xs
xsm
sm
md
lg

พท.ยื่นแก้หมวด 15 ดัน รธน.ใหม่ สสร.เลือกตั้ง 100 องค์กรวิชาชีพ–มหาวิทยาลัยอีก 51 ชี้ สว.เป็นผู้ใหญ่คงคิดได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พท.ยื่นแก้หมวด 15 เปิดทางรธน.ใหม่ เสนอ 151 สสร. 100 มาจากเลือกตั้ง 51 จากองค์กรวิชาชีพ–มหาวิทยาลัย ชูเป็นทางออกให้ปชช.มีส่วนร่วมมากที่สุด แม้รับยากจะจบ 3 วาระใน 4 ด. ฉะฉบับ 60 ต้นตอวิกฤต ต้องเขียนใหม่ทันก่อนยุบสภา ไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวสว.เป็นผู้ใหญ่คงคิดได้

วันที่ (25 กันยายน) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พท. ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา

โดยนายชูศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้พรรค พท. ประกอบไปด้วย สส. 113 คนร่วมกันยื่นญัตติเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญหมวด 15 ว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมเพื่อให้มีการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ประธานรัฐสภาเพื่อนำญัตตินี้บรรจุลงระเบียบวาระการประชุมสภาต่อไป โดยการยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้ คํานึงถึง 1.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปี พ.ศ.2560 ว่ามีข้อห้ามกี่ข้อ ต้องพิจารณาอย่างไรบ้าง 2.คําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเราไม่ดําเนินการตาม ท้ายที่สุดประวัติศาสตร์จะซ้ํารอย มีคนไปยื่นคําร้อง และทําให้ร่างรัฐธรรมนูญไม่ประสบความสําเร็จตามที่เราตั้งใจ 3.ในอดีตที่ผ่านมา เราเคยยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยกระบวนการสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากเราคิดว่าการมีคนมาร่างรัฐธรรมนูญ โดยกระบวนการ สสร.นั้น เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน

อย่างไรก็ตาม 3 เรื่องนี้ คณะทํางานยกร่างของพรรค พท. มีข้อสรุปดังนี้ 1.ให้รัฐสภาแต่งตั้ง สสร. ซึ่งจะพิสูจน์ว่าเราไม่ได้เลือก สสร.โดยตรง แต่รัฐสภาเป็นคนเลือก หลังจากที่ประชาชนเลือกมาแล้ว และหากมีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว ยังคงต้องให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ ในฐานะผู้ที่ริเริ่มการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื่องจากรัฐสภาไม่สามารถมอบองค์กรใดให้มายกร่างรัฐธรรมนูญแทนได้

“จริงๆ แล้วการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังไม่เริ่มต้น การที่เรายื่นคําร้องญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวันนี้ เป็นการเพิ่มเติม ถ้าผ่านวาระสาม เข้าสู่การทำประชามติแล้ว ประชาชนเห็นชอบ จึงจะนํามาประกาศใช้ และเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว จึงจะทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เริ่มขึ้น ”

นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า การคุยกันนอกรอบของ 3 พรรค เห็นตรงกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจจะเริ่มขึ้นหลังจากมีการทําประชามติ เมื่อมีการยุบสภาแล้ว และเมื่อมีการประกาศในส่วนของการแก้ไข ก็จะมีการเริ่มกระบวนการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการเลือกตั้ง สสร.ตามกระบวนการที่กำหนดไว้

นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการคัดเลือก สสร.นั้น จะมาจาก 2 ส่วน คือ 1.ให้มี สสร.จํานวน 100 คน โดยรัฐสภาเป็นผู้เลือก จากการที่ประชาชนเลือกมาทั้งหมด 300 คน ซึ่งมีหลักประกันว่า ในหนึ่งจังหวัดต้องมี สสร.อย่างน้อยหนึ่งคน เพื่อป้องกันการบล็อกโหวต การฮั้วกัน

2.เราคํานึงว่าเรามีองค์กรทั้งหลายที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ ในสังคม ในกระบวนการบริหารราชการแผ่นดินมากมาย ทั้งองค์กรรัฐ เอกชน หรือองค์กรที่ให้ความเห็นเสนอแนะรัฐบาลต่างๆ เราคิดว่าควรให้องค์กรเหล่านี้ มีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ จึงให้องค์กรวิชาชีพ และสภาต่างๆ รวมไปถึงมหาวิทยาลัย นิสิตนักศึกษา เข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยจะให้องค์กรเหล่านี้เลือกเสนอชื่อบุคคลเข้ามาเอง ซึ่งท้ายที่สุดคาดว่าจะได้บุคคลที่มาเป็น สสร.ประมาณ 51 คน รวมสองส่วนเป็นจำนวน 151 คน

นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ คนเหล่านี้จะมีหน้าที่มาจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แน่นอนว่าเขาอาจไม่ใช่บุคคลที่มีความรู้ความสามารถเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่สามารถไปตั้งคณะกรรมาธิการจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายมายกร่างรัฐธรรมนูญได้ เนื่องจากมีการวินิจฉัยไว้ว่า จะให้ สสร.ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มา แล้วประกาศใช้เลยไม่ได้ จึงให้มีการกลับมาขอรัฐสภาให้ความเห็นชอบ และไปทําประชามติ เพื่อประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

อย่างไรก็ตาม ร่างของพรรค พท. คงถูกนํารวมไปพิจารณากับร่างของพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชน และจากกรณีที่นายกรัฐมนตรีประกาศเมื่อวันที่ 24 กันยายน ว่าจะยุบสภาภายในเดือนมกราคม 2569 ตนขอฝากเป็นข้อสังเกตว่าน้อยที่สุด ร่างที่นําเสนอไปนี้ต้องทําให้เสร็จสิ้นในวาระสาม ก่อนที่จะมีการยุบสภา ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมจึงจะสามารถเดินไปได้

นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า พรรคการเมืองทั้ง 3 พรรค และกรรมาธิการที่จะตั้งขึ้นคงมีภารกิจที่สําคัญอย่างยิ่ง ชนิดที่ว่าไม่มีเวลาไปทําอะไรเลย นอกจากจะยกร่างให้เสร็จภายในวาระสาม เพราะประสบการณ์ที่ตนมีมา ไม่เคยมีการพิจารณาวาระหนึ่ง สอง และสามให้เสร็จภายใน 4 เดือน เป็นเรื่องยากมากๆ บางฉบับใช้เวลา แค่กฎหมายธรรมดา ก็ 8-9 เดือน

นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เราตั้งใจจะทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาหลายด้าน ทุกคนก็เห็นอยู่แล้ว และรัฐบาลที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่ในขณะนี้ บทชัดเจนที่สุดก็เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญ 2560 ประเทศไทยหยุดอยู่กับที่ก้าวเดินไม่ได้สักที ก็เพราะอุปสรรคจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการบรรจุระเบียบวาระเข้าสู่การพิจารณาร่างดังกล่าวประมาณวันที่ 14-15 ตุลาคมนี้

เมื่อถามว่า มองว่าจะเป็นเรื่องยากมากน้อยแค่ไหน ในการที่จะตกลงกันเรื่องที่มาของสสร. นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง แต่ท้ายที่สุดคงต้องคุยกันด้วยเหตุด้วยผลว่าอันไหนจะดีที่สุด ตนขอไม่มีวิจารณ์ว่าของพรรคไหนดีหรือไม่ดี แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ดูเหมือนได้อธิบายไปแล้วว่า เราพยายามจะทําอย่างไรให้ยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด ให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด หากไปโหวตรวมกันเลยทีเดียว ก็อาจจะมีปัญหาว่าใครคุมเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ เอาไปหมดเลย แต่ท้ายที่สุดก็อยู่ที่หลอมรวมความคิดกัน

เมื่อถามถึง กรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เสนอว่าอยากให้พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ถอนร่างออกมา ทําเป็นร่างเดียวกันนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นความเห็นของนายณัฐวุฒิเอง ส่วนตัวเราเดินมาขนาดนี้แล้ว ก็ตอบอยู่ในตัวแล้วว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เป็นความเห็นในทางการเมือง และความคิดของนายณัฐวุฒิ เป็นเรื่องที่เขาแสดงความคิดเห็น แต่ขณะนี้เมื่อเรายื่นร่างแก้ไขแล้ว ก็แสดงว่าเรายืนของเราแนวนี้ คงต้องไปถามทั้ง 2 พรรคนั้น เราไม่วิจารณ์

ส่วน จะมีการจัดตั้งกลุ่มที่จะไปพูดคุยโน้มน้าวกับ สว.หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ดูบรรยากาศในท้ายที่สุดคิดว่า กระแสสังคมมาถึงขนาดนี้ พรรครัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน ใครต่อใครก็เอาด้วยหมด ก็ต้องไปดูว่าเขาคิดอย่างไร เราคงไม่ไปจัดตั้งอะไร เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ทุกคนคงคิดได้แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นกันว่า พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย มีการเสนอร่างแล้ว หมายความว่า ความต้องการของฝ่ายการเมือง คืออยากให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ สว.คิดอย่างไรก็สุดแท้แล้วแต่ สว.จะพิจารณา

ถามย้ำว่า ทั้ง 3 พรรค คงต้องหาข้อตกลงให้ได้ว่าจะเอาร่างใดเป็นร่างหลัก เพื่อไม่ให้ต้องนําไปสู่การลงมติ วัดคะแนนเสียงกันใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็ไม่รู้ แต่ถ้าไปดูใน MOA มี 2 ข้อ ที่เขาคงคิดว่าเขาคุยกันได้ ก็ให้เขาไปว่ากัน เราไม่ได้ไปทํา MOA ด้วย เราไม่รู้


กำลังโหลดความคิดเห็น