xs
xsm
sm
md
lg

ทช.จับมือ SCG แข่งออกแบบฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังด้วย 3D Printing มั่นใจช่วยอนุรักษ์ฟื้นฟูแนวปะการังใต้ทะเลไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมทะเล ร่วมกับ SCG แข่งออกแบบฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ด้วย 3D Printing 6 สถาบันการศึกษาร่วม "ปิ่นสักก์" หวังใช้ต่อยอดพัฒนาระบบโครงสร้างปะการังเทียมให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมปะการังใต้ท้องทะเลไทย

วันนี้(3ก.ย) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จับมือกับบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG จัดกิจกรรม “ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025 by 3D Printing Tech” การแข่งขันออกแบบฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังด้วยเทคโนโลยี 3D Printing เพื่อเปิดเวทีให้ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบแนวคิด นวัตกรรม เทคนิคหรือรูปแบบใหม่ของฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย และสามารถตอบสนองต่อปัญหาความเสื่อมโทรมของแนวปะการังได้อย่างมีประสิทธิภาพ


กิจกรรมครั้งนี้มีทีมที่เข้าร่วมและนำเสนอผลงานทั้งหมด 6 ทีม ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Thai Ocean Academy Pattaya และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผลการแข่งขัน ผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้รับรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตร รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับรางวัล 20,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร รางวัลการชมเชย จำนวน 4 ทีม ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Thai Ocean Academy Pattaya และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับรางวัลทีมละ 10,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร และรางวัลขวัญใจมหาชน ได้แก่ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้รับรางวัล 20,000 บาท ซึ่งแนวคิดที่ชนะเลิศจะถูกนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นแนวทางการดำเนินงานในระดับชาติ พร้อมทั้งเป็นต้นแบบสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรปะการังที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้การอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการังสามารถดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของปัญหาในปัจจุบันและอนาคต


ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ว่า กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแข่งขัน แต่ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ ตลอดจนการสร้างความร่วมมือ เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการฟื้นฟูปะการังของประเทศไทยให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมือจาก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ของประเทศไทย ในการสร้างนวัตกรรมฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังด้วยเทคนิค 3D printing และองค์ความรู้ จากภาคการศึกษาที่มีผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนแนวทาง เทคนิคในการฟื้นฟูทรัพยากรปะการังของประเทศไทย ซึ่งกรมฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านได้ให้ความสนใจและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันฟื้นฟู คืนความสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยให้คงอยู่ และมีใช้อย่างยั่งยืน และต้องขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่ได้รับรางวัล โดยกรมฯ และ SCG จะนำผลงานดังกล่าวไปต่อยอดการพัฒนาระบบโครงสร้างปะการังเทียมด้วย 3D Printing ให้เกิดประสิทธิภาพเหมาะกับสภาพแวดล้อมปะการังใต้ท้องทะเลต่อไป


ด้านคุณเฉลิมวุฒิ สงวนญาติ Concrete and Construction Technology Director หน่วยงาน Innovation and Technology ธุรกิจ SCG Cement and Green Solutions กล่าวว่า SCG มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี 3D Printing และปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการลงเกาะของตัวอ่อนและมีความทนทานต่อสภาพใต้ท้องทะเลใกล้เคียงกับธรรมชาติ พร้อมสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้เกิดการบูรณาการทรัพยากร ทั้งในด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยี สามารถขยายผลในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูปะการังได้อย่างแท้จริง และยังสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการดูแลทรัพยากรของชาติอีกด้วย


ทั้งนี้แนวปะการังของประเทศไทย มีความสำคัญทั้งในด้านระบบนิเวศ คือ เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในทะเลหลากหลายชนิด และในด้านเศรษฐกิจและสังคม คือ เป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างอาชีพให้กับประชาชนทั้งทางตรง และทางอ้อม กิจกรรม “ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025” จึงไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจ แต่เป็นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยฟื้นฟูท้องทะเลไทยให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และคนรุ่นใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์สู่อนาคตที่ยั่งยืน




กำลังโหลดความคิดเห็น