นายกฯ เผยวงหารือสภาหอการค้าฯ นำเสนอบรรจุในร่างนโยบาย ทลายข้อจำกัดการค้า เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นใน 4 เดือน แม้เวลาน้อย มั่นใจเศรษฐกิจไม่ถอยหลัง ไม่เลือกว่าเป็นนโยบายก๊วนไหน ประชาชน-ประเทศได้ประโยชน์ ไปหมด วิน วิน ทั้งคู่ ไม่สนใจใครได้เครตดิต เปรียบ “มีรู มีหนู”
วันที่ 18 ก.ย.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเข้าหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ว่า ตนเองและทีมงานพยายามที่จะไปพบภาคเอกชนในช่วงก่อนที่จะเข้าไปทำการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมารับฟังข้อกังวล ข้อเสนอแนะและปัญหาสิ่งที่ทางภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุน หรือแก้ไข โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด เมื่อเวลาเข้าไปทำงานแล้วจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปได้โดยเร็ว และการมาพบในวันนี้ถือเป็นตัวแทนผู้ประกอบการในแต่ละภาคส่วน มีจอ้เสนอแนะ และต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อทำให้เกิดความคล่องตัวในการประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน หนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การขนส่ง แรงงานและโอกาสต่างๆ ในการส่งเสริมประเทศไทยในอนาคต และได้มีการหารือกันลงในรายละเอียดมากพอสมควร โดยหลังจากนี้หารือลงในรายละเอียดประเด็นสำคัญให้มากที่สุด แต่ในภาพรวมก็จะหาโอกาสมาหารือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่ามาตรการสร้างความเชื่อมั่น สนับสนุนผู้ประกอบการ ก็คือ การรับฟังปัญหาต่างๆ ทั้งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การสนับสนุนผู้ประกอบการ ด้านแรงงาน สินค้า ภาษี ภาคขนส่ง ก็พยามที่จะทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่ในสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือเป็นการปิดกั้นโอกาส ส่วนในรายละเอียดว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาแนวทางทำให้คล่องตัวขึ้นและแก้ไขปัญหาที่ยังค้างคาอยู่
ส่วนมาตรการเร่งด่วนที่ทางหอการค้าไทยเสนอ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานหอการค้าแห่ปงระเทศไทย เสริมว่า ได้มีการเห็นด้วยตามนโยบาย 4 ข้อรัฐบาล ส่วนข้อเสนอของสภาฯมองว่าเศรษฐกิจตอนนี้ ภาคการท่องเที่ยว ส่งออก และสิ่งที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเจริญเติบโตของประเทศ ก็ได้มีการเสนอไปแล้ว และเชื่อมั่นว่าข้อแถลงด้านเศรษฐกิจของนโยบายจะสามารถขับเคลื่อนได้แน่นอน
นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการการมอบหมายงานให้กับว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ให้ทำทุกอย่างให้การค้าคล่องตัว ราบรื่น ไม่เสียเปรียบผู้ค้าและเจรจาสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทำให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยมากที่สุดทาง ทั้งราคาพืชผลทางการ เกษตร เพราะคำว่าพาณิชย์ไม่ใช่เฉพาะค้าขายกับต่างประเทศ การค้าขายในประเทศก็ต้องทำให้มีการคล่องตัวสูงสุด ลดความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ ซึ่งต้องทำควบคู่กันไปทั้งพาณิชย์และคลังและการจัดหาแหล่งเงินเข้ามาอัดฉีดเพื่อที่จะทำให้มี Cash Flow(กระแสเงินสด) ไปดำเนินการต่อ ซึ่งผู้ประกอบการรายเล็ก รายย่อย ทั้ง SME ทั้งหลายบางครั้งไปต่อไม่ได้ เพราะยังติด MPL ทำให้สินค้าค้างสต๊อกก็เยอะ การผลิตเดินไม่ได้ เพราะ ไม่มีเงินซื้อส่วนประกอบอื่นเข้ามา ดังนั้นจะต้องมาคลายคอขวด ซึ่งจะต้องมีการเลือกดูด้วยว่าเป็นลูกค้าชั้นดีหรือมีความตั้งใจที่จะผลิตสินค้า ไม่ใช่เอาเงินมาหมุนให้ผ่านไปวันๆ จะต้องเป็นลูกค้าที่สามารถที่จะนำเงินทุนเหล่านี้ไปต่อยอดและทำให้ค้าขายต่อไปได้
เมื่อถามว่า ช่วงระยะเวลาในการบริหารประเทศ จะเห็นเศรษฐกิจเดินไปในทิศทางใด นายอนุทินกล่าวว่า คงไม่ถอยหลัง เพราะมีเวลาไม่นาน แต่ก็ต้องจดไว้ถือเป็นสัญญา ที่เซ็นไว้ก็คือ 4 เดือนยุบสภา หลังจากการแถลงนโยบาย
ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อทางคณะรัฐมนตรีได้ถวายสัตย์ฯแล้ว ซึ่งปัจจุบันนี้ก็เตรียมตัวร่างนโยบายที่รัฐบาลจะแถลงต่อรัฐสภาไว้เป็นที่เรียบร้อย แล้วมีปรับแก้นิดหน่อย เมื่อมาพบกับทางสภาหอการค้าก็มีบางจุดที่คิดว่าจะต้องการปรับแก้ร่างนโยบายที่ทำไว้เกือบเสร็จแล้วเพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ได้หารือกัน และมีความเห็นตรงกัน ดังนั้นวันนี้เมื่อเตรียมการเรียบร้อยแล้ว ก็เหลือเป็นกระบวนการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ และก็รอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มตัว ซึ่งในร่างนโยบายมีรายละเอียดทุกมติ
ส่วนความให้ความมั่นใจกับประชาชนในช่วงเวลาที่บริหารประเทศเศรษฐกิจจะดีมากน้อยแค่ไหน นายอนุทินกล่าวว่า ในเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจะพยายามอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าตนเองใจกว้างจะไม่คิดหรอกว่าผลักดันนโยบายที่ออกไป จะทำให้นโยบายที่ไม่ได้คิดเอง อาจจะเป็นนโยบายของพรรคอื่น กลุ่มอื่น คนอื่น แต่ส่วนตัวคิดอย่างเดียวว่า ถ้าเกิดประโยชน์กับประเทศ ส่วนตัวผมทำหมด เพราะเวลามีอยู่แค่นี้ มัวแต่คิดว่าจะไปกลัวใครดีเด่นดัง ได้เครดิต ถ้าทุกคนได้เครดิต ไปได้เลย ถ้าสำเร็จคนที่คิดทำ โครงการนั้น ก็ได้กับตัวผมในฐานะผู้ผลักดัน ก็ได้วินวินทั้งคู่ สิ่งที่ดีที่สุดทุกคนต้องวิน วิน ไม่ใช่คนหนึ่งชนะหรือคนหนึ่งแพ้ ไม่เช่นนั้นก็นำไปสู่ความขัดแย้ง การดึงซึ่งกันและกัน แต่ถ้าคิดว่าวินวินทั้งคู่ ไม่สนใจใครได้เครดิต แต่ประชาชน ประเทศได้ ผมบอกได้คำเดียวว่า ผมจะไปหมด “มีรู มีหนู”