xs
xsm
sm
md
lg

“มารุต”นำ ชาวบ้านหนองกราด ปรับตัวสู้ดินเค็ม ผสานเกษตร-ประมง ปล่อยกุ้ง-ปลา สร้างรายได้สูงโลละ 350 บาท พร้อมเฝ้าระวังน้ำลุ่มลำเชียงไกร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อวันที่( 15 ก.ย.) ที่บึงหนองใหญ่ เทศบาลตำบลหนองกราด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา นายมารุต ชุ่มขุนทด คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ที่ปรึกษา) ร่วมกับ นายสุรชาติ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมด้วยตัวแทนจากกรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมชลประทาน และเทศบาลหนองกราด จัดเสวนาเรื่อง “การทำประมงและการพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตร”

โดยการเสวนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถผสมผสานการทำประมงควบคู่กับการเกษตรได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบปัญหาดินเค็มและราคาพืชผลเกษตรต่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกมันสำปะหลัง แต่ราคาผลผลิตตกต่ำเพียงกิโลกรัมละ 1 บาท ทำให้รายได้ไม่เพียงพอในการเลี้ยงครอบครัว

“การพัฒนาเกษตรกรรมควบคู่ประมงถือเป็นทางออกสำคัญสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ดินเค็ม และเป็นต้นแบบที่สามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ ช่วยสร้างรายได้มั่นคงและฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน”นายมารุต กล่าว

ทั้งนี้ นายมารุต พร้อมคณะได้ทำพิธีปล่อยพันธุ์กุ้งก้ามกามจำนวน 100,000 ตัว และพันธุ์ปลา ลงสู่แหล่งน้ำ เพื่อเป็นตัวอย่างการทำประมงควบคู่เกษตรกรรม ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นการเลี้ยงกุ้งสร้างรายได้สูงถึงกิโลกรัมละ 350 บาท ส่งผลให้ครัวเรือนมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้น พร้อมสร้างต้นแบบการพัฒนาพื้นที่ดินเค็มให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการน้ำ การปรับปรุงบ่อกุ้งและระบบชลประทานในพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถลดความเสี่ยงจากภัยแล้งและน้ำท่วม อีกทั้งยังเป็นการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

นอกจากนี้ นายมารุต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมชลประทานประจำจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำเชียงไกรทั้งตอนบนและตอนล่าง ครอบคลุมพื้นที่อำเภอด่านขุนทด อำเภอเทพารักษ์ และอำเภอโนนไทย โดยได้ตรวจสอบระดับน้ำในเขื่อนหลักและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ พบว่าบางเขื่อนมีระดับน้ำใกล้เต็มความจุ จึงได้ดำเนินการระบายน้ำออกบางส่วนเพื่อป้องกันปัญหาน้ำล้นและน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ

“รมว.เกษตรฯ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร อุปกรณ์ และการแจ้งเตือนประชาชน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำลำเชียงไกรมีความปลอดภัยจากอุทกภัยและลดผลกระทบต่อการเกษตรและชีวิตความเป็นอยู่”








กำลังโหลดความคิดเห็น