xs
xsm
sm
md
lg

พีทูฟบุกหนุนกมธ.นิรโทษคดีรุกป่าเร่งทำกม. "ทวี" คาดเสร็จปลายต.ค. "เลาฟั้ง" ชี้นายทุนไม่มีผลกระทบมีแต่ชาวบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"พีมูฟ" บุกยื่นกมธ.นิรโทษคดีรุกป่า หนุนเร่งทำกม.ให้แล้วเสร็จ ซัดทวงคืนผืนป่าทำชาวบ้านเป็นเหยื่อจากนโยบายรัฐที่ผิดพลาด "ทวี" คาดเสร็จปลายต.ค. เชิญคนสุดโต่งเข้าฟังกมธ. "เลาฟั้ง" บอกมองไม่เห็นนายทุนมีแต่ชาวบ้านรับผลกระทบ โต้ฝ่ายจ้องร้องป.ป.ช. ยันล้างมลทินชาวบ้าน สส.ทำตามกระบวนการปกติ

เมื่อวันที่ (9 ต.ค.) ที่รัฐสภา เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐ และได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ด้านป่าไม้และที่ดิน ร่วมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ยื่นหนังสือข้อเสนอต่อการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับผลกระทบจากการดำเนินการนโยบายของรัฐด้านที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ….. โดยมีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ราษฎรฯ เป็นผู้รับหนังสือ

โดยตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า การดำเนินการตามนโยบายด้านการจัดการด้านที่ดินและป่าไม้ของรัฐที่ผ่านมา มีคนจน ผู้ยากไร้ กลุ่มชาติพันธุ์ คนชายขอบ ได้รับความเสียหายและผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวจำนวนมาก ทำให้พวกประชาชนไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะไม่มีความมั่นคงในที่ดินที่อยู่อาศัย ถูกแนวเขตที่ดินของรัฐทับที่ทำกิน ทั้ง ๆ ที่อยู่มาก่อนการประกาศเขตป่าของรัฐ ทำให้เราผู้บุกเบิกกลายเป็นผู้บุกรุกในที่ดินของตนเอง ขณะที่การประกาศเขตป่าไม้และที่ดินในหลายพื้นที่ พบว่ามีนายทุน หรือมีอิทธิพล และคนร่ำรวย ซึ่งเป็นแค่คนส่วนน้อยได้ยึดครองที่ดินจำนวนมาก ขณะที่คนจนผู้ยากไร้จำนวนมากกลับไม่มีที่ดินที่ทำกิน แม้อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐ ก็ไม่มีมั่นคงถูกคุกคามด้วยการดำเนินคดี โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์รัฐประหารปี 2557 มีคดีที่เกิดจากนโยบายทวงคืนผืนป่ากว่า 48,000 คดี

ตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวต่อว่า รวมถึงการดำเนินการตามนโยบายทวงคืนผืนป่า คือ รูปธรรมความล้มเหลวในการจัดการทรัพยากรป่าไม้แบบรวมศูนย์ผูกขาดของรัฐที่ไม่อาจจัดการกับกลุ่มนายทุนบุกรุกผืนป่าได้ แต่รัฐกลับมาดำเนินคดีกับคนจนผู้ยากไร้แทน ผู้ร้องเหล่านี้ คือ “เหยื่อ” ผู้ได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านป่าไม้ที่ดิน ทำให้ไร้สิทธิ์ที่จะอยู่บนผืนดินของตนเอง ครอบครัวล่มสลาย มีปัญหาหนี้สิน อันมีสาเหตุมาจากนโยบายการจัดการที่ดินและทรัพยากรของรัฐ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาผู้ร้องคือผู้สร้างประโยชน์ในการพัฒนาประเทศด้วยความมานะอดทนทำมาหากินโดยสุจริตบนผืนดินของบรรพชนที่บุกเบิก หากินเลี้ยงชีพบนฐานของการทำเกษตรกรรมเลี้ยงแบบพอมีพอกิน ประชาชนไม่ใช่นายทุน มิใช่อาชญากรรรมของแผ่นดิน หากแต่ดำเนินการของรัฐดังกล่าว ประชาชนคือ เหยื่อจากนโยบายรัฐที่ผิดพลาด

“ทั้งนี้ขอสนับสนุน และให้เร่งผลักดันกฎหมายฉบับนี้ จะนำมาซึ่งการคืนสิทธิ และความเป็นธรรมทั้งปวงให้กับพวกเรา ผู้เสียหาย และได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดิน และป่าไม้ กฎหมายฉบับนี้ จะก่อให้เกิดความสันติสุข ภายใต้สิทธิมนุษยชนสากล ซึ่งถึงเวลาแล้วที่สภาฯ จะได้ร่วมกันสร้างความถูกต้องเรื่องแนวเขตที่ดินของรัฐ ภายใต้หลักประชาธิปไตย เคารพสิทธิมนุษยชน สร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิต ภายใต้การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล เป็นธรรม และยั่งยืน”ตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า กมธ. มีการพิจารณาอย่างรอบด้าน รวมถึงกำหนดโทษความผิด ในกรณีที่รัฐรังแกประชาชน หรือประกาศเขตป่า อุทยานฯ ที่ไปทับที่ของประชาชนที่อยู่มาก่อน เราพบว่ามีการศึกษา และมีชุมชนจำนวนมาก ถูกประกาศทับพื้นที่ เมื่อรัฐดำเนินการแล้ว ไม่มีการแก้ไข ทำให้คนกลุ่มนี้ จากเจ้าของ กลายมาเป็นผู้อยู่อาศัย และหวังว่าจะให้เสร็จปลายเดือนต.ค. มีการศึกษาและทำวิจัย โดยการนิรโทษกรรมกระทำผิดกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นผู้เสียหายด้วยซ้ำ เขาควรจะฟ้องรัฐด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อล้างมลทินแล้ว เชื่อว่าที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะพื้นที่ป่ากับที่ดินต่างกัน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องมีการทำความเข้าใจกับประชาชนโดยการสื่อสาร จึงอยากให้คนรู้สึกสุดโต่ง เข้ามารับฟังคณะกรรมาธิการฯ เรา และยึดมั่นว่าวันนี้เราจะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ และเขียนนโยบายให้มีป่า 40% ของพื้นที่ในประเทศ โดยเชื่อว่า หากนโยบายเหล่านี้เสร็จสิ้น ประชาชนจะปลูกป่า และรัฐก็ต้องดูแลตัวเอง ย้ำว่า วันนี้รัฐต้องทำความเข้าใจว่าคนจะอยู่กับป่าอย่างไร

ด้านนายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.กล่าวว่า ตนของสรุปเรื่องนี้ 3 ประเด็น คือ

1. เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า หรือการดำเนินการปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายป่าไม้ช่วงหลังปี 2541 มีชาวบ้านได้รับผลกระทบมากจริงๆ และมีสัดส่วนที่เป็นนายทุนน้อยมาก ถึงขั้นเรามองไม่เห็นว่ามันมีจริงๆ ตนยืนยันว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นชาวบ้าน

2.เราให้ความสำคัญและมีความละเอียดในการกลั่นกรองเอาคนที่ไม่ได้มีคุณสมบัติออกไป โดยพ.ต.อ.ทวี ได้สั่งให้มีการตั้งอนุกรรมการฯ ขึ้นมา เพื่อกลั่นกรองและร่างกฎหมายให้ละเอียดมากที่สุดในการกลั่นกรองคนที่ไม่มีคุณสมบัติออกไป

3.ก่อนหน้านี้มีบางท่านได้ออกมาประโคมข่าวว่าจะมีการยื่น ป.ป.ช. ในประเด็นจริยธรรมต่อ สส.ผู้ร่างกฎหมายนี้ ยืนยันว่าการเสนอกฎหมายในครั้งนี้เป็นกระบวนการนิติบัญญัติปกติเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบหรือถูกรัฐรังแกจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการช่วงหลังปี 2541 เป็นต้นมา หรือนโยบายทวงคืนผืนป่า ประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้รับการคุ้มครองตามมติ ครม.และคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 อยู่แล้ว

“คนเหล่านี้เขาไม่ควรถูกดำเนินคดีมาตั้งแต่ต้น แต่รัฐอ้างว่าเขาเหล่านั้นเป็นนายทุนจึงต้องจับกุมดำเนินคดี แต่พอไปคลี่ออกมา ปรากฏว่ามันไม่ใช่นายทุน แต่เป็นชาวบ้านปกติ เมื่อคนไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่พวกเขาถูกดำเนินคดีตามผลของกฎหมายไปแล้ว มันไม่มีวิธีการอื่น ที่จะคืนความเป็นธรรมให้ วิธีการเดียวก็คือต้องทำผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ โดยการออกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นนิรโทษกรรม หรือการล้างความผิด ล้างมลทิน ให้พวกเขาเหล่านั้นได้รับความเป็นธรรม และมีสิทธิเอาที่ดินกลับไปสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิปกติ ตามกลไกที่มีอยู่”นายเลาฟั้งกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น