xs
xsm
sm
md
lg

"ธรรมนัส" ขอสานต่อ 6 นโยบายเดิม พ้อหายไป 1 ปีให้มวยแทนมารับผิดชอบแต่ไม่ได้ตามที่หวัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘รมว.ธรรมนัส’ สานต่อ 6 นโยบายเดิม พ้อหายไป 1 ปี เป็นที่ปรึกษาให้มวยแทนมารับผิดชอบแต่ไม่ได้ตามหวัง อวย ‘อนุทิน‘ เป็นส่วนผสมที่ลงตัว มั่นใจพาบ้านเมืองพ้นวิกฤต

วันนี้ (2 ต.ค. 68) ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นนประธานและมอบนโยบายการบริหารราชการ แก่ข้าราชการและผู้บริหารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นตัวแทนข้าราชการในการมอบดอกไม้แสดงความยินดีในโอกาสที่รับตำแหน่ง
นายวิณะโรจน์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับเกียรติจากนายที่กลับมา พร้อมที่จะขับเคลื่อนนโยบายที่เข้มแข็ง พวกเราอยู่ในกระทรวงที่นายพูดทุกครั้งว่าเป็นกระทรวงใหญ่ดูแลปากท้องของประชาชนครึ่งประเทศให้มีความเข้มแข็ง พวกเราพร้อมรับนโยบายที่จะผลักดันในช่วงเร่งด่วน ในนามของข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราพร้อมทำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อขับเคลื่อนทุกอย่างให้เป็นรูปธรรมและจะทำงานเป็นทีม

ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่าเป็นครั้งแรกที่รองนายกฯ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย ในฐานะที่เป็น สส.พะเยาได้คะแนนเสียงมากกว่า 50,000 คะแนน สำคัญที่สุด จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นที่ตั้ง แต่บรรยากาศในวันแถลงนโยบายที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ต้องการจะย้ำถึงภารกิจสำคัญของรัฐบาลตาม MOA แต่คงจะได้เห็นบรรยากาศการเมืองเดิม ๆ ไม่เดินหน้า

ตนเองหายไป 1 ปีเต็ม แม้จะคอยเป็นที่ปรึกษาอยู่ข้างหลัง แต่การใช้มวยแทนเข้ามารับผิดชอบก็ไม่สัมฤทธิ์ผลตามที่คาดหวังเอาไว้ ปัจจุบันไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ หากรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ อย่าคิดว่าจะแก้ปัญหาอื่นได้ จึงต้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมโทรมและปัญหาความมั่นคงตามมา
”ผมผ่านการเป็นรัฐมนตรีมาเป็นครั้งที่ 3 มีผู้บังคับบัญชาเป็นพลเอกประยุทธ์ นายเศรษฐา นายอนุทิน แต่บทบาทของแต่ละนายกฯ ไม่เหมือนกัน พลเอกประยุทธ์ มีความเด็ดขาด สั่งการชัดเจน นายเศรษฐามีปัญหาที่ปทุมธานี ตั้งโต๊ะวงกลมเจราจาระดับผู้บริหาร เจรจาจบทำงานต่อ ผมชอบ นายอนุทินผสมผสานระหว่างพลเอกประยุทธ์ และนายเศรษฐามีความมั่นใจว่า ผู้นำแบบนี้จะนำบ้านเมืองพ้นวิกฤต 3 อย่าง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง“

ขณะที่สภาพความไม่สงบของภัยธรรมชาติที่เกิดจากปัญหาความแปรปรวนของสภาพอากาศ ตนเองหลับตาก็เห็นหมดแล้วว่าน้ำแต่ละที่ไหลเข้ามาอย่างไร หลายคนบอก “ธรรมนัสตายแน่ พูดแล้วทำไม่ได้” แต่ตนเองเอาอยู่ตั้งแต่ปี 62 จนถึงปัจจุบัน เพราะมีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ขอข้าราชการอย่าออกกฎหมายที่ยุ่งยาก บางฉบับบ้า ๆ บอ ๆ ทำให้ประชาชนเสียหาย เช่น พ.ร.บ.การประมงฯ

ร้อยเอกธรรมนัส ย้ำถึงภารกิจสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้อยู่ดีมีสุข มีรายได้ที่มั่นคง เพื่อเสริมสร้างให้ภาคเกษตรไทยแข็งแกร่ง มีศักยภาพในการแข่งขันทัดเทียมหรือเหนือกว่าประเทศอื่น ๆ กำหนดแนวทางการดำเนินงานโดยการสานต่อนโยบายเดิมที่เคยได้เดินหน้าไว้ต่อเนื่องรวม 6 ด้านสำคัญ ดังนี้

1. เร่งรัดการจัดที่ดินทำกินและสร้างความมั่นคงด้านกรรมสิทธิ์

2.บริหารจัดการน้ำทั้งระบบบเชิงรุก เน้นการบริหารจัดการน้ำอย่างมีระบบและต่อเนื่อง

3.ยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง มุ่งเน้นการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพตามมาตรฐานสากลที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด พร้อมส่งเสริมการสร้างตราสินค้าและเรื่องราวในระดับจังหวัดและอำเภอ เพื่อสร้างเอกลักษณ์และมูลค่าเพิ่ม

4.เสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรให้เข้มแข็ง สนับสนุนการเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรครบวงจร พร้อมจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อการจัดหาเครื่องจักรกรกลทางการเกษตรและอุปกรณ์ที่จำเป็น

5.จัดการทรัพยากรทางการเกษตรเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Go Green) ส่งเสริมการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวทาง BCG และ Carbon Credit เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

6.ปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อระบบการผลิตและเสถียรภาพราคาสินค้าในประเทศ พร้อมตรวจสอบและติดตามสต็อกสินค้าเกษตรภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงควบคุมการนำเข้าสินค้าเกษตรในช่วงก่อนผลผลิตออกสู่ตลาด เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาและปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรไทย

นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนด นโยบายเร่งด่วน "3 สร้าง" เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งในระยะแรก ได้แก่ 1. สร้างรายได้ ปรับเปลี่ยนที่ปลูกข้าวนาปรังเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชตระกูลถั่ว และสร้างรายได้จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร 2.สร้างตลาด ขยายตลาดสินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเชื่อมโยงสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์กับการท่องเที่ยว 3.สร้างโอกาส ยกระดับทักษะ (Reskill และ Upskil) ของเกษตรกรให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
ในช่วงท้ายร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ตนเอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้ง 2 คน รวมถึงผู้บริหารทีมข้าราชการ และบุคลากรทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจ จะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายอย่างไม่ย่อท้อ เราจะไม่ทิ้งเกษตรกรไว้ข้างหลัง และจะใช้ทุกศักยภาพที่มีเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับภาคเกษตรกรรมไทย สู่การเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลกอย่างแท้จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น