xs
xsm
sm
md
lg

"โรม" ลงภูมะเขือหวังยกระดับป้องกันขัดแย้ง ฝากการบ้านนายกฯหามาตรการเชิงรุกไม่ใช่แค่เจรจา จี้ฟัน "เบน สมิธ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปธ.กมธ.การเมือง ลงพื้นที่ภูมะเขือ หวังยกระดับป้องกันความขัดแย้งชายแดน ฝากการบ้าน "อนุทิน" รัฐบาลมีอำนาจเต็มแล้วต้องหามาตรการเชิงรุก ไม่ใช่แค่เจรจา จี้จัดการ 'เบน สมิธ' ตัวละครสำคัญ คาดเอี่ยวคอลเซ็นเตอร์

วันนี้ (5 ต.ค. 2568) กรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. ลงพื้นที่ภูมะเขือ จุดยุทธศาสตร์ไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อติดตามปัญหาด้านความมั่นคง

นายรังสิมันต์ กล่าวว่าภูมะเขือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญมาก กมธ.ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการปะทะกันและความขัดแย้งชายแดนในช่วงที่ผ่านมา การลงพื้นที่ภูมะเขือจะทำให้เราเห็นสถานที่จริง การมาครั้งนี้เพื่อต้องการมาขับเคลื่อนว่า จะทำอย่างไรให้เกิดการคลี่คลายความขัดแย้งตามแนวชายแดน ซึ่งมีความสลับซับซ้อน ทั้งเรื่องการสนับสนุนหน่วยงานความมั่นคง เพื่อทำให้เกิดการยกระดับเรื่องการป้องกัน อีกด้านคือเรื่องเทคโนโลยี การหามาตรการและยุทธศาสตร์ใหม่ ๆ นำไปสู่การแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา

เรื่องหนึ่งที่ กมธ.ให้ความสำคัญและพิจารณามาหลายครั้งแล้วคือ ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ อาจจะฟังดูเหมือนว่าการปะทะกันทางอาวุธและปัญหาคอลเซ็นเตอร์ไปด้วยกันได้อย่างไร แต่ต้องยอมรับว่าการเจรจาที่จะพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาส่วนหนึ่งที่ไม่เป็นมรรคผลเท่าไร เพราะผู้มีอำนาจในกัมพูชาพึ่งพารายได้จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้หลายเรื่องแก้ปัญหาไม่ได้ อีกด้านหากมีเหตุการณ์ปะทะกันเกิดขึ้นในฐานะ กมธ.และฝ่ายนิติบัญญัติเกี่ยวพันกับหลายเรื่อง ทั้งด้านกฎหมายและงบประมาณจะนไข้อมูลตรงนี้นำไปสู่การยกระดับความมั่นคงชายแดนให้มีประสิทธิภาพสูงต่อไป

เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลมีอำนาจเต็มแล้ว อยากฝากถึงนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายอนุทินรู้ดี เพราะเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสงบภายใน และการอพยพประชาชน เชื่อว่านายอนุทินจะมีข้อมูลและมี สส.ที่ทำงานอย่างแข็งขันในการให้ข้อมูลกับรัฐบาลที่ถูกต้อง เพื่อที่จะทำให้เรามั่นใจว่าปัญหาตามแนวชายแดนจะได้รับการแก้ไข

"รัฐบาลมีเวลาเพียง 4 เดือน เราอยากจะเห็นการทำให้ประชาชนรู้สึกว่ามีความมั่นใจ เวลามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น หากเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ประชาชนต้องพร้อมที่จะหลบภัยได้ทันที ในแง่ของการเยียวยาคาดหวังว่าจะต้องเร็ว เพราะรอบนี้เรามีประสบการณ์แล้ว"

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าการลงพื้นที่ในวันนี้ ตนได้แวะดูที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบจากกรณีที่ระเบิดตกทำให้ร้านสะดวกซื้อพังทลาย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 18 ล้านบาท ได้รับค่าเยียวยาจากบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องหักลบไปแล้วเหลืออีกประมาณ 13 ล้านบาท ถามว่าเขาคาดหวังว่าจะได้ทั้งก้อน 100% หรือไม่ ก็คงไม่ แต่ความชัดเจนเรื่องเงินเยียวยาจะได้เท่าไร ได้อย่างไร เป็นสิ่งที่ประชาชนยังตั้งคำถาม
ดังนั้นโจทย์ระยะสั้นของนายอนุทินคือ จะทำอย่างไรให้ประชาชนตามแนวชายแดนได้รับการเยียวยาโดยเร็วที่สุด จะทำอย่างไรให้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้าย พร้อมกับมีมาตรการเชิงรุกมากกว่าการเจรจา ความชัดเจนที่เราอยากจะเห็นตอนนี้คือเรื่องคิอลเซ็นเตอร์ เพราะมีตัวละครสำคัญที่เข้ามาอยู่บนผืนแผ่นดินไทย นายอนุทินในฐานะรัฐบาลจะต้องจัดการคนพวกนี้อย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นประชาชนจะเอาเรื่องนี้ไปตำหนิได้

เมื่อถามว่าตัวละครนั้นคือเบน สมิธใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรื่องนี้การพิจารณาในที่ประชุมของ กมธ.ครั้งล่าสุด เริ่มมีข้อมูลที่ปรากฏชัดเจนว่าตัวละครสำคัญ อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นสิ่งที่นายอนุทิน ต้องสั่งการให้นำไปสู่การตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากเงินเหล่านี้ไม่รู้ที่มาที่ไป เป็นเงินสีเทาสีดำ จะเป็นเรื่องอันตราย


กำลังโหลดความคิดเห็น