xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ฟันธงรบ.เดินบนเส้นด้าย เสี่ยงโดนซักฟอก 2 คดีร้อน คาดสภาเปิดธ.ค.นายกฯอาจยุบสภาทันที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตสส.ปชป. ฟันธง รัฐบาลอนุทินกำลังเดินบนเส้นด้าย เสี่ยงโดนซักฟอก 2 คดีร้อนสะเทือนบุรีรัมย์ คาดเปิดสภาเดือน ธ.ค. หากฝ่ายค้านเดินเกมไว นายกฯ อาจประกาศยุบสภาทันที


วันนี้ (5ต.ค.) นายเทพไท เสนพงษ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนได้ยินข่าวนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้นำหมอช้างมาผูกข้อมือเนื่องในงานวันเกิดครบรอบ 67 ปี ให้กับนายอนุทิน ได้กล่าวอวยพรให้นายอนุทินเป็นนายกครบ 4 ปี ซึ่งนายอนุทินตอบแบบติดตลกว่า “เอา 4 เดือนนี้ให้รอดก่อน”

การตอบคำถามของนายอนุทิน สามารถตีความได้เป็น 2 นัยยะ คือ นัยยะแรก คงกล่าวในลักษณะถ่อมตน ซึ่งเป็นนิสัยของคุณอนุทินอยู่แล้ว แต่อีกนัยยะหนึ่ง นายอนุทินน่าจะรู้ดีว่า อายุของรัฐบาลชุดนี้จะให้รอด 4 เดือนนั้น เหมือนเดินอยู่บนเส้นด้าย ถ้าดูจากการอภิปรายนโยบายของพรรคฝ่ายค้าน 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน จะเห็นได้ชัดว่าประเด็นการอภิปรายนโยบายมุ่งไปสู่การกรุยทาง หรือโหมโรงไปสู่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และในขณะนี้มีประเด็นล่อแหลมที่อาจจะถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ใน 2 ประเด็นใหญ่ ๆ คือ

ประเด็นที่ 1 เกี่ยวกับคดีฮั้ว ส.ว. และคดีที่ดินเขากระโดง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรม จะเห็นได้ชัดว่า การวางตัว พลตำรวจโทรุทธพล เนาวรัตน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ล่าสุดการแต่งตั้งนายศุภชัย ใจสมุทร เป็นโฆษกของกระทรวงยุติธรรม เป็นการวางตัวบุคคลเพื่อมาดูแล 2 คดีนี้ มีการชี้แจง ตอบโต้ กดดัน เร่งรัด ทำทุกรูปแบบเหมือนกับการมาคุ้มครอง 2 คดีใหญ่ ซึ่งเป็นหัวใจของครูใหญ่แห่งบ้านบุรีรัมย์ และล่าสุดถูกกล่าวหาว่า มีการแต่งตั้งคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาจากบุคคลที่ทำคดีฮั้ว ส.ว. และคดีที่ดินเขากระโดงทั้งสิ้น จึงทำให้มีข้อสงสัยจากพรรคฝ่ายค้าน และอาจจะถูกหยิบยก 2 คดีนี้ นำไปสู่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

ประเด็นที่ 2 เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านจริยธรรม จะเห็นได้ว่ามีรัฐมนตรีบางคนหมิ่นแหม่ต่อการขัดต่อจริยธรรม มีการอภิปรายจาก ส.ส. พรรคประชาชนอย่างน้อย 2 คนที่พุ่งเป้าไปยังพฤติกรรมคุณสมบัติของรัฐมนตรี คือนายรังสิมันต์ โรม และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้พูดถึงเรื่องกรณีที่มีนักธุรกิจต่างชาติบางคน ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ เป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซ็น และมาเกี่ยวข้องกับผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมสนใจ และการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรวันแถลงนโยบาย ก็ไม่ได้รับคำตอบจากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ถูกพาดพิงเลย จึงทำให้สังคมสงสัย ทั้ง 2 ประเด็นนี้ น่าจะมีน้ำหนักเพียงพอ ที่จะทำให้พรรคฝ่ายค้าน 2 พรรค สามารถยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้ได้

แม้ว่าสิ้นเดือนนี้จะมีการปิดสมัยประชุมสภาฯ แล้ว แต่ในเดือนธันวาคมจะมีการเปิดสมัยประชุมของสภาผู้แทนราษฎร และเป็นไปได้มากที่สุด คือ พรรคฝ่ายค้านทั้ง 2 พรรค ถ้าตกลงกันได้และสามารถที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แค่ล่ารายชื่อเตรียมยื่นญัตติ ก็เชื่อว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ตัดสินใจยุบสภาทันที คงไม่ปล่อยให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้าในวาระการประชุม ซึ่งจะทำให้นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่สามารถยุบสภาได้ หากมีการอภิปราย จะถูกคว่ำกลางสภาฯ

จึงเชื่อว่าภายในเดือนธันวาคมนี้ หลังจากเปิดสมัยประชุมสามัญแล้ว รัฐบาลก็จะประกาศยุบสภาทันที.


กำลังโหลดความคิดเห็น