียงผู้นำบรรจุเข้าครม. ตามคำสั่งที่ปลัดฯเสนอขึ้นมาเท่านั้น

ฟังแล้วก็ต้องบอกว่า...ใครก็ได้ ช่วยพา “อนุทิน” ไปสาบานที่วัดพระแก้วด้วยถ้อยคำสาหัสหน่อยเถอะ ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโยกย้ายครั้งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น