xs
xsm
sm
md
lg

“รัฐมนตรีสิงห์” สั่งฟันทันทีโรงงานปล่อยน้ำเสีย ผูกมัดเครื่องจักร-ประทับตรา ห้ามเดินเครื่องเด็ดขาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จ่าเอก ยศสิงห์ สั่งคณะทำงานเดินหน้านโยบาย‘อุตสาหกรรมพึ่งพาได้’ คุมเข้มโรงงานฉะเชิงเทรา ‘ปิดเร็ว’ เร่งด่วน ย้ำชัดพร้อม ‘เปิดไว’ หากแก้ไขตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและถูกต้อง

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้นายอุดร เทพวาที คณะที่ปรึกษา นำคณะทำงานลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ อาทิ นายพิษณุพงษ์ เศรษฐวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลเขาหินซ้อน และ กำนันวิเชียร จิตต์สำราญ ตรวจสอบโรงงานถอดแยกและบดย่อยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังได้รับรายงานว่ามีการดำเนินกิจการที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ

จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานดังกล่าวยังคงมีการ Bypass น้ำเสียโดยไม่ผ่านระบบบำบัด และปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ รวมทั้งมีเสียงดังรบกวนประชาชนในพื้นที่ ทำให้หลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เข้าดำเนินการตามมาตรการที่รัฐมนตรีช่วยฯ กำหนดอย่างเข้มงวด โดยผูกมัดเครื่องจักรหลักของโรงงานด้วย ลวดสลิงและผนึกด้วยแผ่นดีบุกประทับตราราชการ เพื่อระงับการทำงานทุกระบบในระหว่างรอการปรับปรุงให้ถูกต้องตามกฎหมาย เครื่องจักรที่ถูกดำเนินการ ได้แก่ เครื่องบดย่อยเศษสายไฟและเครื่องร่อนแยกด้วยน้ำ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการปล่อยน้ำเสียในพื้นที่

มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายเรือธงของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ‘ปิดเร็ว-เปิดเร็ว-พึ่งพาได้’ ที่จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ผลักดันอย่างจริงจัง โดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อโรงงานที่ละเมิดหรือก่อผลกระทบต่อชุมชน พร้อมให้โอกาสแก่ผู้ประกอบการที่ปรับปรุงแก้ไขถูกต้องให้กลับมาดำเนินกิจการได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาการจ้างงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ให้เดินหน้าต่อไป

รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ย้ำว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่ใช่การปิดโรงงานเพื่อทำลายธุรกิจ แต่เป็นการปกป้องสิทธิของชาวบ้านและรักษามาตรฐานสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับกรอบกฎหมาย
นอกจากนั้น รัฐมนตรีช่วยฯ ยังได้มอบหมายให้ทีมคณะที่ปรึกษาติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าการปรับปรุงของโรงงานเป็นไปตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้รายงานผลเข้าสู่กระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อนำข้อมูลไปใช้เป็นแนวทางในการกำหนดมาตรการเชิงระบบสำหรับโรงงานอื่น ๆ ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการทำงานเชิงรุกภายใน 120 วันของรัฐมนตรีช่วยฯ ที่มุ่งเน้นการรับฟังปัญหาจากพื้นที่จริงและขับเคลื่อนการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดระบบอุตสาหกรรมที่โปร่งใส ยั่งยืน และพึ่งพาได้อย่างแท้จริง โดยยึดหลักว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจต้องเดินหน้าไปพร้อมกับความสุขของประชาชนในชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมภายใต้กรอบกฎหมายอย่างเคร่งคัด




กำลังโหลดความคิดเห็น