วันนี้(1 ก.ย.)นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนเกษตรกร เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (123) เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตและตลาดไข่ไก่ รวมถึงการดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ ตลอดจนเพื่อพิจารณาการปรับแผนการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ ปี 2568 และแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสร้างความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ในอนาคตต่อไป
นายอรรถกร เปิดเผยว่า จากรายงานสถานการณ์การผลิตและการตลาดไข่ไก่โดยกรมปศุสัตว์ พบว่า ปัจจุบันมีจำนวนไก่ไข่ยืนกรง จำนวน 53.84 ล้านตัว ประมาณการผลผลิต 44.68 ล้านฟองต่อวัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 68) ในขณะที่ราคาไข่ไก่ ณ วันที่ 28 ส.ค. 68 มีราคาเฉลี่ยฟองละ 3.60 บาท และมีปริมาณการส่งออกไข่ไก่สดช่วงมกราคม-กรกฎาคม 2568 จำนวน 304.63 ล้านฟอง คิดเป็นมูลค่า 1,087.94 ล้านบาท โดยมีประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ สิงค์โปร์ 78% ฮ่องกง 9% ญี่ปุ่น 8% สหรัฐเอมิเรตส์ 3% และประเทศอื่น ๆ 2% ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามสถานการณ์ราคา และมีการวางแผนแนวทางในการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรทั้งในเรื่องต้นทุนการผลิต และปัจจัยอื่น ๆ อย่างครอบคลุมและรอบคอบอีกด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาการปรับแผนการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ปี 2568 ของผู้ประกอบการนำเข้าไก่ไข่พันธุ์ (PS) จำนวน 3 ราย ให้มีการนำเข้าไก่ไข่พันธุ์ที่ไม่สามารถนำเข้าได้ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัยจากสถานการณ์โรคระบาด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ และผลการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ อีกทั้ง มีมติเห็นชอบ (ร่าง) โครงการ “กินไข่ทุกวัน สุขภาพดีทุกวัย” เพื่อกระตุ้นการรับรู้ถึงคุณประโยชน์ของไข่ไก่และเพิ่มปริมาณการบริโภคไข่ให้มากขึ้น โดยเตรียมบูรณาการการขับเคลื่อนโครงการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
“วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คือการติดตามผลการดำเนินงาน และแลกเปลี่ยนแนวคิดในการขับเคลื่อนนโยบายการบริหารจัดการไข่ไก่และพันธุ์ไก่ ระหว่างหน่วยงานและผู้แทนเกษตรกร เพื่อการดำเนินงานในทิศทางเดียวกันและสามารถไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์และศึกษา ทบทวนแผนการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่อยู่อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกร ขณะเดียวกันได้มอบหมายกรมปศุสัตว์ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ ให้ดำเนินการตามแนวทางการขอนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) ของผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการที่จะขอนำเข้าต้องมีแผนการผลิตและแผนการตลาดที่ชัดเจน โดยเสนอข้อมูลรายละเอียดผ่านคณะอนุกรรมการฯ ตามขั้นตอนเพื่อให้คณะกรรมการเอ้กบอร์ดพิจารณา และเพื่อการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้มีส่วนร่วมในการกระจายพันธุ์ไก่ไข่ให้แก่เกษตรกรอย่างทั่วถึง แต่อย่างไรก็ตามต้องไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ที่ดำเนินการอยู่และผู้ประกอบการนำเข้ารายเก่าด้วย” นายอรรถกร กล่าว