"วิปรัฐบาล" เผย ยังไม่เห็นวาระนัดถกรายงานนิรโทษฯ รับไม่กังวล รบ.เสียงข้างน้อย เหตุ คุยกับ ‘วิปฝ่ายค้าน’ ไว้ด้วย บอก ให้ความร่วมมือกันอย่างดี
วันนี้ (6ต.ค.) น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการบริหารจัดการในการพิจารณาร่างกฎหมายหลายฉบับที่กําลังทยอยเข้าสภา จะทําอย่างไรให้สามารถผ่านได้ภายใน 4 เดือนนี้ ว่า เบื้องต้นเราพยายามคุยกันในกรอบของสมัยประชุมสภานี้ เช่น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดการเพื่ออากาศสะอาด อย่างไรก็ต้องจบภายในสมัยประชุมนี้ แต่ส่วนกฎหมายที่จะตามมานั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายงานมาจากสํานักการประชุมว่ามีกฎหมายฉบับไหนเสร็จแล้วที่พร้อมจะรอเข้าวาระ ส่วนการประสานงานกับวิปฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทย (พท.) ในขณะนี้ เรามีการพูดคุยกันถึงแค่สัปดาห์หน้าเรื่องวันประชุมในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึง รายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข สภาผู้แทนราษฎร จะสามารถเสร็จภายในสมัยประชุมนี้ได้หรือไม่ น.ส.แนน กล่าวว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ต้องรอดู เนื่องจากประธานกมธ.ฯ จะต้องแจ้งต่อประธานสภาฯ ก่อนว่า การประชุมเสร็จแล้วและขอเข้าสู่ระเบียบวาระ แต่ตอนนี้เรายังไม่เห็นในระเบียบวาระ จึงต้องรอก่อน วิปจึงยังไม่สามารถพิจารณาอะไรได้หากยังไม่เห็น เพราะทุกอย่างจะเป็นเพียงการคาดการณ์และคาดเดาของวันเวลาทั้งหมด ยังมีอีก 4-5 เรื่อง ที่รอจะเข้าวาระ 2 และ 3 ของสภาฯ
เมื่อถามว่า ปัญหาเรื่องเสียงข้างน้อยจะกลายเป็นอุปสรรคหรือไม่นั้น น.ส.แนน กล่าวว่า ระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเข้าใจว่ามีสื่อมวลชนหลายสํานักได้เก็บสถิติว่ามีพรรคใดเข้าร่วมโหวตในวาระต่างๆ กี่เปอร์เซ็นกันบ้าง ก็ต้องไปถามจี้เอาตามตัวเลขว่ามีส่วนไหนที่หายไปบ้าง เพราะทางเราพยายามประสานกับทุกพรรคอยู่แล้วว่าขอให้อยู่ร่วมประชุม ทําหน้าที่ในห้องประชุมใหญ่
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เมื่อเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แล้วจะเกิดปัญหาองค์ประชุมสภาฯ ล่ม น.ส.แนน มองว่า จริงๆ ไม่ได้กังวล เพราะเรามีการพูดคุยกับวิปฝ่ายค้านไว้ด้วย ในการทํางานให้ความร่วมมือกันดี ทั้งเรื่องกระทู้ องค์ประชุม เพราะเมื่อกฎหมายเข้ามาในวาระ 2 และ 3 แล้ว ก็เป็นกฎหมายของทั้งสภาฯ ไม่ใช่แค่ของใครคนใดคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับว่าในการพิจารณาของแต่ละพรรคการเมืองจะให้ความสําคัญกับ พ.ร.บ.ฉบับไหนมากกว่ากัน ถือเป็นการย้ำเตือนสมาชิกเพื่อโหวตในแต่ละเรื่องของการประชุม