“ภูมิธรรม” ล้อมวงกินข้าวสื่อทำเนียบฯ เสียดายจากกันเร็ว อารมณ์ดีบอกพร้อมทำงานต่อ แต่รักษาการนายกฯ 2 เดือน ทำน้ำหนักลดฮวบ
เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ได้เดินลงจากห้องประชุมครม.ตึกบัญชาการ 1 เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ร่วมกับสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล เป็นการขอบคุณที่ทำงานรวมกันตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา โดยเลี้ยงเมนู ข้าวหมูแดงหมูกรอบ, ข้าวมันไก่ทอด, ข้าวหน้าเป็ด,พิซซ่า เครื่องดื่มและไอศครีม ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนสียิ้มแย้มแจ่มใส ท่าทีผ่อนคลาย และพูดคุยกับสื่ออารมณ์ดี
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กำลังฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ขณะที่ความเป็นรัฐมนตรีของพวกเรากำลังจะสิ้นสุดลง เมื่อครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ ช่วงเวลานี้ต้องเคลียร์งานทั้งหมด เพื่อให้ ครม. ชุดใหม่มาดำเนินการต่อ
วันนี้ตั้งใจที่จะมารับประทานอาหารกับสื่อมวลชนที่ทำงานร่วมกันมาตลอด มีรักกันบ้าง กระทบกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่คิดว่าไม่เป็นปัญหา เป็นธรรมชาติของการทำงานร่วมกัน ตนรู้สึกเสียดายที่อาจจะเร็วไปนิดนึงที่จะต้องจากกันไป แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเราก็เริ่มที่จะจัดของ เพราะนายกฯจัดตั้งรัฐบาลใกล้เสร็จแล้ว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของนักการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล เรามีหน้าที่ เมื่อเรามีปัญหาเรื่องการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ส่วนรัฐมนตรีที่ยังเป็น สส. ก็กลับไปทำหน้าที่ และตน ไม่ได้เป็น สส.ก็กลับไปทำงานกับพรรค เมื่อได้พูดคุยกันทั้งหมดแล้ว พวกเราพร้อมที่จะทำพรรคต่อไป โดยยังยึดมั่นในอุดมการณ์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยังมีต้นทุนอยู่ อย่างน้อยประชาชน 10ล้านคน ก็ยังรัก และผูกพัน เราจึงมีหน้าที่ที่จะต้องทำงานต่อไป และคนในพรรคเพื่อไทยอย่างเข้มแข็ง พร้อมที่จะสู้ ส่วนใครจะทำอะไรต่อไปก็ถือว่า เป็นเอกสิทธิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม พูดคุยกับสื่อโดยเล่าว่า ตั้งแต่มารับตำแหน่งรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี น้ำหนักลดลงไปกว่า 10 กว่าโล จาก 90 กว่ากิโลกรัม เหลือ 76 กิโลกรัม เพราะกินข้าวได้น้อย ไม่เกี่ยวกับตรอมใจ พร้อมกล่าวติดตลกว่า หัวใจจริง ๆ คืออยากหล่อ เพราะใส่สูทแล้วคับไปหมด และจากนี้ก็คงมีเวลาออกกำลังกายมากขึ้น