“ทนายอั๋น” บุกสภายื่นหนังสือต่อ ส.ส.เพื่อไทย จี้รวมชื่อ 50 คน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความคุณสมบัติ “อนุทิน” นายกฯ คนที่ 32 ชี้พฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง ทั้งย้ายทะเบียนบ้านบนที่พิพาทเขากระโดง ฮั้วส.ว. แต่งตั้งรมต.สีเทา และยึดถนนหลวงใช้ส่วนตัว ด้าน “หมอเชิดชัย” รับปากนำเข้าที่ประชุมพรรค 7 ต.ค. ก่อนตัดสินใจเดินหน้าล่าชื่อยื่นศาลหรือไม่
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยื่นหนังสือกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผิดมาตรฐานจริยธรรม ถึงสส.พรรคเพื่อไทย (พท.) โดยมีนพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นตัวแทนรับยื่นหนังสือ
โดยนายภัทรพงศ์ กล่าวว่า วันนี้ตนมายื่นหนังสือขอให้ สส.พรรค พท.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรค 1 ขอให้สส.รวมชื่อ 50 คน เสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จากกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบให้นายอนุทินดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ซึ่งได้รับโปรดเกล้าฯ และแถลงนโยบายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนเห็นว่าพฤติกรรมของนายอนุทินทั้งก่อนและหลังโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) บางคน เป็นที่คลาแคลงสงสัยว่า อาจมีคุณสมบัติที่ขัดหรือฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ทั้งอาจไม่มีความสุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ในหลายกรณี ได้แก่ 1.นายอนุทิน ย้ายทะเบียนบ้าน ไปอยู่ที่ดินพิพาทในอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ บริเวณแยกเขากระโดง ซึ่งที่ดินดังกล่าว เป็นที่ดินของรัฐคือการรถไฟแห่งประเทศไทย 2.กรณีถูกกล่าวหานายอนุทิน มีส่วนร่วมในกระบวนการโกง หรือได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา โดยมิชอบ คดีดังกล่าว นายอนุทินได้หมายเรียกเลขที่ 187 ถูกออกหมายเรียกจากคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ในระหว่างการดำเนินการของ กกต. หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
นายภัทรพงศ์ กล่าวต่อว่า 3.การแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องบุคคลที่สังคมรู้ว่า น่าจะมีคุณสมบัติต้องห้าม ร่วมมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งในรัฐบาลของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่กล้าแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแต่อย่างใด แต่รัฐบาลนายอนุทิน กล้าทำอย่างนั้น และ 4.กรณีที่นายอนุทิน อาจใช้อำนาจหน้าที่ส่วนตน ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้ถนนหลวงคือถนนที่ อบต. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นรันเวย์ส่วนตัว ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่าเคลือบแคลงสงสัยอย่างยิ่ง ว่านายอนุทิน เหมาะสม ขาดบกพร่อง และมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่
นายภัทรพงศ์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น จึงขอให้ สส.พรรค พท. ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ คือการรวมเสียง สส. ไม่น้อยกว่า 50 คน ส่งสภาฯ และส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความในประเด็นดังกล่าว ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมาตรฐานอย่างไร โดยศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรอิสระที่คำวินิจฉัยผูกพันกับทุกหน่วยงาน ทั้งนี้ ตนหวังว่า สส.พรรค พท.จะดำเนินการเรื่องดังกล่าวและหวังว่าการมาของตนจะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนส่วนรวม
ด้านนพ.เชิดชัย กล่าวว่า จากที่นายภัทรพงศ์พูดมาถูกทั้งหมด ซึ่งตนได้รับมอบหมายจากนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ให้มารับหนังสือ และจะส่งกรรมการพรรคพิจารณา เพื่อเข้าชื่อ สส. 50 คน พร้อมส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
เมื่อถามว่า การเข้าชื่อเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นมติพรรคหรือไม่ นพ.เชิดชัย กล่าวว่า จะต้องรอการประชุมพรรคในวันที่ 7 ตุลาคม ถามย้ำว่า แสดงว่ามีแนวคิดนี้อยู่แล้วใช่หรือไม่ นพ.เชิดชัย กล่าวว่า ก็จะได้เอาข้อมูลไปดูว่ามีเหตุผลหรือไม่ และจะดำเนินการอย่างไร