xs
xsm
sm
md
lg

"เท้ง" เผยทุกพรรคเห็นพ้องแก้ รธน.หมวด 15 เสร็จใน 4 เดือน ส่วน ม.112 ว่าตามคำวินิจฉัยศาล รธน.จ้อ TIME แค่อยากสะท้อนปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘ณัฐพงษ์’ เผยทุกพรรคเห็นตรงกันแก้รัฐธรรมนูญ หมวด 15 สำเร็จทันภายใน 4 เดือน ชี้ตอนนี้ทิศทางยังดี จ่อถก สส. ประชาชนกำหนดทิศทางให้ชัด ใช้กำกับรัฐบาลอนุทิน เดินตาม MOA เชื่อสังคมมองออกพรรคใดพอจะประสานงานกับ สว. ไม่ขวางแก้ รธน.



วันนี้ (16 กันยายน) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยระบุว่า สิ่งสำคัญตอนนี้คือการเดินหน้าให้อยู่ในกรอบของ MOA คือการยุบสภา และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าสังเกตการให้ความเห็นของตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน ตอนนี้เราเห็นตรงกันแล้วว่า สามารถแก้ไขหมวด 15 ในช่วงเวลา 4 เดือนนี้ได้เลย แม้จะเป็นช่วงเวลาที่สั้น แต่ถ้าเราสามารถบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ยังทำได้ทัน

สำหรับการประชุม สส. ประจำสัปดาห์วันนี้ จะเป็นการชี้แจงให้ สส. เห็นว่า กรอบเวลา 4 เดือน การแก้ไขหมวด 15 สามารถเป็นไปได้ และต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เราอาจจะมีการตั้งประตูสำหรับการตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไข MOA ของภูมิใจไทย เช่น หากต้องการแก้ให้ทันใน 4 เดือน ร่างแก้ไขฯ วาระที่ 1 ควรบรรจุเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ และควรพิจารณาวาระที่ 1 ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อให้จบในสิ้นปี ซึ่งวันนี้จะหารือกันเรื่องกรอบเวลาให้ชัดเจน และใช้ในการกำกับดูแล และตรวจสอบรัฐบาลของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่าดำเนินไปตาม MOA หรือไม่

“ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า เราใช้ 143 เสียงในสภาฯ กำกับรัฐบาลอนุทินให้ทำตาม MOA ที่ตกลงกัน ตอนนี้ทิศทางยังเป็นไปในทางที่ดีอยู่ แต่เมื่อไรก็ตามที่เห็นสัญญาณว่าจะบิดพลิ้ว หรือถ่วงเวลา ก็พร้อมใช้ทุกเสียงในการตรวจสอบรัฐบาลทันที” นายณัฐพงษ์กล่าว

สำหรับการโน้มน้าวเสียงเห็นชอบของ สว.ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะมีพรรคการเมืองใดเป็นหลักในเรื่องนี้หรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ระบุว่า โดยหลัก สว.มีเอกสิทธิ์ของตนเอง แต่ในทางการเมือง เชื่อว่า สาธารณชนก็พอจะมองได้ว่า ใครที่พอจะไปประสานงานกับ สว.ได้บ้าง เชื่อว่าทุกพรรคเห็นตรงกันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้แน่นอน ที่ผ่านมาจะเห็นว่า 2 ปี ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย กระบวนการเป็นไปได้ช้า แต่วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและเป็นผลดี ประตูของการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกเปิดขึ้นแล้ว และมีทิศทางที่ดี

ส่วนจะถูกขวางโดย สว. หรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตนเองและเพื่อนร่วมพรรคประเมินไว้ล่วงหน้าแล้ว หากต้องมีการสะดุดหกล้มเพราะการขวางของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่ประเมินได้ว่าไม่ได้เป็นไปตาม MOA เราก็พร้อมใช้เสียง สส. ตรวจสอบรัฐบาลทันที ทุกอย่างอาจไม่ได้ระบุในลายลักษณ์อักษรทั้งหมด แต่เป็นสิ่งที่วิญญูชนสามารถรับรู้ได้ร่วมกัน จึงอยากให้ทุกพรรคการเมืองแสดงความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ขณะที่จุดยืนในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น นายณัฐพงษ์ตอบถึงกรณีที่ได้ย้ำจุดยืนในการสัมภาษณ์กับนิตยสาร TIME โดยระบุว่า ยืนยันจุดยืนในหลักการตามเดิมว่า ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามกรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น

ส่วนที่ระบุว่า จะแก้ไขมาตรา 112 ถ้าพรรคมีอำนาจแล้วจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อุบัติเหตุทางการเมืองถ้าหมายถึงกระบวนการนิติสงคราม คงไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ แต่โดยหลักการและจุดยืน เชื่อว่าสิ่งที่เราสะท้อนออกไปคือ กฎหมายฉบับนี้ยังมีปัญหาบางประการจริงๆ แต่จะสามารถรวมเสียงให้เกิดการผลักดันในสภาฯ ได้หรือไม่ อาจจะเป็นจุดยืนร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล หรือจุดยืนของแต่ละพรรค ซึ่งเชื่อว่าการเมืองในอนาคตยังมีทางออก และขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชนที่จะมอบให้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

สำหรับข้อวิจารณ์ว่า ท่าทีของพรรคประชาชนที่เดินตามกรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นการลดทอนอำนาจการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ ตอบว่า เป็นสาเหตุที่เราเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และตัดสินใจโหวตให้นายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญนอกจากการยุบสภาภายใน 4 เดือน คือการเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราต้องการวางบทบาท อำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระให้เป็นไปตามหลักสากล และยุติกระบวนการนิติสงคราม


กำลังโหลดความคิดเห็น