xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.เผยมี 2 ตัวละครใหม่คดีชั้น 14 สอบเพิ่มมีตำแหน่งการเมือง แบ่ง 2 ช่วง ส่งตัวรพ.ตำรวจ-พักโทษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ป.ป.ช.เผยมี 2 ตัวละครใหม่ใน ‘คดีชั้น 14’ ลุยสอบสวนเพิ่มเติม เป็น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แบ่งสอบ 2 ไทม์ไลน์ ช่วงส่งตัว รพ.ตำรวจ-ช่วงพักโทษ


วันนี้( 8 ต.ค.) นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าคดีกล่าวหาข้าราชการ ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์แก่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่า ปัจจุบันมีการตั้งองค์คณะไต่สวนข้าราชการที่เกี่ยวข้องไปแล้ว จำนวน 12 คน แต่ปัจจุบันมีคำร้องเพิ่มเติมเข้ามา ขณะนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ คำร้องที่อยู่ รพ.ตำรวจ ใน 180 วัน และคำร้องภายหลังการพักโทษ โดยมีตัวละครเพิ่มเติม หลังจากคัดคำพิพากษาทางเจ้าของเรื่องต้องเอาข้อเท็จจริงมาถอดว่า มีการร้องเรียนเพิ่มเติมหรือไม่ หรือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษา กับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนไปแล้ว สอดคล้องกันหรือไม่ อย่างไร มีข้อเท็จจริงที่ยังไม่ตรงกัน ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องดูตามแนวคำพิพากษาเป็นหลัก

“การบ้านขององค์คณะไต่สวนที่ต้องเอาคำพิพากษามาถอด ดูตัวละครเพิ่มเติมที่เราต้องไต่สวน โดยเฉพาะที่มีคำร้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทางองค์คณะจะพิจารณาอย่างไร และเกี่ยวข้องกับการพักโทษด้วยหรือไม่”

เมื่อถามว่า นายทักษิณ ตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคนใหม่ด้วยหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตัวอดีตนายกฯ เป็นผู้ที่รับโทษในคดีเดิม เป็นข้อกฎหมายว่า ผลของคดีเดิม ที่เป็นคดีใหม่ ตัวอดีตนายกฯ ท่านจะต้องมีความรับผิดด้วยหรือไม่อย่างไร เดี๋ยวองค์คณะไต่สวนฯ ต้องไปดู เพราะท่านไม่ได้ถูกไต่สวนเดิม ส่วนข้อกฎหมายจะไปถึงหรือไม่ โดยอดีตนายกฯไม่ได้กระทำผิดในคดีนี้โดยตรง ความรับผิดในทางอาญา จะไปถึงท่านหรือไม่ เป็นเรื่องขององค์คณะไต่สวนต้องไปดูอีกทีหนึ่ง ตามที่ศาลได้มีคำพิพากษามา

เมื่อถามว่า ตัวละครใหม่เพิ่มเติม 2 คนที่ถูกร้องเข้ามา เป็นข้าราชการระดับสูง หรือข้าราชการทางการเมือง นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีคำร้องเข้ามา มี 2 ราย อย่างที่บอกมี 2 ช่วงคือ เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่วันที่ 120 ถึงวันที่180 ส่วนช่วงที่ 2 คือช่วงหลังออกจากโรงพยาบาลไปเข้าสู่ช่วงพักโทษหลัง 180 วัน อยู่ที่องค์คณะไต่สวนพิจารณา แต่ไปเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายด้วย ในการแปลความ พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ รอองค์คณะไต่สวนฯ ว่าจะมองอย่างไร เรื่องนี้เท่าที่ทราบ มีการแยกสำนวนเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือข้าราชการที่ส่งตัวอดีตนายกฯไปรักษาตัว อีกส่วนคือเรื่องกระบวนการพักโทษ

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า คดีนี้ยืนยันว่าไม่หนักใจ ตลอดระยะเวลารับราชการ หรือเป็นผู้ว่าคดี ในคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ฟ้องเอง เพราะเราทำตามหน้าที่ สิ่งที่ถามขออนุญาตตอบว่า ถ้าข้อเท็จจริงไปถึง ข้อกฎหมายไปถึง ป.ป.ช. ต้องวินิจฉัยตามสำนวนอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงในแง่กฎหมาย คดีดังกล่าวเป็นคดีประวัติศาสตร์ มองเรื่องนี้อย่างไร นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตน และท่านผู้ช่วยฯ อยู่ในการว่าความในศาลฎีกาฯมาหลายปี ไม่ว่าคดีอาญานักการเมือง หรือความผิดฐานจริยธรรมก็ดี ที่บอกประวัติศาสตร์ เพราะศาลไม่เคยใช้อำนาจยกคดีขึ้นมาไต่สวนเอง แต่จริง ๆ ก็เคยมีแนวคำพิพากษาของศาลอยู่แล้วในคดีอื่น แต่คดีนี้เป็นคดีในชั้นบังคับโทษของศาลฎีกาฯ เลยมองว่าเป็นคดีพิเศษ แต่ดูจริง ๆ แล้วเคยเข้ามาดูอำนาจศาล การบังคับโทษถูกต้องหรือชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คิดว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่มุมมองคนไม่ได้อยู่แวดวงนักกฎหมาย หรือไม่ได้เข้าไปสัมผัสการทำงานของศาลฎีกาฯ โดยเฉพาะศาลมีอำนาจที่ใช้ระบบไต่สวน คือศาลค้นข้อเท็จจริงได้เอง ไม่ได้แปลกอะไรมาก อยู่ในวิสัยที่เราคาดเดาได้


กำลังโหลดความคิดเห็น