xs
xsm
sm
md
lg

“นฤมล” เยี่ยมศูนย์การศึกษาเด็กพิเศษ ย้ำไม่ทิ้งดันสร้างอาชีพรายได้ ปฏิรูปการศึกษาให้เท่าทันโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รมว.ศธ. ตรวจเยี่ยมศูนย์การศึกษาพิเศษส่วนกลาง ย้ำ ไม่ทิ้งเด็กพิเศษ เร่งผลักดันนโยบายสร้างอาชีพ รายได้ พร้อมปฏิรูปการศึกษาพิเศษให้เท่าทันโลก

วันที่ (9 ต.ค. 2568) ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษส่วนกลาง ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายชาญวิทย์ มุนิกานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุธี พงษ์เพียร์ชอบ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ รมช.ศธ.) ตลอดจนนายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และผู้บริหาร สพฐ. เข้าร่วม ณ ห้องประชุมชั้น 6

โดย ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า อาจารย์ได้รับมอบหมายจากร.อ.ธรรมนัส พรรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ให้ผลักดันงานด้านการศึกษาพิเศษ ตามแนวคิดที่มองเด็กพิเศษ เป็นผู้ที่มีทักษะความสามารถที่แตกต่างออกไป ให้ได้รับการส่งเสริมให้มีอาชีพ มีงาน มีรายได้ หรือได้รับการพัฒนาด้านอื่น ๆ ตามศักยภาพ เช่น กีฬาพาราลิมปิก เป็นต้น ซึ่งล่าสุด ครม.ได้เห็นชอบแต่งตั้ง นายชาญวิทย์ มุนิกานนท์ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่กับผู้พิการและการจัดกีฬาของผู้พิการ หรือ พาราลิมปิก ซึ่งจะเข้ามาช่วยดูแลการศึกษาพิเศษด้วยเช่นกัน

ศ.ดร.นฤมล กล่าวอีกว่า จากการรายงานทำให้ทราบว่า ปัจจุบันในจำนวนผู้เรียนของ สพฐ.กว่า 6 ล้านคน มีนักเรียนพิการเรียนรวมสังกัด สพท. และ สังกัด สศศ. ถึงจำนวน 351,531 คนในโรงเรียน 21,165 แห่ง สวนทางกับจำนวนผู้เรียนโดยรวมของประเทศที่ลดลง จึงต้องการมารับฟังปัญหา อุปสรรคและความต้องการของการจัดการศึกษาพิเศษ ก่อนที่จะมีนโยบายอะไรออกไป เพราะทางรัฐบาลและรองนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและต้องการสนับสนุนเพื่อยกระดับการศึกษาพิเศษให้เป็นรูปธรรม เช่น เรื่องของงบประมาณ อุปกรณ์ อัตรากำลัง เพราะเราเข้าใจดีว่า โรงเรียนที่ดูแลเด็กเหล่านี้ไม่เหมือนโรงเรียนปกติทั่วไป รวมทั้งเรื่องก้าวหน้าในอาชีพการงานของของครู บุคลากรด้วย ที่จะมีเกณฑ์ประเมินแตกต่างจากเกณฑ์ทั่วไป

"วันนี้ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้บริหาร ครู และบุคลากรภาคส่วนต่าง ๆ ในการจัดการศึกษาพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใบประกอบวิชาชีพ เรื่องวิทยฐานะ เรื่องเงินอุดหนุนต่าง ๆ จึงได้สั่งการให้เลขาธิการ กพฐ. และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ จัดประชุมสัมมนาระดมความคิดเห็นเรื่องเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การขอวิทยฐานะในกลุ่มครูการศึกษาพิเศษ รวบรวมสรุปเป็นข้อเสนอต่อบอร์ด ก.ค.ศ.ต่อไป“

ส่วนในเรื่องของการพัฒนานักวิชาชีพให้มีโอกาสในการที่จะเข้ามาเป็นครู ศ.ดร.นฤมล ระบุว่า ตนได้ให้ สพฐ.ไปหารือร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อหาแนวทางปลดล็อคในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับการพัฒนาครูพัฒนาที่จบเฉพาะเอกภาษาไทย เอกวิทยาศาสตร์ แต่ยังไม่มีความรู้ในเรื่องของการที่จะดูแลเด็กพิการ ทาง สพฐ. จะต้องดำเนินการพัฒนาครูกลุ่มนี้ โดยให้โรงเรียนเรียนรวมที่มีความโดดเด่น ประสานเชื่อมต่อการทำงานด้านการจัดการศึกษาพิเศษให้กับโรงเรียนเรียนรวมอื่นที่อยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

”กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการศึกษาพิเศษ ที่จะต้องไปดูว่าจะเกลี่ยงบประมาณสนับสนุนการศึกษาพิเศษให้มากขึ้น รวมทั้งเรื่องของสวัสดิการครูการศึกษาพิเศษ ที่ย้ายกลับบ้านไม่ได้ และจะต้องอยู่จังหวัดที่ใกล้เคียงแทน พบว่ามีค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพที่สูงนั้น ก็จะสอดคล้องกับนโยบายการปรับปรุงบ้านพักครู ที่กระทรวงศึกษาธิการจะต้องทำงานร่วมกับการเคหะแห่งชาติ กระทรวงการคลัง และกรมธนารักษ์ เพื่อปรับปรุงบ้านพักครูในปีนี้ในระยะเร่งด่วน และระบุไว้ในแผนงบประมาณปี 2570 เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป“ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น