รัฐมนตรีอุตสาหกรรมมอบนโยบาย “ฝ่า-ฟัน-ดึง-ดัน” สร้างเศรษฐกิจมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
วันที่ 3 ตุลาคม 2568: ดร. ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบนโยบายแก่ข้าราชการและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยย้ำว่า “ภาคอุตสาหกรรมคือกลไกหลักในการสร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย”
พร้อมประกาศ วิสัยทัศน์ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้สอดรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมดิจิทัล และพลังงานสะอาด ท่ามกลางความท้าทายจากสงครามการค้า มาตรการภาษีตอบโต้ และปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กระทบต่อสังคมและธุรกิจ
นโยบายหลักภายใต้กรอบ “ฝ่า-ฟัน-ดึง-ดัน” ถูกกำหนดเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย ดังนี้
ฝ่า: รับมือปัญหาเร่งด่วนจากสงครามการค้าและมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) โดยเร่งช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ เสริมสภาพคล่องด้วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำรายละ 1 ล้านบาท ปกป้องจากการทุ่มตลาด และยกระดับระบบตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าแบบดิจิทัล (ROO Digital + Traceability) เพื่อให้แข่งขันได้อย่างโปร่งใสและยั่งยืน
.
ฟัน: จัดระเบียบอุตสาหกรรมอย่างเด็ดขาด ด้วยการปราบปรามโรงงานเถื่อน การลักลอบนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน และการทิ้งกากอุตสาหกรรม พร้อมบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด ควบคู่กับการยกระดับมาตรการสิ่งแวดล้อม ให้โรงงานติดตั้งระบบตรวจสอบมลพิษเรียลไทม์ ลดการเผาอ้อยผ่านการสนับสนุนเกษตรกร และพัฒนาระบบจัดการกากอุตสาหกรรมให้โปร่งใสและยั่งยืน
ดึง: เงินลงทุน เดินหน้าดึงเม็ดเงินลงทุนด้วย 2 แนวทางหลัก คือ ขับเคลื่อน BCG และพลังงานสะอาด ยกระดับภาคการผลิตไทยสู่มาตรฐานสากล ลดคาร์บอน ลดต้นทุนพลังงาน และเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ผ่านมาตรการสำคัญ เช่น อุตสาหกรรมคาร์บอนเป็นศูนย์ 2030 โครงการโซลาร์รูฟท็อป และตลาดคาร์บอนอุตสาหกรรม
ควบคู่กับการ สร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ทันสมัยและโปร่งใส ด้วยการปรับปรุงกฎระเบียบ ลดขั้นตอน เอื้อต่อธุรกิจ ส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงานและดิจิทัล และผลักดันกฎหมายสำคัญ เช่น พ.ร.บ. การจัดการกากอุตสาหกรรม และ พ.ร.บ. มอก. เพื่อสร้างระบบการผลิตที่รัดกุม ยั่งยืน และแข่งขันได้ในเวทีโลก
ดัน: วางรากฐานสู่อุตสาหกรรมอนาคต สนับสนุน SMEs เข้าถึงเทคโนโลยีและพัฒนาทักษะแรงงาน ผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ดิจิทัล–AI–เซมิคอนดักเตอร์ และอาหารแห่งอนาคต–ชีวเศรษฐกิจ ควบคู่กับอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์อย่างการแพทย์ เทคโนโลยีสุขภาพ และปาล์มน้ำมัน
ดร. ธนกร ย้ำชัดว่า “เราจะไม่เพียงแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่จะสร้างอนาคตใหม่ให้กับอุตสาหกรรมไทย ให้สามารถแข่งขันในระดับโลก สร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน”
“ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยวิสัยทัศน์และพลังร่วมมือของทุกฝ่าย อุตสาหกรรมไทยจะก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” – ดร. ธนกร วังบุญคงชนะ