xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน" แถลงหลังหารือภาคตลาดทุน พร้อมร่วมมือสร้างความเชื่อมั่น ยันไม่ได้มาเป็นนายกฯ เท่ๆ 4 เดือนมีแต่ทำงานเต็มที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ แถลง หลังหารือ คณะผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย-สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ลั่นไม่ได้มาเป็นนายกฯ เท่ห์ๆ 4 เดือน บอกมีแต่ทำงานเต็มที่ เผยแอบกระซิบทีมเศรษฐกิจ อย่ามากินกาแฟฟรี ต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจ เกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรวม คุยทีมปราบทุนเท่าเพื่อนกันทั้งนั้น เล็งงบประมาณมาใช้ในโครงการคนละครึ่งแล้ว ลุยทำโครงการต่อทันที
วันที่ 25 ก.ย.เมื่อเวลา 12.00 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงภายหลังการหารือกับคณะผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทยว่าได้ใช้เวลาหารือและได้เนื้อหาสาระมากพอในการแสวงหาความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน สร้างความเข้มแข็งและแข็งแกร่งของตลาดทุนไทย ทั้งการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดทุน เสริมสร้างความเชื่อมั่นนโยบายภาครัฐให้กับนักลงทุน การพัฒนาเครื่องยนต์เศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยกลไกตลาดทุน เพิ่มสภาพคล่องระยะยาวในตลาดทุนไทย ซึ่งมีรายละเอียดจะให้ภาครัฐและฝ่ายตลาดทุนหารือกันต่อไป เพื่อนำมาซึ่งการดำเนินการได้เร็วที่สุด ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดด่านแรกในการแสดงความมั่งคั่งของประเทศให้ได้รับความเชื่อมั่นเต็มที่จากนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

พร้อมหารือการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นภาระอุปสรรคที่ต้องใช้ความกล้าหาญในการตัดสินใจ ซึ่งเป็นภาษาทางเศรษฐกิจ เรียกว่า Regulatory Guillotine คือ กระบวนการทบทวนและปรับปรุงกฎหมาย คำนี้ดุมากเพราะพวกที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในแนวทางแก้ไขกฎหมาย หรือการตรากฎหมายใหม่ขึ้นมา อาจจะไม่มีเวลาเพียงพอ รัฐบาลชุดนี้จะใช้เวลา 4 เดือนที่เรามีอยู่อย่างเต็มที่ ในส่วนไหนที่สามารถทำได้ด้วยการตัดสินใจเชิงบริหารจะเร่งทำด้วยการสนับสนุนของตนในฐานะนายกรัฐมนตรีให้กับคณะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบดูแลด้านเศรษฐกิจ ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ ภาคอุตสาหกรรมและพลังงานได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นฟื้นเศรษฐกิจและวางรากฐานอนาคตของตลาดทุนไทย และระบบเศรษฐกิจไทยในระยะยาว และจะดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่องต่อไป


นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มองกันว่านักลงทุนมีความกังวลที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยหรือไม่ ว่า การสร้างความเชื่อมั่นที่จะสามารถทำได้ และมอบให้กับประชาชนคือ รัฐบาลชุดนี้ได้มีการจัดตั้งทีมทำงานด้านเศรษฐกิจตั้งแต่รองนายกรัฐมนตรี ไปจนถึงรัฐมนตรีต่างๆ ที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจเป็นบุคลากรที่ไม่มีการครอบงำใด ๆ ทางการเมือง สามารถที่จะใช้ความรู้ความสามารถของแต่ละคนในการทำภารกิจและนโยบายของตนเองที่ได้มอบไปอย่างเต็มที่ โดยใช้ทุกอย่างที่มีอยู่ฟื้นฟูสร้างความเชื่อมั่น และมั่งคั่งให้กับเศษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งทุกคนมีอำนาจเต็ม สังเกตได้ว่าทีมงานเศรษฐกิจไม่มีทีมการเมือง ซึ่งแต่ละคนจะต้องคัดสรรบุคลากรที่จะนำมาช่วยงานแต่ละคนด้วยตัวของรัฐมนตรีเอง และมีอำนาจเต็มในทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับ กฎหมาย ไม่ทำผิดรัฐธรรมนูญใดๆ ทั้งสิ้น โดยจะใช้เวลาที่มีอยู่กับอำนาจหน้าที่ในหน่วยงานที่รัฐผิดชอบได้อย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าระยะเวลา 4 เดือนจะเรียกความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศได้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจะมาแก้หรือตรากฎหมายขึ้นมาใหม่ ถ้าพูดคำนี้แสดงว่าไม่ต้องเชื่อ เพราะจะดำเนินการไม่ได้ตามระยะเวลาที่มี แต่หากจับในสิ่งที่มีอยู่ สิ่งใดที่แก้กฎระเบียบ หรือประกาศเป็นกฎกระทรวงได้ ซึ่งเป็นกลไกที่มีอยู่ภายในกระทรวง และทุกหน่วยงานที่รัฐมนตรีกำกับดูแลอยู่ก็จะมีการกระทุ้งท่อให้เกิดความลื่นไหลเหมือนบอลลูนและคล่องตัว ดังนั้น 4 เดือนนี้ จึงเป็น 4 เดือนที่เพียงพอและวางรากฐานให้ต่อเนื่องไปยังรัฐบาลชุดต่อไป

ส่วนนายกรัฐมนตรีมีความคาดหวังให้ตลาดทุนไทยมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจไทยอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องตลาดทุนกับเศรษฐกิจ ถือเป็นของที่คู่กัน ตนเองคาดหวังให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะถือว่ามีทีมงานที่ดี ซึ่งการลงทุนในตลาดหุ้นกว่าจะเห็นผลงานหรือลงทุนในด้านใด เมื่อเห็นผลประกอบการแล้วจะไม่ทันคนอื่น ดังนั้นต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่า ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลชุดนี้มีความเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง ซึ่งหากเวลาคิดจะลงทุนสิ่งใดก็ตามน่าจะมีการลงทุนด้วยข้อมูลและใช้ข้อมูลการกระทำที่ได้เกิดขึ้นแล้วมาเป็นตัวชี้วัดในอนาคต ซึ่งทุกคนก็จะสร้างความเชื่อมั่นในตัวหุ้นนั้นๆ และจะเกิดการลงทุน ทั้งนี้การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงแต่ทำอย่างไรจะบริหารความเสี่ยงเป็นความเสี่ยงที่คำนวนได้ แล้วสามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งที่ผ่านมาตรงจุดนี้ขาดหายไป เพราะว่าทิศทางไม่ชัดเจน แต่รัฐบาลชุดนี้ จะมีเวลาซักกี่เดือนก็แล้วแต่ ถ้าสามารถสร้างความชัดเจนได้ ความมั่นใจก็จะกลับคืนมาต่อตลาดทุนของประเทศไทย


สำหรับกรณีผลกระทบที่สถาบัน Fitch Ratings หรือองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ปรับลดความน่าเชื่อถือไทย ทั้งจากปัจจัยการเมือง และการลดรายจ่าย จะมีแนวทางอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า การปรับลดอาวุธคือเป็นการปรับจากพื้นฐานในอดีต แต่นี่เป็นรัฐบาลใหม่ก็รับทราบปัญหานี้มาแล้ว และจะพยายามปรับเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยการกำหนดนโยบายและการดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่การเดินสายพบสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ซึ่งปัญหาที่ได้รับฟังมาจากทุกภาคส่วน ก็คือความไม่ชัดเจนหรือทิศทางการสนับสนุนของรัฐต่อผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับข้อเสนอนี้มาเต็ม 2 รูหู และมั่นใจว่านี่คือหน้าที่ที่รัฐบาลในชุดนี้ ประกอบด้วยจากภาคส่วนต่างๆ ที่เข้าใจในบริษัทปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และจะเร่งแก้ไขปัญหาร่วมกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยครั้ง ส่งผลให้กระชากเศรษฐกิจทรุดลง รัฐบาลนี้จะวางรากฐานเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลา 4 เดือน และมั่นใจหรือไม่หลังเลือกตั้งจะนำทีมเศรษฐกิจนี้กลับมาบริหารต่อว่า รัฐบาลที่เปลี่ยนแปลงบ่อยไม่ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีเสมอไป แต่ขอให้มีความใจกว้าง นึกถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นเป้าหมายหลัก อย่างรัฐบาลชุดนี้ เมื่อเข้ามาแล้วนโยบายสิ่งไหนที่ค้างท่อจากรัฐบาลที่แล้วมา หรือนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นทิ่นิยมชมชอบแล้วสามารถนำมากระตุ้นเศรษฐกิจคุณภาพชีวิต หรือสร้างความสงบให้กับสังคมได้ ตนเองก็จะนำมาสานต่อ เช่น นโยบายคนละครึ่ง ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่และเป็นโจทย์แรกที่รัฐบาลชุดนี้ต้องทำให้ได้ ซึ่งเตรียมทั้งงบประมาณ หากใช้งบก้อนนี้ไม่ได้ ก็เล็งไปใช้อีกก้อนหนึ่ง เพื่อมาดำเนินการ โดยไม่มีการยืดระยะเวลาที่จะมาดำเนินการ ซึ่งก่อนเข้ามาบริหารราชการเต็มตัวก็ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ขอให้ประชาชนได้เห็นการดำเนินการของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ว่าเราจะเข้ามาแก้ไขปัญหาและหาทางออกให้กับบ้านเมืองอย่างจริงจริง

“ไม่ใช่มาถึงรอวันยุบสภาแล้วมาเป็นรัฐมนตรี มาเป็นนายกฯ เท่ห์ๆ ใน 4 เดือน ไม่มีหรอกครับ ไม่มีเท่ห์ มีแต่เวลาทุกวันที่จะต้องทำงานอย่างเต็มที่ “

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังอยากเห็นตลาดทุนไทยมีดัชนีพุ่งขึ้นให้ทุกคนได้เอ็นจอยกับการลงทุน และอยากเห็นการสนับสนุนจากภาครัฐ การอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ประกอบกิจการได้ด้วยความสะดวก สร้างผลกำไร และทำให้นักลงทุนได้มีมูลค่าเพิ่มจากการลงทุนของตนเอง ซึ่งในวันนี้ได้มีการรับข้อเสนอมามากมาย บางข้อเสนอก็พูดกันตรงๆ ในที่ประชุมว่า ถ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องมีการตรากฎหมาย ซึ่งต้องเสียเวลา รัฐบราลชุดนี้ทำไม่ทัน แต่ส่วนที่ทำได้เลย เช่น การทวบทวนและปรับปรุงกฎหมาย สามารถทะลวงหรือป้องกันได้ ก็จะดำเนินการทันที ส่วนที่สามารถทำได้ในรัฐบาลชุดนี้ ก็หันไปกระซิบกับนายเอกนิติว่า วันนี้ตนเองอย่ามากินกาแฟฟรีนะ ดังนั้นต้องรีบทำ และทำให้ได้ เมื่อขอมา 10 เรื่อง ทำให้ได้ซักด 3-4 เรื่องเป็นรูปธรรม แล้วเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรวมก็ขอให้ทำได้เลย

ส่วนกรณีกองทุนการออมระยะยาว จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสภาพคล่องของตลาดหุ้นภายใน 4 เดือนนี้จะได้เห็นผลประโยชน์ด้านใดตอบแทน นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งไหนที่ทำไม่ได้เห็นผลใน 4 เดือน แต่ถ้าสามารถวางกรอบให้ต่อเนื่องได้จะทำให้ ส่วนโครงการนี้จะดำเนินการได้ทันทีหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการทันทีอยู่แล้ว แม้มีเวลาเพียง 4 เดือน และนี่คือเหตุผลที่ต้องเร่งแถลงนโยบายโดยเร็ว แต่ปกติรัฐบาลทั่วไปจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ในการแถลงนโยบายแล้ว แต่รัฐบาลนี้ได้เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และได้รับพระมหากรุณาธิคุณเข้าเฝ้าถวายสัตย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เตรียมไว้ก็ดำเนินการโดยทันที


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินหน้าขายโครงการธนบัตรดิจิทัล หรือจีโทเคน ว่าขอให้สอบถามนายเอกนิติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ทุนปริศนาถูกมาพักในตลาดทุนไทย นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายและจะดูแลกำชับเรื่องนี้อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องไหนที่เป็นสีเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้ และเงินที่เข้ามาแล้ว มีข้อสงสัยจะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเงินเหล่านี้หลุดเข้ามาก็ส่งผลให้เงินบาทแข็ง มีกลุ่มคนเดือดร้อน ซึ่งต้องพยายามดำเนินการ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งกฎหมาย หากยึดได้ก็จะยึด ดังนั้นต้องระวังไว้ คนที่จะฝากหรือคนที่จะกระทำด้านนี้ เพราะยุคนี้เป็นยุคที่ทุกคน ทั้งนายกรัฐมนตรีและทีมงานเศรษฐกิจ ทีมงานความมั่นคง เป็นเพื่อนกันหมด และทำงานมาด้วยกัน เรียนหนังสือมาด้วยกัน ดังนั้นการประสานงานต่างๆ มีเป้าหมาย คือไม่ให้ระบบเศรษฐกิจระบบการเมือง สังคม ของประเทศไทยถูกทำลาย ซึ่งทุกคนเห็นเป้าหมายเดียวกันอย่างชัดเจน ดังนั้นทุกอย่างสามารถแสวงหาความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามด้วยการหยุดทันที

ก่อนที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่า ในช่วงระยะเวลา 4 เดือน จะมีความเข้มงวดในการตรวจสอบตลาดทุนที่จะมีลักษณะความผิดปกติเพื่อนำเงินไปใช้ในการหาเลือกตั้งอย่างไร นายอนุทิน เผยว่า ตลาดหุ้นตลาดทุนเอาเงินไปใช้เลือกตั้งผู้ตรวจสอบหากผู้ตรวจสอบปล่อยให้เป็นแบบนั้นก็โดนแตกใบเหลืองใบแดง

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ไม่ต้องกำชับ เรื่องนี้ต้องมีความเข้มงวดอยู่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น