xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อไทย” กู่ไม่กลับ “ทักษิณ” บินไปตั้งหลักที่สิงคโปร์แล้ว ** ท้า“อนุทิน” กล้าสาบานมั้ย !? 4 ปมฉาวสังคมกังขา เขากระโดง-ฮั้วสว.-ยึดถนนหลวงทำรันเวย์ส่วนตัว- ค่าปรับรัฐสภา!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร - อนุทิน ชาญวีรกูล
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ “เพื่อไทย”กู่ไม่กลับ “ทักษิณ” บินไปตั้งหลักที่สิงคโปร์แล้ว

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พ.ร.ฎ.ยุบสภา ที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯนั้น ถูกสำนักองคมนตรี ตีกลับมา จริง

“ภูมิธรรม” ทั้งโพสต์เฟซบุ๊ก และให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่พยายามดึงดันนำ ร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา ขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป แต่จะ “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย”

ทักษิณ ชินวัตร
โดยพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ” ไปโหวตแข่งกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” พร้อมด้วยเงื่อนไขใหม่ ถ้า “ชัยเกษม” ได้เป็นนายกฯ จะยุบสภาทันที ที่รัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนไปเลือกตั้งกันใหม่ ไม่ต้องรอถึง 4 เดือน
แกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้ง “ภูมิธรรม เวชยชัย-ชูศักดิ์ ศิรินิล-จิราพร สินธุไพร” รวมทั้ง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” หัวหน้าพรรคประชาชาติ ลงทุนเดินทางไปหา “ชัยเกษม” ถึงบ้าน จัดตั้งโต๊ะแถลงข่าว ให้ “ชัยเกษม” ออกมาให้คำมั่นสัญญาว่า ถ้าชนะโหวต ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาทันที

“ชัยเกษม” ซึ่งยอมรับว่าตนเองเหมือน “ตุ๊กตา” จะอาไงก็เอากัน!

ชัยเกษม นิติสิริ
พรรคเพื่อไทย ประเมินว่า เงื่อนไขใหม่นี้จะสร้างความละล้าละลัง ระส่ำระสาย ให้กับพรรคประชาชน เพราะเป็นที่รู้กันว่า ภายในพรรคนี้ก็ยังมีความเห็นที่แตกต่าง หลากหลาย ตามประสานักประชาธิปไตยรุ่นใหม่ ไม่ได้มีเอกภาพมากนัก และก็มีไม่น้อย ที่อยากให้ยุบสภาโดยเร็ว โดยเฉพาะพวก “ส.ส.บัญชีรายชื่อ” ที่ไม่ต้องลงไปแข่งขัน ไปยกมือไหว้ประชาชนในเขตเลือกตั้ง แต่รอลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรี

แต่มุกนี้ของพรรคเพื่อไทย ก็ถูก“แบไต๋”ว่า แค่เป็นการดิ้นรนเพื่อรักษาสถานภาพ “รัฐบาลรักษาการเอาไว้” เท่านั้น

เพราะหลังจากยุบสภา ต้องเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน เลือกเสร็จแล้วมีเวลาให้ กกต.ประกาศรับรองผลอีก 30 วัน จากนั้นก็เข้าขั้นตอนการโหวตนายกฯ อีก 15 วัน รวมเบ็ดเสร็จกว่าจะตั้งรัฐบาล แถลงนโยบายต่อสภา ก็ปาเข้าไป 120-150 วัน โดยประมาณ

ช่วงเวลา 4-5 เดือนนี้ ก็เพียงพอที่จะให้พรรคเพื่อไทย ทำการแต่งตั้งข้าราชการ เตรียมเลือกตั้ง วางโปรเจกต์ใหญ่ แบบมีงบปี 69 ที่เพิ่งผ่านสภา เป็นทุนรอนให้จับจ่ายอีกต่างหาก

ขณะเดียวกัน ก็มีการปล่อยข่าวว่า มีแกนนำพรรคประชาชน พยายามไปลอบบี้ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาฯ ให้เลื่อนวาระการโหวตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (5ก.ย.) ออกไปก่อน

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
ทำเอา “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ต้องออกมาปฏิเสธกลางที่ประชุมสภา ว่าไม่เป็นความจริง ขอให้ประธานฯ ดำเนินการเลือกนายกฯไปตามวาระที่บรรจุไว้แล้ว

“ณัฐพงษ์” ยังออกมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า พรรคไม่ได้มีปัญหาเสียงแตก การโหวตครั้งนี้ต้องเป็นไปตามมติพรรค ไม่มีฟรีโหวต

ส่วนเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยที่ว่า ถ้าโหวตให้ “ชัยเกษม” เป็นนายกฯ จะยุบสภาทันทีนั้น “หัวหน้าเท้ง”บอกว่า ถ้าพูดก่อนหน้านี้ ก็จะรับไว้พิจารณา แต่ตอนนี้พรรคประชาชน บรรลุข้อตกลงกับพรรคภูมิใจไทย ไปเรียบร้อยแล้ว ลงนามไปแล้ว และเราก็ไม่ค่อยเชื่อคำพูด ที่กลับไปกลับมาแบบนี้สักเท่าไร

ชัดเจนว่ามุก ที่เพื่อไทยปล่อยออกมาว่า เลือก“ชัยเกษม” ยุบสภาทันทีนั้น “ไม่เวิร์ก”

ก็ต้องรอดูวันนี้ (5ก.ย.) ว่าจะมีเหตุการณ์อะไร ที่จะมาทำให้การโหวตนายกฯสะดุด หรือ ต้องเลื่อนเวลาออกไปหรือไม่

เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่า “ประธานวันนอร์” เป็นคนของพรรคประชาติ พรรคร่วมรัฐบาลที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับแกนนำระดับสูงในพรรคเพื่อไทย ส่วนรองประธานสภา อีก 2 คน คือ “ไชยา พรหมา” และ “ฉลาด ขามช่วง” ต่างเป็น ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย

วันมูหะมัดนอร์ มะทา
อย่างไรก็ตาม ต้องให้เกียรติว่า ประธานสภา และ รองประธานสภา ต้องวางตัวเป็นกลาง โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมเป็นที่จับจ้องของประชาชนทั้งประเทศ การจะทำอะไรต้องยึดมั่นใน “ คุณธรรม จริยธรรม” เพราะเป็นถึงประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ

และดูเหมือนว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย จะประเมินถึงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ และจะมีผลต่อเนื่องไปถึงคดี “ป่วยทิพย์” ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 9 ก.ย.นี้

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4ก.ย.) จึงมีข่าวว่า “ทักษิณ” ได้ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว ที่จอดไว้กับลานบินเอกชน ย่านดอนเมือง ตอนแรกบอกว่า จะเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง”ทักษิณ”มีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ขณะที่อีกกระแส บอกว่า “ทักษิณ” ขอเดินทางไปพบแพทย์ ที่สิงคโปร์ 2 วัน และจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทาง และสอบถามเหตุผลในการเดินทางแล้ว และอนุญาตให้ “ทักษิณ”เดินทางได้

เหตุที่ “ทักษิณ” สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ เพราะก่อนหน้านี้ ศาลอาญา ได้ตัดสินยกฟ้องทักษิณในคดี ม.112 และอยู่ระหว่างที่อัยการ กำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ขณะที่ทนายความของทักษิณ ได้ไปยื่นเรื่องต่อศาลอาญา ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งห้ามทักษิณเดินทางออกนอกประเทศ และศาลมีคำสั่งถอนคำสั่งห้ามทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
ทั้งนี้ ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว “ทักษิณ” หากไม่มีหมายจับ หรือคำสั่งศาล เพียงแต่ตรวจสอบ และตรวจยึดหนังสือเดินทางไว้ตรวจสอบเท่านั้น เพราะทราบดีว่า “ทักษิณ” คือบุคคลสำคัญและต้องไปศาลในวันที่ 9 ก.ย. แต่ในเมื่อไม่มีหมายจับ-คำสั่งศาล ตม.จึงไม่อาจกักตัว ทักษิณไว้ได้

อีกทั้งในคดี ชั้น14 นั้น ศาลฎีกาฯ เพียงแต่นัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 ก.ย.เท่านั้น ไม่ได้มีการออกข้อกำหนดอะไรไว้ โดยเฉพาะเรื่องห้ามออกนอกประเทศ หาก“ทักษิณ” ไม่เดินทางมาศาล จึงจะพิจารณาออกหมายจับในภายหลัง

ตอนนี้ก็ต้องมาวันใจกันว่า หากวันนี้ สภาโหวต “อนุทิน” เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว “ทักษิณ” ที่บินไปตั้งหลักที่สิงคโปร์ จะกลับมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ หรือไม่

คำถามนี้เดาคำตอบได้ไม่ยาก!!

อนุทิน ชาญวีรกูล
++ ท้า“อนุทิน” กล้าสาบานมั้ย !? 4 ปมฉาวสังคมกังขา เขากระโดง-ฮั้วสว.-ยึดถนนหลวงทำรันเวย์ส่วนตัว- ค่าปรับรัฐสภา!

ก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ วันนี้(5 ก.ย.68 ) “วิลาศ จันทร์พิทักษ์” อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้มีฉายา “มือขุดคุ้ยแห่งสภา” ออกโรงท้า "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แคนดิเดตนายกฯคนที่ 32 ว่า กล้ามั้ย!? ที่จะสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใน 4 เรื่องฉาว ที่สังคมกังขา

งานนี้ไหนๆ “อนุทิน" กำลังเข้าสู่กระบวนการไปสู่ดวงดาว จำเป็นต้องชี้แจงเรื่องคุณสมบัติความ "ซื่อสัตย์สุจริต" เป็นที่ประจักษ์ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด "วิลาศ" เลยขอให้ "เสี่ยหนู" ตอบคำถามใน 4 เรื่องนี้ ต่อสาธารณะหน่อย ได้แก่...
1. เขากระโดง 2. การโกงและการฮั้วเลือกสว. 3.การสร้างรันเวย์ทำสนามบินส่วนตัวทับถนนสาธารณะ และ4.เงินค่าปรับจากการก่อสร้างอาคารรัฐสภา

วิลาศ จันทร์พิทักษ์
ในสภาฯ “อนุทิน” กล้าสาบานต่อพระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช และศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อันเป็นที่เคารพของประชาชนชาวไทย หรือไม่ ว่าจะให้การในสิ่งที่เป็นความจริง และหากให้การที่เป็นเท็จ...ขอให้มีอันเป็นไป และพรรคภูมิใจไทยต้องยืนยันให้ชัดว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือกสว. ปี 2567

นี่เป็นความเคลื่อนไหวเล็กๆ ของ "วิลาศ" ที่น่าสนใจ ซึ่งในเวลาหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การสร้างรัฐสภาใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการยักษ์นี้ ตกอยู่ในมือของ “บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งฯ” ที่เป็นของตระกูล “ชาญวีรกูล” งานก่อสร้างล่าช้าเกินกำหนดหลายปี

แต่ค่าปรับเต็มเม็ดเต็มหน่วยของรัฐ กลับไม่มีใครสนใจใยดี กระทั่ง "วิลาศ" ลุยตรวจสอบ ต่อสู้เรื่องนี้มายาวนานต่อเนื่อง

“วิลาศ” คือคนที่ผ่านสมรภูมิการเมือง ด้วยบทบาทนักตรวจสอบ เคยลากคดีทุจริตก่อสร้างโครงการรัฐหลายครั้งมาแล้ว และครั้งนี้เจ้าตัวเหมือนรอจังหวะออกมาเคลื่อนไหวทวงถาม "เสี่ยหนู" ก่อนที่ก้าวขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรี กุมอำนาจฝ่ายบริหาร
คำถามคือ... “อนุทิน” จะเลือกทำตามคำท้าของ "วิลาศ" สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้สังคมหายข้องใจ หรือ จะเลี่ยงไปด้วยคำพูดหล่อๆ หรือพลิ้วลื่นไหลตามสไตล์ !?


กำลังโหลดความคิดเห็น