xs
xsm
sm
md
lg

“พิสิษฐ์” ซัดร่างแก้ รธน.ปชน.เซาะกร่อน–บ่อนทำลาย ไล่หาชื่อพรรคใหม่รอ ของ พท.ผลาญงบ ยัน สว.ไม่ขวางยึด กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สว.พิสิษฐ์” ตั้งชื่อร่างแก้ รธน.ฉบับ ปชน. “ฉบับเซาะกร่อน–บ่อนทำลาย” ส่อขัดคำวินิจฉัยศาล รธน. ชี้ เขียนหมวด 1-2 มีเจตนา “ล้มล้าง” เทียบเคส “ก้าวไกล” แนะเตรียมหาชื่อพรรคใหม่ ส่วนฉบับของ พท. ตั้ง กมธ.ยกร่างขัดคำวินิจฉัยศาล-มีสภาที่ปรึกษา ผลาญงบแผ่นดิน ลั่น สว.ไม่เคยขวางแก้ รธน. แต่ต้องอยู่ในกรอบ กม.

วันนี้ (14 ต.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งเสนอโดย 3 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกรัฐสภา อภิปรายยืนยันว่า สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ไม่เคยคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญตามที่มีกระแสข่าว แต่ส่วนใหญ่รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเคารพเสียงของประชาชนกว่า 16 ล้านเสียงที่ลงประชามติรับรองรัฐธรรมนูญปี 2560

ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชัดว่า แม้รัฐสภาจะมีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมได้ แต่ต้องไม่กระทำเกินขอบเขตอำนาจที่รัฐธรรมนูญกำหนด หากผู้เสนอแก้ไขตีความเกินเลยจากคำวินิจฉัยดังกล่าว อาจทำให้กระบวนการแก้ไขล้มเหลว และนำไปสู่การร้องเรียนให้ศาลพิจารณาอีกครั้ง ทั้ง สส. และ สว. จะต้องร่วมกันรับผิดชอบ หากปล่อยให้การแก้ไขนี้ผิดทาง

โดยดูได้จาก มาตรา 256 / 26 อนุสองบัญญัติ “การให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอาจมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ตนถามว่า วันนี้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องมีการร้องขอแล้วหรือ ในเมื่อมาตรา 2 ของ รธน.ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราต้องร้องขอหรือกราบขอนายพลและภาคประชาชนไหมว่าต้องมีบทบัญญัติแบบนี้ลงไปใน รธน.ฉบับต่อไป

และในมาตรา 6 หมวดสอง ของรัฐธรรมนูญปี 60 ยังบัญญัติว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดกล่าวหาไม่ได้ฟ้องร้องในทางใดไม่ได้ ตนต้องกราบขอร้องด้วยหรือไม่ว่าขอให้มีบทบัญญัตินี้ ทำไมไม่เขียนว่าการรับรองความเป็นราชอาณาจักร อันหนึ่งเดียวจะแบ่งแยกไม่ได้ และควรจะเขียนในข้อ 2 ร่างของท่านว่า “รับรองการมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอาจมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” เขียนแบบนี้มีเจตนาอย่างไร

”ผมต้องขอทบทวนความจำให้กับท่านว่าท่านคงไม่เข็ดใช่หรือไม่กับพรรคก้าวไกลที่ถูกยุบพรรคเพราะอะไร ก็เพราะมีเจตนาเซาะกร่อน บ่อนทำลาย เป็นเหตุให้สถาบันชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทรามหรืออ่อนแอลงเพราะเข้าข่ายลักษณะล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเป็นการทำร้ายจิตใจของปวงชนชาวไทยที่มีความเคารพสถาบัน เพราะทรงเป็นประมุขและศูนย์รวมความเป็นชาติที่ต้องคุ้มครองและรัฐเป็นผู้เสียหายฟ้องร้องในคดีอาญา ผมคงต้องถามนายพริษฐ์ และพรรคประชาชนว่าเจตนาต้องการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ตามแบบที่เขียนใช่หรือไม่ และท่านเตรียมหาชื่อพรรคใหม่ไว้หรือยัง เพราะท่านเขียนแบบนี้ขึ้นมามันมีเจตนาชัดเจนตามรัฐธรรมนูญที่เคยวินิจฉัยไว้ชัดเจน”

และการอ้างว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ขาดความชอบธรรม เพราะผ่านประชามติที่ไม่เสรีเท่ากับเป็นการกล่าวหาประชาชนกว่า 16 ล้านเสียงที่เห็นชอบร่างเดิมว่าเป็นผู้สนับสนุนคณะรัฐประหาร ซึ่งเป็นการดูหมิ่นเจตจำนงของประชาชนโดยตรง

นายพิสิษฐ์ ยังระบุว่า การเพิ่มหมวด 15/1 ของพรรคประชาชน ที่ให้ประชาชนเลือก “คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ” โดยตรงนั้น ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 18/2568 ซึ่งระบุชัดว่า “รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงได้” จึงอาจเป็นเหตุให้มีผู้ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าร่างดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

สำหรับร่างของ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายพิสิษฐ์ มองว่า ก็มีความสุ่มเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะมาตรา 256/6 ที่บัญญัติให้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การตั้ง “สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ” เป็นเรื่องสิ้นเปลืองงบประมาณและไม่จำเป็น

ส่วนคุณสมบัติของกรรมาธิการยกร่างและสภาที่ปรึกษาฯ ที่เปิดช่องให้ ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครเลือกตั้ง หรือ ถูกระงับสิทธิชั่วคราว สามารถเข้ารับการคัดเลือกได้ว่า กำลังเปิดทางให้ใครบางคนหรือไม่ กำลังหางานให้ผู้มีบารมีนอกพรรค หรือผู้นำทางจิตวิญญาณของพวกท่านใช่หรือไม่

นายพิสิษฐ์ ยังวิจารณ์ว่าการกำหนดให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านเพียงเสียงข้างมากของรัฐสภาอาจเป็นการถ่วงดุลที่ไม่แท้จริง เพราะร่างกฎหมายทั่วไปยังต้องพิจารณาถึง 3 วาระ แต่ร่างรัฐธรรมนูญกลับใช้วาระเดียวแล้วผ่านเลย

“ผมหวังว่า พวกท่านคงไม่คิดจะตัดคำว่า ‘ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์’ และ ‘ไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง’ ออกจากรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นคำที่พวกท่านกลัวกันมาก” นายพิสิษฐ์กล่าว พร้อมย้ำว่า ตนสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย เคารพบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด


กำลังโหลดความคิดเห็น