อดีตตร.ดังเล่นใหญ่ไฟกระพริบ ยื่นร้องปธ.ก.ศป.เอาผิดวินัย-จริยธรรม ปธ.ศาลปค.สูงสุด- "อนุวัฒน์" ปธ.แผนกคดีละเมิด ชี้คลิปเสียงหลุด ทำมั่นใจแทรกแซงคดีฟ้องให้พ้นราชการ จ่อยื่นฟ้องศาลอาญาทุจริตสัปดาห์หน้า ปูด "ประสิทธิศักดิ์" เคยมาขอฝากเลื่อนขั้น.ตร.แต่ตนไม่สนอง
วันนี้(18ก.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการทางวินัยและจริยธรรมกับนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด และ นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่น ศาลปกครองสูงสุด รวมทั้งขอให้ประธานศาลปกครองสูงสุด ถอนตัวจากการพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ ฟ 117/2567 หลังปรากฏคลิปเสียงสนทนาของคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดกลุ่มหนึ่ง เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยอ้างว่า เป็นคลิปเสียงของ นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง แจ้งกับองค์คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด เจ้าของสำนวนคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ และ นายกรัฐมนตรี ที่ให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ ว่า ได้รับคำสั่งจาก ประธานศาลปกครองสูงสุด (นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ) ให้ยกเลิกมติขององค์คณะ และประชุมใหม่ทั้งหมด พร้อมทั้งจะนำเข้าที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ทั้งที่องค์คณะเจ้าของสำนวนได้มีการประชุมลงมติและมีเสียงข้างมากแล้วว่า ให้ระงับคำสั่งให้ออกจากราชการที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กระทำต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ เป็นการชั่วคราวก่อนศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น ด้วยมติ 3 ต่อ 2
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่า คลิปเสียงที่เผยแพร่ออกมานี้ เป็นคลิปเสียงจริงหรือไม่ เพราะตนไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ข้อความที่ปรากฏเป็นเสียงสนทนานั้น ถือเป็นการกระทำที่ก้าวก่ายและแทรกแซงการพิจารณาคดีองค์คณะอย่างชัดเจน เป็นการกระทำที่จงใจจะล้มล้างการเป็นอิสระของผู้พิพากษาขององค์คณะเจ้าของสำนวน เป็นการทำลายระบบคุณธรรมของศาลปกครองสูงสุดอันเป็นที่พึ่งของข้าราชการทั้งแผ่นดิน รวมถึงการตระบัดสัตย์คำสัตย์ปฏิญาณ ทรยศต่อหลักนิติธรรมของประเทศ อีกทั้ง ผู้บริหารศาลปกครองสูงสุดใช้การนิ่งเงียบไม่ชี้แจงอะไร ทั้งที่ตนเป็นคู่กรณีในคดีพิพาทที่ถูกกล่าวถึงในคลิปเสียง จึงเชื่อได้ว่าคลิปเสียงนั้นเป็นของจริง
"วันนี้ ตนไม่ได้คิดจะกลับไปรับราชการตำรวจอีกแล้ว แต่ความไม่อยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับผมในกระบวนการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายในกระบวนการยุติธรรมของผม ยังมีการก้าวก่ายแทรกแซงเปลี่ยนผลการพิจารณาคดีได้ แล้วชาวบ้าน และข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีอื่นๆ นั้นจะหวังอะไรกับความยุติธรรมกับศาลปกครองได้อีก"
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า จนถึงตอนนี้ ตนยังไม่เข้าใจว่า ประธานศาลปกครองสูงสุด มีเจตนาอะไรที่มาก้าวก่ายแทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดีนี้ เพราะที่ผ่านมา แทบไม่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน
"ยกเว้นเรื่องเดียวที่นายประสิทธิศักดิ์เคยมาติดต่อมาผม คือสมัยเป็น รอง ผบ.ตร. เพื่อขอฝากฝังนายตำรวจคนหนึ่งให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น แต่ตอนนั้น ผมไม่ได้ตอบสนอง เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย อีกทั้งก็เคยมีกรณี อดีตประธานศาลปกครองสูงสุดท่านหนึ่งต้องถูกปลดจากราชการ เพราะ วิ่งเต้นฝากฝังนายตำรวจเลื่อนขั้น เป็นบรรทัดฐานมาแล้ว ดังนั้นภายในสัปดาห์หน้า ตนจะฟ้องดำเนินคดีอาญากับนายประสิทธิ์ศักดิ์ ประธานศาลปกครองสูงสุด และ นายอนุวัฒน์ ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อีกทางหนึ่งด้วย"