xs
xsm
sm
md
lg

ดีลพิสดาร ระวังยุบสภาไปตายเอาหน้า!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภูมิธรรม เวชยชัย - ชัยเกษม นิติสิริ - อนุทิน ชาญวีรกูล
เมืองไทย 360 องศา

หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทำให้ทั้งตัวเธอและคณะรัฐมนตรีต้องพ้นสภาพความเป็นรัฐมนตรีไปพร้อมกันทั้งหมด จากนั้นก็เริ่มฝุ่นตลบทันที โดยมีการเจรจาของบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อหากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และรัฐบาลชุดใหม่ โดยเวลานี้มีคู่ชิงกันสองคนคือ นายชัยเษม นิติสิริ แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย และมีพรรคประชาชน เป็นตัวแปรสำคัญ นั่นคือ หากพรรคนี้เทไปทางไหน ฝ่ายนั้นก็ชนะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32

ที่ผ่านมาหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็มีการจับขั้วใหม่ นั่นคือ พรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ได้เดินเกมเร็วเร่งเจรจากับพรรคประชาชน และรับเงื่อนไข 3-4 ข้อกลับมา พร้อมทั้งรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองอื่น ทั้งจากพรรคฝ่ายค้าน และจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เช่น พรรคพลังประชารัฐ พรรคกล้าธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ บางกลุ่ม พรรคประชาธิปัตย์บางกลุ่ม รวมไปถึงบรรดาพรรคเล็กๆ

ขณะที่ขั้วพรรคเพื่อไทย ก็ยังยืนยันที่จะจัดตั้งรัฐบาล โดยสนับสนุน นายชัยเกษม นิติสิริ และมี พรรคร่วมรัฐบาลเดิมให้การสนับสนุน เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติบางส่วน ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา ประชาชาติ และพรรคเล็ก อย่างไรก็ดีเมื่อตอนบ่ายวันที่ 31 สิงหาคม แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้เข้าเจรจากับพรรคประชาชน และแสดงท่าทียอมรับทุกข้อเสนอของพรรคประชาชน และยังแถมให้อีกว่าอาจจะยุบสภาเร็วกว่า 4 เดือนก็ได้

เวลา 15.05 น. ที่ทำการพรรคประชาชน นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังนำแกนนำร่วมพรรครัฐบาลหารือกับพรรคประชาชนในการขอเสียงสนับสนุนนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย

โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ในนามพรรคร่วมรัฐบาล ได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการติดต่อพูดคุยการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคร่วมได้ปรึกษาหารือกันหมดแล้วและมาสรุปในสิ่งที่เราได้นำเสนอ และตัวแทนที่มามีทั้งพรรคประชาชาติ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ป่วย ติดการผ่าตัด และถ้ามีข้อสงสัย สามารถวิดีโอซูมเข้ามาได้ เราก็พร้อมดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ข้อเสนอเราก็เป็นเอกภาพตามที่เสนอ เราเห็นว่าการเมืองช่วงนี้วิกฤต ควรหาทางออกร่วมกัน เราคุยกันแล้ว เพราะฉะนั้นพรรครัฐบาลจึงได้มาพูดคุยกับพรรคประชาชน เนื่องจากพรรคประชาชนถือว่ามีข้อเสนอที่สำคัญของพรรคที่อยากเสนอ หากใครรับได้ก็จะพิจารณานำมาตัดสินใจได้เป็นคณะรัฐมนตรี

“วันนี้พรรคร่วมได้มานำเสนอ และพูดคุยกัน หัวใจสำคัญคือข้อเสนอพรรคประชาชนเรารับหมด และพร้อมให้เป็นไปตามนั้น พร้อมปฏิบัติไปตามนั้น ส่วนข้อเสนอของเรา ก็ให้พรรคประชาชนได้รับทราบ และคุยกันแล้วว่าหลายเรื่องที่เราเสนอควรปฏิบัติในเรื่องกระบวนการยุติธรรม เพราะสิ่งที่เรานำเสนอคือไม่เข้าไปยุ่งในกระบวนการยุติธรรม คดีต่าง ๆ ทุกคดี ก็ขอให้ดำเนินการทั้งหมด และรายละเอียดทางพรรคประชาชนก็จะนำไปพิจารณา และยังไม่ได้รับปากหรือตัดสินใจที่จะยกมือให้ใครเลย ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ และองคาพยพของพรรคมีหลายส่วน และต้องหารือหลายส่วนให้มากที่สุด เราก็ยอมรับเงื่อนไขนี้ได้” นายภูมิธรรม ระบุ

นายภูมิธรรม ระบุว่า ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 1 ก.ย. จะมีการประชุม ซึ่งเป็นกระบวนการภายในของพรรคประชาชนเอง สิ่งที่อยากเรียนวันนี้ คือเราได้เสนอพูดคุยกัน เห็นว่าสาระสำคัญคือแก้ไขวิกฤติเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องกติกา ที่อยากรีเซ็ตการเมืองใหม่ ให้มีการเมืองที่สามารถมีประสิทธิภาพได้มากกว่านี้ เรื่องอื่น ๆ ยังเป็นกระบวนการในรายละเอียดที่จะขอยังไม่พูดอะไร และเป็นเรื่องที่เราเคยพูดกันทั้งสองฝ่าย

ส่วนข้อเสนอที่พรรคเพื่อไทยเสนอเพิ่มไปนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองอธิบายไปแล้ว ว่าข้อเสนอ ไม่ได้เป็นปัญหาต่อข้อสรุป และเรายอมรับทั้งหมด ไม่ได้ขัดกัน แต่ข้อเสนอเรา ข้อเสนอก็ขอให้พิจารณาเท่านั้นเอง ถ้าจะทำหรือไม่ทำ ไม่มีผลต่อการที่จะร่วมกันในการสนับสนุนการตั้งรัฐบาล และ นายภูมิธรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า เรายินดีพร้อมยุบสภา ภายในไม่เกิน 4 เดือน หากต่ำกว่า 4 เดือนที่เขาเสนอ เร็วกว่านั้นเราก็ทำได้

สำหรับเงื่อนไขสามสี่อย่าง ของพรรคประชาชน หลักๆ ก็ต้องการให้มีการยุบสภาภายใน 4 เดือน มีการทำประชามติเพื่อให้มี ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการสนับสนุนนายกฯคนใหม่พรรคประชาชน จะไม่เข้าร่วมรัฐบาล ไม่เป็นรัฐมนตรี

แม้ว่านาทีนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่า พรรคประชาชน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่สุดในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และรัฐบาลใหม่ จะสนับสนุนใครในสองขั้วดังกล่าว โดยจะมีการนัดประชุมและลงมติกันในวันจันทร์ที่ 1 กันยายน จากนั้น คาดว่าจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี กันในวันพุธที่ 3 กันยายน หรืออย่างช้า ไม่เกินวันศุกร์ที่ 5 กันยายน เนื่องจากเลขาธิการสภาผู้แทนได้นัดประชุมสภานัดพิเศษในวันดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาถึงความเป็นไปได้นั้น ตอนนี้มีความ “โน้มเอียง” ไปทางสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มากกว่า นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย หากพิจารณาจากปฏิกิริยาจากผู้สนับสนุนพรรคจากภายนอก และหากพิจารณาจาก “เสียงต้าน” จะเห็นว่ามีการขัดขวางไม่ให้พรรคประชาชน ร่วมกับเพื่อไทยมากกว่า โดยเหตุการณ์ที่ระบุถึงการ “หักหลัง” จากครั้งที่แล้ว แม้ว่าจะมีความพยายามเสนอ “ไม่ให้โหวตใคร” ก็ตาม ซึ่งแนวทางแบบนี้น่าจะยากในทางปฏิบัติ

ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งแม้ว่า ณ นาทีนี้ดูเหมือนว่า แนวโน้มที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาชน มากกว่า นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องรอมติพรรคประชาชนในวันจันทร์ที่ 1 กันยายน ก่อนก็ตาม

ทั้งนี้ ลักษณะก็จะออกมาในลักษณะ “รัฐบาลเฉพาะกิจ” เพื่อรอยุบสภา เลือกตั้งใหม่ เพียงแต่ว่า เกมนี้ พรรคภูมิใจไทย กับประชาชน จะได้ประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะภูมิใจไทย น่าจะได้มากกว่า เนื่องจากได้เป็นรัฐบาล มีอำนาจสูงสุดในฐานะนายกรัฐมนตรี โยกย้ายข้าราชการเพื่อรองรับการเลือกตั้งได้ ขณะที่พรรคประชาชน แม้ว่าจะได้ประโยชน์ แต่เอาเข้าจริงเหตุการณ์ข้างหน้า ก็ยังไม่ชัวร์ โดยเฉพาะในเรื่องการทำประชามติเรื่องการตั้ง ส.ส.ร. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ หนทางอีกยาวไกล และยังมีปัญหาถกเถียงกันในเรื่องข้อกฎหมาย แต่ถึงอย่างไร พรรคประชาชน ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว มากกว่าจะเลือกหนุนพรรคเพื่อไทย หรือไม่หนุนใคร เพราะหากเลือกอย่างหลังจะทำให้เกิดทางตัน รัฐบาลเพื่อไทยรักษาการยาวแบบไม่มีกำหนด

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องจับตากันก็คือ “ยุบสภา” ที่อาจเกิดขึ้นอย่างกระทันหันจากพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาลในขณะนี้ ลักษณะไม่ต่างจาก “ป่วน” โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ใช้วิธี “ยุบสภา” แบบไปตายเอาดาบหน้า เป้าหมายก็เพื่อสกัดฝ่ายตรงข้าม คือไม่ให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะมีเสียงท้วงติงออกมารอบทิศว่าเขา “ไม่มีอำนาจยุบสภา” แต่เมื่อฟังจากท่าทีล่าสุดของ นายภูมิธรรม แล้วจะเห็นว่าเป็นไปได้สูง ที่จะเลือกวิธีนี้

“ไม่ต้องหารือ ถ้าเราจะยุบเราก็ยุบเลย หากใครขัดข้องก็สามารถไปฟ้องได้ ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องมาถกเถียงในเรื่องที่เราเชื่อว่าไม่มีปัญหา เราเชื่อว่าไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ ขณะนี้เป็นกระบวนการสร้างข่าวทำให้รู้สึกว่าไม่แน่ใจ รู้สึกว่ารัฐบาลมีปัญหา แต่ตนยืนยันว่าไม่มีปัญหา และการตั้งรัฐบาลยังไม่จบง่ายๆ” นั่นคือ คำพูด และคำขู่ของเขา เมื่อถูกถามเรื่องอำนาจยุบสภา

ดังนั้น นาทีนี้การจับขั้วเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ยังไม่สรุปร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แนวโน้มมาทาง นายอนุทิน ชาญวีระกูล มากกว่า นายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งต้องรอพรรคประชาชนลงมติอย่างเป็นทางการใน วันจันทร์ที่ 1 กันยายน ขณะเดียวกันก็ต้องจับตา “แผนหน้ามืด” ของพรรคเพื่อไทย ที่เตรียม “ยุบสภา” แบบไปตายเอาดาบหน้า เพียงเพื่อขัดขวางฝ่ายตรงข้ามไม่ให้สมปราณถนา ทำนอง “ข้าไม่สมหวังคนอื่นก็หย่าสมหวัง” อะไรประมาณนี้ !!



กำลังโหลดความคิดเห็น