“ดร.ณัฏฐ์” ซัด “สส.กฤช” ระยอง พรรคประชาชน อภิปราย พาดพิง “สุชาติ” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทส. มั่ว ยืนยัน มีคุณสมบัติครบถ้วนตาม รธน ไร้พยานหลักฐาน พร้อมท้าชนดีเบตทุกเวที
วันที่ 30 กันยายน 2568 สืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล วันที่สอง โดยนายกฤช ศิลปะชัย สส.จังหวัดรยอง พรรคประชาชน อภิปราย การลักลอบขนขยะนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลโดยไม่มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับ ติดสติ๊กเกอร์มังกรน้ำเค็ม พวกกันสำคัญเสมอนั้น
ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายประจำรองนายกรัฐมนตรี (นายสุชาติ ชมกลิ่น) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ข้อกล่าวหาตามที่นายกฤช ศิลปชัย สส.จังหวัดระยอง พรรคประชาชน อภิปราย น่าจะอ่านนิยายน้ำเน่าเยอะไป เป็นข้อความที่อภิปรายในสภาอันเป็นเท็จ พาดพิงนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้สังคมและประชาชนเข้าใจผิด ตนจะสอนมวยให้ คุณสมบัติของรัฐมนตรี เป็นไปตามความรู้ความสามารถ เมื่อตรวจสอบประวัติแล้ว มีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 250 มาตรา 160 การจัดสรรตำแหน่งเป็นวาสนาของนายสุชาติฯ อย่าอิจฉาตาร้อน ในการดูแลกระทรวงเป็นไป ตามความรู้ความสามารถ มิใช่ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะแต่งตั้งบุคคลใดมาทำหน้าที่ก็ได้ ทำเป็นด้อยค่าคนอื่น แต่ไม่หันไปมองตนเองด้วย กระสันอยากเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ รอชาติหน้าตอนบ่ายๆ พยานหลักฐานที่กล่าวหา หากเป็นจริงทำไม ไม่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ตนจะได้สวนกลับทันควัน แต่ใช้วิธีการพาดพิงในการอภิปรายในการแถลงนโยบาย มิใช่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล
ส่วนตั้งข้อสงสัยถึงความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยเชื่อมโยงนายสุชาติกับกลุ่มทุนสีเทาในธุรกิจรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ผิดกฎหมายในพื้นที่ตะวันออกนั้น ตนยืนยันว่า ตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริงตามข้อกล่าวหา นายกฤชฯต้องกลับไปอ่านพจนานุกรม ว่า “ผู้มีอิทธิพล” คืออะไร นายกฤช น่าจะเข้าใจและคาดคะเนไปเอง
ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่านายสุชาติ เป็นผู้มีอิทธิพลนั้น ข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความจริง โดยนายสุชาติ ฯ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการสติ๊กเกอร์รูปภาพของตน เพราะสติกเกอร์ของนายสุชาติ มีมาตั้งนานแล้ว คำว่า “มังกรน้ำเค็ม” และสโลแกนที่ว่า “พวกกันสำคัญเสมอ”ในการติดรถยนต์ รถเก๋ง รถบรรทุก ที่กล่าวหาว่าวิ่งขนขยะอิเล็กทรอนิสก์ระหว่างท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ปลายทางจังหวัดปราจีนบุรีนั้น สติกเกอร์ ลักษณะเป็นรูปภาพของนายสุชาติ เป็นแจกให้แก่ประชาชนทั่วไป ก่อนที่จะยุบสภาในปี 2566 และจัดการเลือกตั้งในการเลือกตั้ง สส.ในปี 2566
การแจกสติ๊กเกอร์รูปถ่ายอิริยาบถยกมือไหว้ แสดงชัดแจ้งว่า เป็นการหาเสียง ก่อนการเลือกตั้งปี ๒๕๖๖ เพื่อแจกให้แก่ประชาชนทั่วไป มิใช่ให้อภิสิทธิ์ชน นำไปติดกับรถยนต์ รถเก๋ง รถบรรทุก เป็นการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง สส.ก่อนยุบสภา ในปี ๒๕๖๖ โดยกลุ่มเป้าหมายฐานเสียง เป็นประชาชนที่ชื่นชอบทั่วไป ไม่ได้ระบุถึงบ่งถึงกลุ่มใด บุคคลใดโดยเฉพาะ
การนำไปติดหน้ารถบรรทุก ทำให้เกิดความเข้าใจว่า ตนเองไปเกี่ยวข้องกับรถบรรทุก เสมือนประหนึ่งว่า เป็นส่วยสติ๊กเกอร์ แต่ส่วยสติ๊กเกอร์เขา จะมีรหัสเป็นความลับและรู้กันเฉพาะกลุ่ม มิใช่ว่า เอารูปภาพตนไปติด โดยเปิดเผย ไม่มีใครเขาทำกัน เหตุที่เขานำรูปตนไปติดไว้ เพราะชื่นชอบนายสุชาติ มากกว่า
ไม่ว่าบุคคลใดๆ นำไปติดรถ ตนต้องขอบคุณที่ยังรักและศรัทธาตน แต่ตนไม่มีอำนาจไปสั่งให้บุคคลใดไปแกะสติ๊กเกอร์ออก เพราะเป็นการละเมิดสิทธิ และอาจกระทบต่อฐานคะแนนเสียง ทำให้ลดความศรัทธาลง ส่วนบุคคลอักษรย่อ ย. นั้น ไม่ได้ทำหน้าที่ผู้ชำนาญการประจำตัว เท่าที่ได้สอบถามบุคคลดังกล่าว เคยมาทำงานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ได้ประกอบอาชีพโดยสุจริต ได้ความว่า ได้ถูกว่าจ้างบรรทุกสินค้า ไม่ทราบว่า สินค้าประเภทใด เพราะปิดซิวและไม่มีสิทธิเปิดตรวจสอบ ทั้งการรับสินค้ามาจากท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้เข้าใจโดยสุจริตว่า เป็นสินค้าที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะสินค้านำเช้าระหว่างประเทศจะถูกตรวจสอบโดยกรมศุลกากร ตามใบตรานำเข้า การบรรทุก ระหว่างต้นทางท่าเรือแหลมฉบับ ปลายทางจังหวัดปราจีนบุรี เป็นการรับจ้างบรรทุกโดยเปิดเผยและภายหลังไม่ได้รับจ้างวิ่งแล้ว ส่วนสติกเกอร์ที่ถูกนำมาติด ไม่มีลักษณะเป็นส่วยสติกเกอร์ โดยนายสุชาติฯไม่ทราบเรื่องและไม่ได้ประกอบกิจการรถบรรทุกดังกล่าว
หากนายกฤช ศิลปชัย หากมีพยานหลักฐานให้เอามาแสดง อย่าใช้วิธีการตีกินทางการเมือง ตีหัวเข้าบ้าน ทำให้ประชาชนทางบ้าน สับสน นายสุชาติฯทำงานอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและสามารถตรวจสอบได้ ช่วยกันแชร์ให้ถึงนายกฤช “อย่าเก่งแต่ปาก” ตนขอท้าดีเบตนายกฤชแทนนายสุชาติ ตัวต่อตัว ทีวีช่องไหนก็ได้ อย่ามาหนีตนแล้วกัน เดี๋ยวจัดให้อย่างงาม