ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ “อนุทิน” นายกฯขยันพูด…พูดวันนี้ ไม่เหมือนกับพูดเมื่อวาน
ศึกเลือกตั้งซ่อม กาญจนบุรี เขต 4 ที่จะมีการหย่อนบัตรกันในวันที่ 19 ต.ค.นี้ เป็นการปะทะกันระหว่าง พรรคภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทย อีกครั้ง หลังจากรอบที่แล้วเจอกันที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งผลออกมาภูมิใจไทยเข้าวิน
เลือกตั้งซ่อมเมืองกาญจน์ครั้งนี้ เหตุเพราะ “ศักดา วิเชียรศิลป์” สส.เพื่อไทย ลาออก เพื่อไปรับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ในรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” หลังพา สส.ในก๊วน 8 คน แหกมติพรรค ข้ามไปโหวตหนุน “เสี่ยหนู” เลยได้รับเก้าอี้รัฐมนตรี เป็นการตอบแทน
“ศักดา” ส่งลูกสาว คือ “น.ส.วิสุดา วิเชียรศิลป์” หรือ “ดรีม” วัย 31 ปี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนของกระทรวงมหาดไทย ที่ลาออกจากราชการมาลงสมัครสืบทอดฐานเสียงทางการเมืองของพ่อ โดยสวมเสื้อสีน้ำเงิน ลงสนามในนามพรรคภูมิใจไทย
ส่วนพรรคเพื่อไทย ส่ง “พล.อ.ดร.ชินวัฒน์ แม้นเดช” อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 และนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกาญจนบุรี ลงสู้ เพื่อรักษาฐานเสียงที่เขต 4 เช่นกัน
แค่สส.1 เสียงนี้ แม้จะไม่มีความสำคัญในเกมสภา แต่ในเกมการเมืองภาพรวม ถือว่าสำคัญยิ่ง เพราะยามนี้ “เพื่อไทย” นอกจากต้องรักษาพื้นที่เดิมแล้ว ยังหวังกอบกู้ชื่อเสียงที่ระยะหลัง “พัง” ไปเยอะ เป็นการสกัดเลือดไหลไปในตัว
ขณะที่ “ภูมิใจดูด” ก็กำลังขยับขยาย จะมายึดพื้นที่ภาคกลาง หวังให้การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ สร้างความคึกคัก เสริมภาพลักษณ์ว่า สีน้ำเงินกำลังมาแรง มีโอกาสเป็นรัฐบาลอีก 4 ปีแน่
บรรยากาศการหาเสียงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้าย เพื่อไทยส่ง “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ แกนนำพรรค อย่าง “อดิศร เพียงเกษ” และ “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” นำทีมไปช่วย ส่วน “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ยังไม่มีกำหนดการลงพื้นที่
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ลงไปช่วยหาเสียงด้วยตัวเอง แถมหอบหิ้วเอาแกนนำพรรค และรัฐมนตรี ติดตามไปเสริมบารมีเป็นโขยง เพราะต้องปักธงให้ได้
ทันทีที่ขึ้นเวทีปราศรัย “อนุทิน” ก็ออกลูกอ้อน บอกคราวที่แล้วพ่อแม่พี่น้อง เลือก “ศักดา” ผู้พ่อเป็นสส. ตนเห็นว่าน่าจะดูแลพ่อแม่พี่น้องได้มากกว่านี้ จึงชวนไปเป็นรัฐมนตรี เลยต้องลาออกจากสส. แต่ไม่เป็นไร เรามีเลือดเนื้อเชื้อไข ที่อาสามารับใช้ไม่ให้ขาดช่วง คราวนี้ได้ทั้งพ่อทั้งลูก ใช้พ่อแล้ว ถ้าจะจิกหัวใช้ลูก ขอให้เลือก “วิสุดา”
จากนั้น ก็เคลมว่า ถนนมอเตอร์เวย์ จากกรุงเทพฯมาเมืองกาญฯ ก็เป็นผลงานของตนเอง ดังนั้นถ้ารอบนี้ เลือก“วิสุดา” ก็จะรับใช้พี่น้องแบบไม่ลืมหูลืมตา
ส่วน “นโยบายประชานิยม” ก็บอกว่า นี่ตนเองเพิ่งทำงานได้แค่ 12 วัน แต่เรื่องเงินสวัสดิการแห่งรัฐเรียบร้อยแล้ว อาทิตย์ที่แล้ว “คนละครึ่งพลัส” ก็ผ่าน ครม. เรียบร้อย ถึงเวลาอย่าลืมไปลงทะเบียนกัน ยังมีเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนละ 100,000 บาท ให้พ่อแม่พี่น้องได้ลืมตาอ้าปากกันอีก
“อนุทิน” ย้ำว่า อย่าลืมวันอาทิตย์ที่19 ต.ค. นี้ ขอให้ท่านได้ร้องวันเกิดให้ สส.ใหม่ “ดรีม” วิสุดา วิเชียรศิลป์ ขอให้สวดชยันโต ไม่ใช่อนิจจังวัฏสังขารา ซึ่งตนขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะดูแลอนาคต “น้องดรีม” ให้เต็มที่ พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ขนาดพ่อไม่ค่อยหล่อ ได้เป็นรัฐมนตรี ลูกสาวสวยขนาดนี้ ต้องเป็นยิ่งกว่ารัฐมนตรี เผลอๆ ดีไม่ดี ได้เป็นนายกฯหญิง อีกคนหนึ่ง
ขึ้นเวทีครั้งนี้ ยังมีเรื่องปัญหาชายแดน ไทย-กัมพูชา ที่ “อนุทิน” หยิบเอามาหาเสียง โดยถามว่า จะให้เปิดด่านหรือไม่ ซึ่งชาวบ้านก็ส่งเสียงตะโกนกลับ ว่า ไม่ “อนุทิน” ยืนยันว่า เรื่องเปิดด่านไม่มี ถ้าฝืนก็จะเป็นอดีตนายกฯทันที ถูกกระทืบตาย
ความจริงเรื่องเปิดด่านหรือไม่ ทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ ยืนยันชัดเจนว่า ไม่สมควรเปิดด่านในช่วงนี้
เรื่องที่ “อนุทิน” ควรหยิบยกขึ้นมาถาม หรือนำมาประกาศเป็นจุดยืนของรัฐบาลคือ เรื่องยกเลิก “เอ็มโอยู 43-44” เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ในเรื่องเขตแดน และแหล่งก๊าซในทะเล เพราะก่อนหน้านี้ ตอนเป็นฝ่ายค้านบรรดาแกนนำพรรคภูมิใจไทย ก็พูดแล้วพูดอีกว่า จะต้องยกเลิก
เพราะเห็นชัดว่า ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน “เอ็มโอยู 43-44” ทำให้ไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
แต่พอได้เป็นรัฐบาล “อนุทิน” กลับบ่ายเบี่ยง หาทางผลักภาระไปให้ประชาชน อ้างว่าต้องทำประชามติ แต่พอเริ่มมีกระแสไม่เห็นด้วยในเรื่องการทำประชามติ ก็อ้างว่าเรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาของคณะกรรมาธิการสภาฯ ต้องรอผลการศึกษาก่อน ว่าจะเอาอย่างไร ถ้าเลิกแล้วจะมีผลกระทบตามมาหรือไม่
ที่ผ่านมา “อนุทิน” มักยกสโลแกนของพรรคว่า ภูมิใจไทย พูดแล้วทำ และทำเร็วด้วย
แต่ขึ้นเวทีหาเสียงรอบนี้ “อนุทิน” กลายเป็น “นายกฯขยันพูด”
เหนืออื่นใดคือ “พูดวันนี้ ไม่เหมือนกับพูดเมื่อวาน”
วันอาทิตย์ที่19 ต.ค.นี้ ต้องวัดใจกันว่า คนเมืองกาญจน์ ย่าน อ.เลาขวัญ ห้วยกระเจา บ่อพลอย และหนองปรือ จะเลือกสีแดง หรือ สีน้ำเงิน
++ สะกดทั้งเซี่ยงไฮ้! "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล มือหนึ่งโลก จากเด็กหญิงภูมิแพ้ สู่ราชินีวงสวิงที่ต้องชื่นชม!
ผลงานยังคงร้อนแรงสำหรับ "โปรจีโน่" หรือ "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล โปรสาวไทยมือ1ของโลก
เรียกว่า วงการกอล์ฟมีเรื่องให้น่ายินดีกับชัยชนะของเธอล่าสุด เมื่อโชว์วงสวิงสะกดสายตาผู้ชมในการแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ รายการ "บิวอิค แอลพีจีเอ เซี่ยงไฮ้ 2025" ชิงเงินรางวัลรวม 2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 71.4 ล้านบาท
เมื่อวาน (12 ต.ค.) ที่สนามฉีจง การ์เด้น กอล์ฟ คลับ พาร์ 72 กลายเป็นเวทีเดือดของสองสาวเอเชีย
"จีโน่" ดวลเดือดกับ "มินามิ คัตสึ" มือ 43 โลกจากญี่ปุ่น ทั้งคู่ตีไล่กันชนิดหายใจรดต้นคอ จบสี่รอบ เสมอกันที่ 24 อันเดอร์พาร์ ต้องลากเข้าดวลเพลย์ออฟ ถึงหลุมที่ 5!
แล้ว... ช็อตนั้นก็มาถึง จีโน่ตีแอพโพรชขึ้นกรีนอย่างเฉียบคม ก่อนที่เบอร์ดี้แห่งชัยชนะ จะลงหลุมอย่างสง่างาม
เธอผงาดคว้าแชมป์ LPGA รายการที่ 6 ในชีวิต และแชมป์ที่ 2 ของปี ต่อจาก “มิซูโฮ อเมริกาส์ โอเพ่น” เดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา
ถึงนาทีนี้คงต้องบอก ..ใครจะเชื่อว่า จากเด็กหญิงจังหวัดราชบุรี ที่คุณแม่ให้จับไม้กอล์ฟตั้งแต่อายุ 6 ขวบ “เพียงเพื่อสุขภาพ” จะเติบโตขึ้นเป็นตำนานระดับโลก
“อาฒยา” เริ่มต้นด้วยหัวใจนักสู้ เธอใช้กอล์ฟเป็นยารักษาร่างกาย แต่กลับกลายเป็น “เวทีสร้างชื่อ” จนโลกต้องจดจำ ด้วยวัยเพียง 14 ปี 4 เดือน เธอคว้าแชมป์ Ladies European Thailand Championship 2017 สร้างสถิติ “นักกอล์ฟอาชีพที่อายุน้อยที่สุดในโลก” ที่คว้าแชมป์ระดับโปร!
ปี 2018 เธอรับเหรียญทอง โอลิมปิกเยาวชน ประเภททีมผสม
ปี 2020 เทิร์นโปรเต็มตัว
และปี 2022 เธอก้าวขึ้นเป็น นักกอล์ฟหญิงมือ 1 ของโลก ด้วยวัยเพียง19 ปี จนถูกขนานนามให้เป็นสาวน้อยมหัศจรรย์แห่งวงการกอล์ฟไทย
ว่ากันว่า “จีโน่” ไม่ใช่แค่โปรที่ตีได้ดี แต่เป็นคนที่“ใจนิ่งที่สุด”
วันนี้เธอไม่ได้แค่ชนะคู่แข่งในสนาม แต่ยังชนะใจแฟนกอล์ฟทั่วโลกอีกครั้ง
เพราะความสวยงามของกอล์ฟ อยู่ที่หัวใจของคนตี และหัวใจของโปรจีโน่ คือหัวใจที่ไม่ยอมแพ้!!
วันนี้กล่าวได้ว่า “โปรจีน” เป็นแบบอย่าง และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ และเยาวชนได้เป็นอย่างดี...เพราะ จากเด็กหญิงภูมิแพ้…สู่มือหนึ่งโลก ทุกช็อต คือ เรื่องราว ทุกชัยชนะ คือแรงบันดาลใจ.