จ่อครบ 1 ปี ความคืบหน้า กระบวนการ "ยุบ" ตำรวจ บก.ปทส. ถ่ายโอนไป ทส. หลังได้ขยายเวลาภารกิจฯ 1 รอบ ตามแผนป้องกันปราบปรามการกระทําผิดทรัพยากรฯ แต่งาน "สอบสวน" ยังอยู่กับ สตช. ด้านสารพัดหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง รายงานตามมติ ครม. "ผลบูรณาการ" ระหว่างยังไม่มีการยุบ พบสามารถจับกุมผู้กระทำผิดต่อทรัพยากรฯ มากกว่า 1 พันราย ส่วน "สตช." เร่งเกลี่ยอัตรากําลัง ยกร่าง พรฎ. เปลี่ยนแปลง บก.ปทส. ทําแผนพัฒนา "ตํารวจท้องที่" เพิ่มภารกิจสอบสวน คดีความผิดทางทรัพยากรฯ
วันนี้ (22 ส.ค. 2568) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามมาตรา 165 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ด้วยการ “ยุบ” กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)
ก่อนถ่ายโอนภารกิจ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ไปยัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกำหนดให้ดำเนินการ ก่อนสิ้นปี 2567 แต่ต่อมา มติครม. 6 ต.ค. 2567 เห็นชอบให้ขยายเวลาออกไป 1 ปี ระหว่างวันที่ 17 ต.ค. 2567 ถึง วันที่ 17 ต.ค. 2568”
ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อ้างว่า ยังมีความจําเป็นต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพื่อดําเนินการอีกหลายขั้นตอน แม้ ทส. ได้ทำคู่มือป้องกันการกระทำความผิด ประสาน บก.ปทส. เพื่อปรับโครงสร้าง อัตรากำลังไปแล้ว กว่า 2 ปี ภายใต้กรอบกฎหมายฯ 8 ฉบับ โดยมีความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า สามารถขอขยาย ได้ถึง 3 ครั้ง
ล่าสุด เมื่อ 19 ส.ค. 2568 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ได้รายงาน ครม. ว่า ได้เสนอให้ สตช. เร่งปรับโครงสร้างและอัตรากําลังของ บก.ปทส. โดยเกลี่ยอัตรากําลัง ไปปฏิบัติงานในภารกิจที่ขาดแคลนอัตรากําลัง หรือนโยบายที่มีความจําเป็นเร่งด่วน
"และเสนอ ร่างพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) เปลี่ยนแปลง บก.ปทส. ของ สตช. พ.ศ. ... ตามขั้นตอนการเสนอกฎหมายให้แล้วเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามมติ ครม ( 6 ต.ค.2567) ที่ได้เห็นชอบให้ขยายระยะเวลา 1 ปี ซึ่งจะครบกําหนดระยะเวลา (16 ต.ค. 2568)"
รวมทั้งให้ สตช. จัดทําแผนพัฒนา "เจ้าหน้าที่ตํารวจในสถานีตํารวจท้องที่" เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดําเนินภารกิจด้านการสอบสวนคดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่ให้แล้วเสร็จ
และรายงานผลการดําเนินการให้ สํานักงาน ก.พ.ร. ทราบ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ยังแจ้งให้ ทส. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม รายงานผลการดําเนินการตามคู่มือ หรือแนวทางการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่
ในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ให้สํานักงาน ก.พ.ร. ทราบ เช่นกัน
มีรายงานด้วยว่า ทส. ก.เกษตร ก.อุตสาหกรรม ได้รายงานผลการดําเนินการตามคู่มือ หรือแนวทางการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ รับทราบ ในห้วงเดือน เม.ย. จนถึงปัจจุบัน
เช่น ทส. สามารถดำเนินคดีภายใต้กฎหมาย 8 ฉบับ ได้ 941 คดี แต่เกิดอุปสรรค เจ้าหน้าที่ขาดอุปกรณ์บันทึกภาพในระหว่างจับกุมและถูกขัดขวางขณะยึดของกลาง
ทั้งยังได้ประสานกับ บก.ปทส. อบรมเจ้าหน้าที่ในเรื่อง การขอหมายศาล การล่อซื้อ การพิสูจน์ของกลาง การขยายผล ก.เกษตร สามารถดำเนินคดีภายใต้กฎหมายประมง 2 ฉบับ ได้ 264 คดี เป็นต้น
ขณะที่ สตช. รายงานว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลง บก.ปทส. ของ สตช. พ.ศ. ...ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของ สตช. เพื่อ เสนอ ครม.
สําหรับการปรับโครงสร้างและอัตรากําลังของ บก.ปทส. อยู่ระหว่างดําเนินการและจัดทําแผนพัฒนาเจ้าหน้าที่ตํารวจในสถานีตํารวจท้องที่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดําเนินภารกิจด้านการสอบสวนคดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับพื้นที่.