"อนุทิน" ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท ขอทำงานบูรณาการ หาทางเพิ่มเงินเยียวยา-สร้างที่กักเก็บน้ำ วางรากฐานระยะยาว มั่นใจทำได้ดีกว่าทุกรบ.เพราะไม่ใช่รบ.ผสม ลั่น ไม่เคยหวังคะแนนเสียงจากความทุกข์ปชช. สั่ง ผู้ว่าฯดูปัญหาติดขัดเอกสารล่าช้า สัญญาได้เงินคืนหาก Cover ไปก่อนเพราะมีงบกลาง ผู้ว่าฯหวานเจี๊ยบ บอกเป็นนายกฯ-มท.1 ในดวงใจ
วันนี้ (10ต.ค.) เวลา 15.40 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางต่อมายังจังหวัดชัยนาท เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและแผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ ห้องประชุมสำนักชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
โดยเมื่อมาถึง ได้รับฟังรายงานจาก นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ซึ่งยกให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในดวงใจ ก่อนจะกล่าวรายงานว่า พื้นที่ที่มีปัญหาขณะนี้พื้นที่ที่อยู่ท้ายเขื่อน 5 ตำบล ในอำเภอสรรพยา โดยมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจำนวนประมาณ 1,700 คน
แต่ขณะนี้ทุกคนยังปลอดภัย ขณะที่พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 400 ไร่ ซึ่งต้องเร่งระบายน้ำมากขึ้น เพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ตนและคณะได้เดินทางตรวจน้ำลงมาจากจังหวัดพิจิตรซึ่งหนักหนาสาหัสพอสมควรโดยเฉพาะในตำบลตะพานหิน ซึ่งพบว่ามีปริมาณน้ำจำนวนมากซึ่งเราต้องเร่งผลักดันออกไปให้ได้แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้เราเข้าสู่ปลายฤดูฝนแล้ว หากไม่มีปริมาณน้ำฝนเติมเข้ามาอีกสถานการณ์น่าจะลดระดับความรุนแรงลงมาได้ในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ ซึ่งพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือนแค่ 1 ชั่วโมงก็ยากลำบากสำหรับเขาจึงได้สั่งการให้หน่วย
เห็นความจำเป็นเร่งด่วนและหาวิธีการแก้ปัญหาความทุกข์ประชาชนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งนี้ ตนในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องวางกรอบทำงานให้กับทุกท่าน เพื่อนำไปปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบต่อไป ซึ่งหากต้องการการสนับสนุนด้านใดที่รัฐบาลต้องดำเนินการก็พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานในพื้นที่ เพราะตนคงไปสั่งงานวิศวกรเองไม่ได้ ไม่สามารถไปทุกหมู่บ้านทั้งหมดได้ แต่เชื่อว่าเครือข่ายของจังหวัดสามารถบริหารจัดการได้ทั้งภูมิภาค
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเคยมามาอยู่ในพื้นที่นี้ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ตน มาในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยก็มี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาด้วย แต่ในขณะนั้นเรื่องของการสั่งงานอาจจะไม่ใช่หน้าที่โดยตรงแต่ในเมื่อตนได้กลับมาบริหาร ก็ต้องทำอย่างสุดความสามารถและมีหน้าที่โดยตรงเพราะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย
นานกรัฐมนตรี มีความเข้าใจกันกว่ารัฐบาลชุดที่ที่ผ่านมาทุกชุด เพราะเมื่อเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเราไม่ได้มองว่าเป็นรัฐบาลผสม แต่เป็นรัฐบาลเดียวที่ต้องให้การดูแลพี่น้องประชาชน ตนมั่นใจว่า จะเปลี่ยนไปจึงขอความร่วมมือกับฝ่ายข้าราชการประจำขอให้ดำเนินการในการบูรณาการความร่วมมือทั้งหลาย โดยเอาเป้าหมายว่าน้ำจะต้องถูกระบาดโดยเร็วเป็นตัวตั้งและเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาก็ต้องเร่งดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลสี่เดือนทำได้เท่านี้ก็โอเคแล้ว
ส่วนเรื่องการดำเนินงานตนไม่ไปรบกวน เพราะยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดูแล ไม่ว่าหลังเลือกตั้งจะเป็นรัฐบาลไหนเข้ามาก็จะต้องวางรากฐานให้สามารถสานต่อได้ไม่มีความคิดว่าเป็นเรื่องการเมืองใครทำแล้วจะได้คะแนนหรือไม่ได้คะแนน ซึ่งตรงนี้เป็นวิธีการทำงานของตนไม่เคยคิดว่าใครจะได้หน้าได้ตา หรือได้คะแนนเพราะการได้มาจากความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แต่ปัญหาไม่จบไม่สิ้นตนจึงขอถามให้จบภายในปีเดียวและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนหายไป
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้ลองคิดดูว่าปีที่แล้วใช้เงินเกือบ 30,000 ล้านบาท ในการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งความจริงแล้วสามารถใช้ได้เป็น6 ปี และในสามปีที่ผ่านมาตนเซ็นเงินเยียวยาไปแล้ว 60,000 ล้านบาท เกือบ 70,000 ล้านบาท แต่กลับหายไปเลยในปีเดียว ดังนั้นควรผันเงินเหล่านี้มาทำให้เป็นถาวรวัตถุที่สามารถบริหารจัดการระบบการระบายน้ำ และบริหารทรัพยากรน้ำให้ดีที่สุดสามารถกักเก็บหรือไหลผ่านตรงไหนได้ เพราะทำถนนให้รถวิ่งมาเยอะแล้วตอนนี้อาจจะทำทางให้น้ำไหลบ้าง โดยต้องแก้ไขปัญหาทั้งหลายอย่างเป็นระบบ
วันนี้ตนขึ้น ฮ. ที่เห็นน้ำเต็มไปหมด แต่อีกแป๊บเดียวในไม่กี่เดือนก็ต้องขึ้นหน้า ฮ.อีกครั้งเพื่อติดตามภัยแล้งจึงต้องมาคิดดูว่าจะบริหารจัดการแบบไหน ต้องดูว่ามีพื้นที่ว่างสำหรับการผันน้ำไปไว้ตรงนั้นหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าอาจจะต้องมีการตั้งงบขึ้นมาได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องระยะยาวระยะ7-8 ปีซึ่งชาวบ้านคงไม่มาอดทนขนาดนั้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าปีนี้ต้องขอโทษพี่น้องประชาชน ตนได้สอบถามหลายคนไม่ได้ท่วมแค่หน้าแข้งแต่ท่วมถึงหน้าอกบางคนถึงคอและ ท่วมมาแล้ว 3-4 เดือน มอบหมายให้นายภราดรปริศนานามสกุลรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯรัฐมนตรีให้พิจารณาเงินเยียวยาว่าหากท่วมเกิน 1 เดือน 2 เดือน จะมีวิธีช่วยพี่น้องประชาชนอย่างไรบ้าง เราเห็นพี่น้องประชาชนเดือดร้อนไปแบบนี้ทุกปีไม่ได้ ซึ่งแม้จะมีการเพิ่มเงินเยียวยาเชื่อว่าหากพี่น้องประชาชนเลือกได้ก็คงเลือกขอไม่โดนน้ำท่วม สิ่งเหล่านี้รัฐบาลจึงต้องไปเร่งหาวิธีการในเรื่องการแก้ปัญหาการระบายน้ำโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ขอให้ทุกหน่วยงานมงคลเดือดร้อนของพี่นกประชาชนเป็นหลัก ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปดูเรื่องการอนุมัติเรื่องต่างๆที่เอกสารล่าช้าหรือหากเกินอำนาจขอให้รายงานมาที่ปลัดว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเรื่องปัญหาเอกสารล่าช้าตนคิดว่ายังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายเรื่องที่ทำให้เรื่องล่าช้า ซึ่งก็จะเกิดปัญหาแบบโดมิโน่ที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนดังนั้นจึงขอให้ทำงานแบบบูรณาการ มีตรงไหนที่ Cover ได้ก่อนขอให้ทำและ ตนขอให้สัญญาว่าหากมีตรงไหนออกสำรอง ไปก่อน จะได้คืนเพราะตนกำกับดูแลงบกลางอยู่