วันนี้ (6 ก.ย.) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดเลย และตรวจความคืบหน้าโครงการชลประทาน โดยรับฟังรายงานสถานการณ์และการช่วยเหลือ รวมถึงพบปะเกษตรกร รับฟังปัญหา และมอบปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร ณ เทศบาลตำบลนาอ้อ อ.เมือง จ.เลย
นายอรรถกร กล่าวว่า จังหวัดเลยมีแหล่งน้ำสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำเลย แม่น้ำพอง และห้วยน้ำหมาน ฤดูฝนมีปริมาณน้ำมาก แต่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง กรมชลประทานจึงเร่งรัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่ ทั้งโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 59,100 ไร่ รวมถึงผลักดันโครงการก่อสร้างฝายยางบ้านท่ามะนาว ต.นาอ้อ มีแผนก่อสร้าง 3 ปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการกักเก็บและส่งน้ำ เพื่อการเกษตรฤดูฝน 2,500 ไร่ และฤดูแล้ง 1,700 ไร่
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งพิจารณาโครงการก่อสร้างฝายยางบ้านปากหมาก ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่กว่า 2,000 ไร่ได้รับประโยชน์ และเสนอแผนบรรจุในงบประมาณปี 2570 รวมถึงปรับปรุงประตูระบายน้ำศรีสองรัก เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง
นายอรรถกร เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุหนองฟ้า ทำให้จังหวัดเลยประสบปัญหาน้ำท่วมและเกิดความเสียหายต่อการเกษตรใน 7 อำเภอ 35 ตำบล 78 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบ 1,692 ครัวเรือน เบื้องต้นได้รับรายงานความเสียหายด้านพืช เกษตรกร 1,781 ราย คาดว่าพื้นที่เสียหายกว่า 6,859 ไร่ (ข้าว 6,001 ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 326 ไร่ อ้อย 525 ไร่ และปาล์มน้ำมัน 7 ไร่) ด้านประมง เกษตรกร 183 ราย พื้นที่เสียหายรวม 108 ไร่ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม
“ผมได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดเร่งสำรวจความเสียหาย และดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรตามระเบียบอย่างเร่งด่วน รวมทั้งบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นและจังหวัดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรอย่างทั่วถึงและทันเวลา และให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดทำแผนฟื้นฟูและมาตรการป้องกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ”
ทั้งนี้ นายอรรถกรมอบเมล็ดพันธุ์ผัก เมล็ดพันธุ์ปอเทือง เมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง พันธุ์ปลา เมล็ดพันธุ์ข้าว โฉนดเพื่อการเกษตรและโฉนดต้นยางพารา รวมถึงอาหารสัตว์และเวชภัณฑ์สัตว์ เสบียงอาหารสัตว์ 5,000 กิโลกรัม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ประสบภัย