“โรม” ห่วงปมชายแดนสระแก้ว–กัมพูชา ย้ำต้องระวังทุกก้าว เพราะเกี่ยวโยงอธิปไตยไทย เตือนแผนสร้างรั้วชายแดน 16 กม. หากพื้นที่ไม่ชัด อาจบานปลายกลายเป็นปัญหาทับซ้อนใหม่ ชี้รั้วอย่างเดียวแก้ไม่ได้ ต้องเสริมกำลัง เทคโนโลยี และงบประมาณ จึงจะหยุดการรุกล้ำได้จริง
วันนี้ (4 ก.ย. 2568) ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร จัดประชุมถอดบทเรียนเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา และศึกษาการใช้เทคโนโลยีเสริมสร้างความมั่นคง โดยมีผู้แทนหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าร่วม อาทิ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ส่ง พลตรีณัฐ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมแทน
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ.ฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อทบทวนความพร้อมของไทยต่อสถานการณ์ไม่คาดฝันหลังเกิดเหตุปะทะที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่าการจัดการพื้นที่ชายแดนยังมีจุดอ่อน เช่น การขาดบังเกอร์และโครงสร้างป้องกันที่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเป็นระบบ แม้ในยามที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตาม
นายรังสิมันต์ระบุว่า การจัดหากำลังรบและอาวุธยุทโธปกรณ์ต้องทำอย่างรอบคอบ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ใช่เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประเทศและความเข้ากันได้ของระบบอาวุธ จึงเชิญผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 มาชี้แจงเพื่อสะท้อนข้อมูลจากผู้ปฏิบัติจริง
ในส่วนของกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเตรียมดำเนินคดีกับชาวกัมพูชาที่รุกพื้นที่ นายรังสิมันต์กล่าวว่าเพิ่งทราบจากข่าว และจะติดตามประเมินผลกระทบ เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับดุลอำนาจอธิปไตยและความสัมพันธ์กับกัมพูชา ซึ่งอาจมีผลสะเทือนตามมา
สำหรับแนวคิดสร้างรั้วชายแดนระยะทาง 16 กิโลเมตร นายรังสิมันต์ย้ำว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างอย่างชัดเจน หากเป็นเขตทับซ้อนอาจทำให้สถานการณ์บานปลาย เพราะถูกตีความว่าไทยยอมรับการเสียพื้นที่ อีกทั้งประสบการณ์ในหลายพื้นที่แสดงให้เห็นว่า รั้วเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาลักลอบข้ามแดนหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้
นายรังสิมันต์กล่าวว่า สิ่งจำเป็นคือการเสริมมาตรการเทคโนโลยี เช่น กล้องวงจรปิด ระบบลาดตระเวน และกำลังเจ้าหน้าที่ รวมถึงงบประมาณที่เพียงพอ มิฉะนั้นจะไม่สามารถแก้ปัญหาการรุกล้ำชายแดนได้ทั้งหมด พร้อมฝากสื่อมวลชนช่วยสื่อสารประเด็นนี้อย่างถูกต้อง ไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าการสร้างรั้วจะเป็นคำตอบเดียว