สธค. จับมือพันธมิตร ปลูกต้นไม้กว่า 200 ต้นหนุนเศรษฐกิจชุมชน–เพิ่มพื้นที่สีเขียว ฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรม สร้างรายได้-คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนเป้าหมาย SDGs และรับมือวิกฤตภูมิอากาศ
วันนี้(12ก.ย.) นายประสงค์ พันลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) กล่าวว่า สธค.ดำเนินภารกิจควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยได้ให้ความสำคัญในการดูแลและคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งในภาคเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570) สามารถพัฒนาชุมชนภายใต้กรอบการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นหลักการและแนวทางการดำรงอยู่ให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ส่งผลให้สมาชิกในชุมชนมีประโยชน์สุขอย่างยั่งยืน ด้วยปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ถูกใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนานและรุนแรง ทำให้เกิดภาวะเสื่อมโทรม ทั้งจากการบุกรุกแผ่วถางเพื่อทำเกษตรการเผาป่าเพื่อเก็บหาของป่าและล่าสัตว์ป่าใช้ที่ดินไม่เหมาะสมตามสมรรถนะของที่ดินป่าไม้ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารและแหล่งทรัพยากรต่าง ๆ เมื่อเสื่อมสภาพทำให้เกิดภาวะฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดน้ำแล้งในฤดูร้อน น้ำหลาก น้ำท่วมในฤดูฝน สภาพวะอุณหภูมิโลกสูงขึ้น “จำเป็นต้องมีการปลูกทดแทน ฟื้นฟูให้สภาพป่าไม้กลับสู่สภาพสมบูรณ์” เพื่อเป็นแหล่งพื้นที่ป่าใช้ประโยชน์เป็นแหล่งอาหารและสามารถเพิ่มช่องทางการหารายได้ให้แก่ชุมชน รวมถึงการพัฒนางานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากร ป่าไม้ สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนรวมพลังร่วมใจปลูกต้นไม้ และปลูกป่า ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้มีความอุดมสมบูรณ์ช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดฝุ่นและหมอกควันอีกทั้งลดภาวะ โลกร้อน ดังนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา สธค. จึงได้จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ณ วัดเลาเต่า ตำบลห้วยพระ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม โดยมีนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธาน พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สังกัดส่วนราชการระดับกรม รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชน กระทรวง พม. คณะผู้บริหาร ข้าราชการ ในจังหวัดนครปฐม รวมทั้ง พันธมิตร ภาคีเครือข่าย และสมาชิกชุมชน เข้าร่วมกิจกรรม รวมจำนวน 300 คน ปลูกต้นไม้ รวมจำนวน 200 ต้น
" สธค.จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ภายใต้โครงการ “โครงการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชนปลูกป่าอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวร่วมกับพันธมิตร” มีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนชุมชนดำเนินกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพิ่มพื้นที่สีเขียวใช้ประโยชน์จากไม้ที่ปลูกสร้างรายได้ให้ชุมชน และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ ตลอดจน สร้างพลังบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. พันธมิตร ภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของสำนักงานธนานุเคราะห์ในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนในพื้นที่ โดยจะมีกำหนดการเปิดสถานธนานุเคราะห์ 48 ให้บริการแก่ประชาชนในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ถนนเพชรเกษม ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉิน บรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแก่ประชาชนทั่วไป"
ด้านนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่า กระทรวง พม. ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานเชิงรุก เพื่อให้ พม. พร้อมรับมือและปรับตัวต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต โดย“พม. มุ่งมั่นดำเนินงานทั้งเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนFlagship มิติที่ 3 “สร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนเปราะบาง” ซึ่งเป็นการต่อยอดแนวคิด 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร ที่เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน เพื่อสร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่กลุ่มเปราะบางในสังคม เป็นการขับเคลื่อนการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาเศรษฐกิจเข้มแข็งของชุมชน และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนทั้งภายในองค์กรและเครือข่ายชุมชน
“สิ่งสำคัญคือการทำงานของ พม. จะต้องไม่เพียงดูแลกลุ่มเปราะบางในสังคมเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามวิกฤตประชากรและวิกฤตภูมิอากาศได้อย่างมั่นคง”
ทั้งนี้ สำนักงานธนานุเคราะห์มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภารกิจการดำเนินงานการจัดกิจกรรม ปลูกต้นไม้ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ภายใต้ “โครงการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชน ปลูกป่าอนุรักษ์พื้น ที่สีเขียวร่วมกับพันธมิตร” เพื่อสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยกิจกรรมครั้งนี้นอกจากจะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคชุมชน และภาคีเครือข่าย ในการร่วมกันสร้างคุณค่าทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคตของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป