xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ชี้วันประชามติหน้าที่นายกฯ ยันเข้าคูหาพร้อมเลือกสส.ไร้ปัญหา เข้มใช้ปมแก้รธน.หาเสียงแฝง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กกต.ชี้ วันทำประชามติแก้รธน.เป็นหน้าที่นายกฯ มั่นใจหย่อนบัตรพร้อมเลือกตั้งส.
ส.ไร้ปัญหา แค่เพิ่มบัตร-ใช้คูหาเดิม จนท.คนเดิม เพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย และขานคะแนน จับตาเข้มผู้สมัครสส. พรรคใช้ปมแก้รธน.หาเสียงแฝง


วันนี้ (11ก.ย.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม ในการจัดทำประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ว่าให้จัดทำประชามติจำนวน 3 ครั้งโดยครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 สามารถจัดทำรวมกันได้ว่า การจัดทำประชามติคงไม่แตกต่างจากการจัดการเลือกตั้งสส.สามารถจัดทำไปพร้อมกันได้ แต่ต้องรอให้มีกฎหมายให้มีผลบังคับใช้อีก 1 ฉบับก่อน ขณะเดียวกันตอนนี้ ทางกกต.ได้ร่างระเบียบอีกฉบับหนึ่งไว้รองรับแล้ว คือการกำหนดให้สามารถจัดทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งสส.ได้ ทั้งนี้ยืนยันว่ากกต.มีความพร้อมไม่ว่าจะเป็นการประชามติแยก หรือการทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งสส.

เมื่อถามว่าการจัดทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งสส.จะทำให้ค่าใช้จ่าย และบุคลากรเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน นายแสวง กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายไม่น่าจะมีจำนวนมาก แต่จะเพิ่มเฉพาะกิจกรรม แต่บุคคลากร หรือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) และหน่วยเลือกตั้งเป็นหน่วยเดียวกัน โดยการเลือกตั้งสส.ก็คือการออกเสียงประสมติ ซึ่งกกต.ทราบอยู่แล้วว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ส่วนการประชามติก็จะมีเวทีให้แสดงความคิดเห็น ของฝ่ายที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยในประเด็นที่มีการออกเสียงประชามติ หรือทำเอกสารแจกเรื่องประชามติ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเข้ามาแต่คิดว่าไม่น่าจะมาก ส่วนถ้าจัดแยกกันค่าใช้จ่ายในการจัดทำประชามติก็จะพอๆ กับการจัดการเลือกตั้งสส. เพราะต้องให้คน 55 ล้านคนที่มีสิทธิ์ออกมาใช้สิทธิ์ถึง 2 ครั้ง แต่หาก แต่หากจัดรวมก็ออกมาใช้สิทธิ์เพียงครั้งเดียว ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มเฉพาะกิจกรรมที่มีความแตกต่างกันแค่นั้นเอง

นายแสวง กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องบัตรที่ใช้ในการออกเสียงและบัตรที่ใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งกกต.มีความคุ้นเคยกับการเลือกตั้ง 2 แบบอยู่แล้ว คือการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ก็ใช้บัตร 2 ใบเหมือนกัน ดังนั้นตรงนี้เราก็แค่เพิ่มบัตรสำหรับการทำประชามติขึ้นมา 1 ใบ แล้วบริหารจัดการนับให้มีประสิทธิภาพ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนจะจัดการประชามติครั้งที่หนึ่งกับครั้งที่ 2 รวมกันหรือไม่นั้นอยู่ที่ครม.เป็นผู้พิจารณา กกต. มีหน้าที่จัดการออกเสียงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายแสวง กล่าวต่อว่า สำหรับวันออกเสียงประชามติจะจัดขึ้นเมื่อไหร่นั้น นั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กำหนดโดยต้องมาหารือกับทางกกต.ตามมาตรา 9 ซึ่งถ้าเป็นไปตามที่ฝ่ายการเมืองให้สัญญาประชาคมไว้ก็มีแค่นี้เอง ส่วนรูปแบบบริหารจัดการ จะยึดเอาความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก ซึ่ง ที่สำนักงานกกต. คิดกันเอาไว้ก็คือใช้หน่วยเลือกตั้งเดียวกัน คูหาเดียวกัน เพราะเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคนเดียวกัน แค่ใช้บัตรคนละใบเพื่อป้องกันความสับสนในการขานคะแนน เพราะในการเลือกตั้งท้องถิ่น การเลือกนายกและสมาชิกอบจ หรือเทศบาลก็แยกคนละบัตรอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะใช้เวลามาก ส่วนปัญหา การดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งของเจ้าหน้าที่ในครั้งที่ผ่านๆ มายืนยันว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเป็นอย่างดี

เมื่อถามว่าเท่าที่มีการติดตามได้วางไทม์ไลน์ ไว้แล้วหรือยังว่า หลัง 4 เดือนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ นายแสวง กล่าวว่า เราต้องดูว่าทางครม.จะมีการนับหนึ่งเมื่อไหร่ แล้วเป็นไปเช่นนั้นหรือไม่ ส่วนกกต.ต้องตื่นตัวทุกวันอยู่แล้วและเรามีตารางไว้อยู่แล้ว เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นเช่นสมมุติมีการยุบสภาเราก็เอาตารางของเราไปเทียบ ซึ่งการเลือกตั้ง ก็มีกิจกรรมที่ต้องดำเนินการตามกำหนดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งกกต.จะต้องนำตารางการจัดการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ มาเทียบกัน แล้วจะทำเป็นตารางเวลา เพราะการทำประชามติก็ต้องมีเวลาให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นรูปแบบของการทำงานตามกฎหมาย อยู่แล้วเหมือน สส.ลาออกเราจะรู้ทันที

เมื่อถามว่า เราต้องให้ความรู้เรื่องประชามติมากกว่าการเลือกตั้งหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องเลือกตั้งก็มีกรอบเวลา ส่วนประชามติก็มีกรอบเวลาเหมือนกัน แต่ทั้งนี้การเลือกตั้งกับการไปลงประชามติเราต้องคุมกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ ในเวลานั้น และต้องระมัดระวัง ต้องซักซ้อมทำความเข้าใจในช่วงนั้น

เมื่อถามย้ำว่ากกต.มั่นใจว่าจะสร้างความเข้าใจในการทำประชามติในเวลาอันสั้นนี้ นายแสวง กล่าวว่า เราแค่อธิบายในขั้นตอน ส่วนจะออกมาดีหรือไม่อยู่ที่เจ้าของเรื่องคือรัฐบาล

เมื่อถามอีกว่า มีฝ่ายที่เห็นด้วยกับการร่างรัฐธรรมนูญ และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยแล้วมันมีการครอบด้วยการเลือกตั้งในการออกไปหาเสียง นายแสวง กล่าวว่า มันมีวิธีการดูอยู่แล้ว และเราก็ดูได้ง่าย แต่คนปฏิบัติต้องแยกให้ออก เพราะผลร้ายมันจะเกิดกับผู้ปฏิบัติ ดังนั้นเราต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับเขาด้วย

เมื่อถามว่าหากกระบวนการในการทำประชามติแล้วเกิดการยุบสภา กกต.ก็ยังคงเดินหน้าไปต่อใช่หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ประชามติไม่ได้หยุด เพราะเป็นไปตามพ.ร.บ.ประชามติ อย่างทั้งคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ กับกลุ่มคนเลือกตั้งเป็นกลุ่มคนใกล้ๆก็จะทำให้เกิดการข้ามไปข้ามมา เหมือนที่ว่าประเด็นประชามติสามารถหาเสียงได้ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น