xs
xsm
sm
md
lg

“ผู้กองแคท” ดรามาสาวงาม กับผู้มากบารมี! จบยังไงก็เจ็บ! ** รู้จัก “แม่ทัพเติ่ง” ผู้มาสานงานต่อจาก “แม่ทัพกุ้ง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ “ผู้กองแคท” ดรามาสาวงาม กับผู้มากบารมี! จบยังไงก็เจ็บ!
ยังเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในแวดวงข้าราชการ สำหรับเส้นทางเดินของ “ร.ต.อ.หญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก” หรือที่รู้จักกันในนาม“ผู้กองแคท” สาวสวยดีกรีนางงามและนักร้องลูกทุ่ง ที่เติบโตในระบบราชการแบบพุ่งพรวดขี่จรวด จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นดรามาขึ้นมา

ล่าสุด...ดูเหมือนเรื่องวุ่น ๆ จะถึงจุดพีก เมื่อมีรายงานข่าวว่า “ผู้กองแคท” ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการถึงอธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเป็นต้นสังกัดแล้ว โดยให้เหตุผลสั้นๆ แต่แฝงความนัยว่า “ประสงค์ที่จะไปประกอบอาชีพอื่น”

แต่เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) เจ้าตัวไปรายงานตัวกับผู้ว่าฯที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ งานนี้ทำเอาหลายคนงงงวย และเกิดคำถามในใจว่า อ้าว…เอ๊ะ ยังไงกันแน่!?

เรื่องราวของ “ผู้กองแคท” ก็ต้องทบทวนกันหน่อยว่าประเด็นร้อนแรงเริ่มต้นขึ้น เมื่อเธอมีชื่อได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำาแหน่งปลัดอำาเภอ หรือเจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการณ ที่ทำาการอำเภอเมืองศรีสะเกษ ซึ่งมีผลตั้งแต่ วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ถึงความรวดเร็วในการเลื่อนตำแหน่ง

แต่ความพีกมันอยู่ตรงที่...จู่ๆ ก็มีหนังสือจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขอตัว “ผู้กองแคท”ไปช่วยราชการ ในส่วนงานของ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายทำให้หลายคนคาดการณ์ว่าเธอจะได้กลับมาทำางานในเมืองหลวง ไม่ต้องเดินทางไปรับตำแหน่งที่ดงลำดวน
แดนอีสาน

อย่างไรก็ตาม ฝันก็สลายกลางอากาศ เมื่อกรมการปกครองมีคำาสั่งไม่อนุมัติการขอตัวดังกล่าว!

ทำให้ “ผู้กองแคท” จำเป็นต้องเดินทางไปรายงานตัวที่ จ.ศรีสะเกษ ตามคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าว
วันก่อนจะเดินทางไปรายงานตัว ก็ปรากฏว่าเจ้าตัวยื่นใบลาออกโดย“ผู้กองแคท” ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียทิ้งปริศนาไว้อย่างดุเดือด ระบุว่า“มีคำสั่งย้ายไปเป็นปลัด แต่เจ้าตัวไม่เคยเห็นคำร้องขอ และไม่ได้สมัครใจขอย้ายไปที่ไหน

คนออกคำสั่งนี้...จะว่ายังไง?” ซึ่งข้อความดังกล่าวสะท้อนถึงความรู้สึกไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อการ
แต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้


เรียกได้ว่า การยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการเหมือนเจ้าตัวต้องการ “ปิดฉาก” ดรามาทั้งหมด ด้วยการเดินออกมาจากวงโคจร!

งานนี้มีเรื่องที่น่าคิด ถึงเรื่องของความงามกับอำนาจ หรือสาวงามกับผู้มากบารมี ที่เป็นดรามา

แม้ล่าสุด “ผู้กองแคท” จะได้เดินทางไปรายงานตัวกับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษแล้ว พร้อมๆ กับหนังสือลาออก ก็ถูกยื่นไปแล้วเช่นกัน และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอธิบดีกรมการปกครอง

เรื่องราวของ “ผู้กองแคท” เป็นมากกว่าข่าวซุบซิบ แต่เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของสังคมถึง “เส้นทางลัด” หรือ “พรสวรรค์” ในการเติบโตของข้าราชการบางคน ท่ามกลางระบบที่ควรยึดหลักคุณธรรม และความ โปร่งใส

การตัดสินใจโบกมือลาชีวิตราชการที่กำาลังรุ่งโรจน์ของเธอ แต่นำามาซึ่งคำาถามว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง? การต่อสู้กับกระแสต้านและดรามาทั้งในระบบราชการและชาวเน็ต ไปสู่เส้นทาง “อาชีพอื่น” ที่เธอตั้งใจจะไปทำ อาจจะเปิดโอกาส และเส้นทางที่สวยงามกว่าเดิมในแบบที่เธอเลือกเองได้มากกว่าก็เป็นได้

คงต้องจับตาดูกันต่อว่า “นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร” ฉายาที่รู้จักกันในแวดวงราชการและสื่อว่า “ผู้ว่าฯ เซมเบ้” อธิบดีกรมการปกครอง จะเซ็นอนุมัติการ ลาออกครั้งนี้หรือไม่? และการจากไปของ “ผู้กองแคท” จะเป็นบทเรียนอะไร ให้กับวงการสีกากีและข้าราชการไทยในอนาคต?

ที่แน่ๆ สำหรับ “ผู้กองแคท” ไม่ว่าดรามานี้จะจบยังไง จบแบบไหน ก็เจ็บแบบไม่ต้องสงสัย.


++ รู้จัก “แม่ทัพเติ่ง” ผู้มาสานงานต่อจาก “แม่ทัพกุ้ง”

ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับพิธีรับ-ส่งหน้าที่ พร้อมธงประจำหน่วย ระหว่าง “แม่ทัพกุ้ง” พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่เพิ่งเกษียณ กับ “แม่ทัพเติ่ง” พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่

มีการสวนสนามของหมู่ธงประจำาหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 83 หมู่ธง มีข้าราชการทหารกองทัพภาคที่ 2 และสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมในพิธีเกียรติยศนี้

“แม่ทัพกุ้ง” ได้กล่าวขอบคุณเพื่อนทหารทุกหน่วย ทุกนาย ที่ร่วมแรง ร่วมใจ ในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ โดยเฉพาะการปกป้องอธิปไตย จนทำให้การปฏิบัติงานของกองทัพภาคที่ 2 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสบผลสำาเร็จ เป็นที่ยอมรับของผู้บังคับบัญชาและประชาชน

พร้อมกันนี้ ได้แนะนำต่อกำาลังพลว่า “พล.ท. วีระยุทธ รักศิลป์” แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ที่จะมาสานต่อภารกิจ เป็นนายทหารที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ เชื่อมั่นว่าจะสามารถนำกองทัพภาคที่ 2 ไปสู่ความเจริญก้าวหน้า สามารถปฏิบัติภารกิจที่กองทัพบกมอบหมายให้บรรลุผลสำาเร็จ สร้างชื่อเสียงและเกียรติประวัติอันดีงาม ให้ยั่งยืนสืบไป

“พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์” มีชื่อเล่นว่า “เติ่ง” เป็นชาว อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ศิษย์เก่าโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย นักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 26 และจบนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ รุ่นที่ 37 เป็นเพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบัน และ “แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง

ผ่านตำแหน่งสำคัญ ได้แก่ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 16 (ผบ.ร.16) ค่ายบดินทรเดชา จ.ยโสธร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำาลังสุรนารี (ผบ.ฉก.3) รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ขุนหาญ อ.ขุขันธ์ และ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ฝั่งตรงข้าม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ของกัมพูชา

ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 (ผบ.พล.ร.6)
ผู้บัญชาการกองกำาลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) และรองแม่ทัพภาคที่ 2 ปัจจุบันขึ้นดำรงตำาแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ลำดับที่ 45

เรียกได้ว่า “แม่ทัพเติ่ง” เป็นลูกอีสาน เติบโตในหน้าที่การงานอยู่พื้นที่ภาคอีสาน และรับผิดชอบในภารกิจตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชามาตลอด จึงรับรู้ถึสถานการณ์เป็นอย่างดี


ในโอกาสที่รับตำาแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 “พล.ท. วีระยุทธ” ได้กล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งครั้งนี้

ยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ จะรักษาเอกราชอธิปไตย ไม่ยอมให้ใครมาละเมิด จะรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชน แม้จะต้องเสียเลือดเนื้อก็พร้อมพลี และขอให้เพื่อนทหารที่รักทุกนาย จงมีความภาคภูมิใจที่จะรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน นั่นคือสิ่งที่เราต้องธำรงไว้เหนือสิ่งอื่นใด

พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวชื่นชม “แม่ทัพกุ้ง” ที่ได้ทำหน้าที่ดูแลบริหารราชการให้กองทัพภาคที่ 2 เป็นหน่วยที่มีประสิทธิภาพสูงสุดหน่วยหนึ่งของกองทัพบก เป็นหน่วยทหารที่ได้รับการยกย่องในความกล้าหาญ ได้รับความเชื่อมั่น ศรัทธา จากพี่น้องประชาชนอย่างจริงใจ

จึงขอน้อมจารึกผลการปฏิบัติราชการของท่านไว้เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติราชการสืบไป

“แม่ทัพกุ้ง” กล่าวอยู่เสมอว่า ถึงแม้จะเกษียณแล้วแต่ก็พร้อมทำาหน้าที่ช่วยเหลือประเทศชาติ ส่วนรวม

ล่าสุด นอกจาก “พล.ท.บุญสิน พาดกลาง” จะได้รับการแต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ด้านความมั่นคงแล้ว ยังได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็น “นายทหารราชองครักษ์พิเศษ” อีกด้วย.


กำลังโหลดความคิดเห็น