มวลชนกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ปักหลักหน้ารัฐสภา จับตาโหวตนายกฯ คนที่ 32 ด้าน คปท.หวั่นเพื่อไทยกลับมาเป็นแกนนำรัฐบาล ด้าน "จ่าประสิทธิ์" นำคนเสื้อแดงให้กำลังใจฝ่ายประชาธิปไตย
วันนี้ (5 ก.ย. 68) ที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย ได้ปักหลักชุมนุม เพื่อแสดงพลัง และติดตามผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 อย่างใกล้ชิด รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งก็มาร่วมติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มคณะประชาชนปกป้องประเทศไทย (คปท.) ได้ออกมาแสดงจุดยืนร่วมกับกลุ่มภาคประชาชน โดยยืนยันว่า การที่พรรคเพื่อไทยเตรียมกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น ได้สร้างความกังวลต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งและความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งส่วนหนึ่งมีต้นตอมาจากการบริหารงานของพรรคเพื่อไทย รวมถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนพรรค โดยเฉพาะบทบาทของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยังคงถูกมองว่าเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการดำเนินนโยบายของพรรคแม้ไม่ได้ดำรงตำแหน่งโดยตรง
"ประเทศไทยเคยผ่านวิกฤตทางการเมืองมาแล้ว และบทเรียนสำคัญคือ เราไม่ควรปล่อยให้อำนาจกลับไปอยู่ในมือของกลุ่มที่เคยทำให้ประเทศเกือบล่มสลาย" นายพิชิต กล่าว
ด้าน จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต สส.สุรินทร์พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง เปิดเผยว่า วันนี้เรามาให้กำลังใจฝ่ายพรรคเพื่อไทยฝ่ายประชาธิปไตย ยืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยกับการที่พรรคบางพรรคไปสนับสนุนพรรคบางพรรคที่ประวัติไม่ค่อยดีที่ทุกคนรู้ว่าเขามีประวัติความเป็นมาอย่างไร วันนี้พี่น้องเสื้อแดงที่อยู่ใกล้ ๆ ก็พากันมาที่นี่ เพื่อมาเป็นกำลังใจ เพื่อมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่มันเกิดขึ้นให้สังคมได้รับรู้
จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การที่พรรคประชาชน ซึ่งพวกเรามองว่าเป็นพรรคประชาธิปไตยพรรคหนึ่ง และเป็นพรรคที่กำลังเติบโตทางการเมืองอย่างรวดเร็ว แต่มาวันนี้ปรากฏว่าพรรคประชาชนไปให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ทุกคนก็รู้ว่าพรรคภูมิใจไทยตอนนี้มีข่าวในเรื่องของการฮั้ว สว. การยึดพื้นที่หลวง การเอาที่ดินที่เป็นของหลวงมาเป็นรันเวย์สนามบิน โดยเฉพาะคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีต่าง ๆ ที่กำลังมีเรื่องมีราวกันอยู่ตอนนี้
อย่างไรก็ตาม จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า วันนี้พี่น้องชาวเสื้อแดงจึงมาแสดงความเห็น และแสดงพลังในการที่ไม่อยากให้พรรคส้มไปสนับสนุนพรรคสีน้ำเงิน