xs
xsm
sm
md
lg

“นฤมล” เปิดสมัชชาการสภาการศึกษาระดับชาติครั้งที่ 3 มั่นใจ ดัน พ.ร.บ.การศึกษาฯ สำเร็จในสภาฯ ชุดนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นฤมล” เปิดสมัชชาการศึกษาฯ ครั้งที่ 3 ลั่น ปฏิรูปการศึกษาต้องร่วมมือทุกส่วน มั่นใจ ดัน พ.ร.บ.การศึกษาฯ สำเร็จในสภาฯ ชุดนี้ ขอช่วยกันดูแลสุขภาพจิตเด็กยุคออนไลน์


เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่โรงแรม ที.เค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมสมัชชาสภาการศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 3 (𝟑𝐫𝐝 𝐍𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐄𝐝𝐮𝐜𝐚𝐭𝐢𝐨𝐧 𝐀𝐬𝐬𝐞𝐦𝐛𝐥𝐲)ภายใต้หัวข้อ“𝐅𝐮𝐭𝐮𝐫𝐞 𝐋𝐞𝐚𝐫𝐧 𝐅𝐮𝐭𝐮𝐫𝐞 𝐄𝐚𝐫𝐧 เรียนรู้เพื่อก้าวสู่อนาคต”โดยมีผู้แทนองค์กรทุกภาคส่วนจากทั่วประเทศ ประกอบด้วย สมัชชาหรือสภาการศึกษาจังหวัด หน่วยงานด้านการศึกษาภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน ภาคศาสนา ภาควิชาการและวิชาชีพ ภาคประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน เข้าร่วมการประชุมเสวนาฯ

โดย ศ.ดร.นฤมล ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง Flexible Education การศึกษาที่ยืดหยุ่นเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ระบุว่า วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแผนการขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาของประเทศไทย ซึ่งการปฏิรูปการศึกษาไม่ใช่เรื่องที่พรรคการเมืองหรือนักการเมืองจะสามารถกำหนดได้ เราเป็นเพียงส่วนในการช่วยขับเคลื่อนเท่านั้น เช่น ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติอยู่ทั้งหมด 7 ร่าง ประกอบด้วยร่างของกระทรวงศึกษาธิการ ร่างจากฝ่ายรัฐบาล ร่างฝ่ายค้าน และร่างที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเรื่องนี้ทางฝ่ายการเมืองจะต้องร่วมกันผลักดันให้ร่างกฎหมายดังกล่าวสำเร็จภายในสภาชุดนี้ พร้อมทั้งเปิดรับข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนเพื่อให้กฎหมายมีความสมบูรณ์ ครอบคลุม และตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ


รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า ยังกล่าวถึงความสำคัญของการจัดสมัชชาการศึกษา ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาแล้วกว่า 3 ปี และจัดครบแล้ว 15 จังหวัด โดยตั้งเป้าจะจัดให้ครบทั้ง 77 จังหวัด เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกพื้นที่ได้สะท้อนความคิดเห็น ได้ถกเถียง และร่วมกันกำหนดทิศทางการศึกษาไทย เพราะทุกท่านคือกำลังสำคัญในการปฏิรูปการศึกษา ไม่ว่าจะเป็น เครือข่ายการศึกษา ครู นักเรียน และภาคประชาชน

“ดิฉันเห็นว่าการมีความเห็นต่างถือเป็นเรื่องดีในสังคมประชาธิปไตย เพราะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ และช่วยตกผลึกนโยบายการศึกษาที่ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง” ศ.ดร.นฤมล กล่าว


ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวต่อถึง การวัดผลการเรียนรู้ของเด็กไทย ตนมองว่าไม่ควรยึดติดกับการท่องจำอีกต่อไป แต่ควรพัฒนาเครื่องมือ และวิธีการใหม่ ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีอยู่มากมาย เพื่อให้การประเมินสะท้อนถึงการเรียนรู้จริง ประสบการณ์จริง และการทำงานได้จริง เช่นเดียวกับวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ที่ตนเคยพูดไปว่าเป็นหัวใจสำคัญที่อยากให้เด็กไทยได้เรียนรู้ ตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยไม่ใช่เพียงการจำเนื้อหา แต่ต้องเปิดโอกาสให้เด็กคิด วิเคราะห์ ตั้งคำถาม และถกเถียงในห้องเรียน เพื่อเข้าใจเหตุผลของการตัดสินใจทางประวัติศาสตร์ และเรียนรู้รากฐานระบอบประชาธิปไตยแบบไทย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งทางความคิดในสังคมได้

นอกจากนี้ ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวถึงปัญหาของครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องภาระหนี้สินครู ที่เป็นอุปสรรคต่อการทุ่มเทเวลาและพลังให้กับการสอน โดยเปิดเผยว่า วานนี้(21 ส.ค.)ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)ได้เห็นชอบแนวทางการตั้งสหกรณ์กลางเพื่อรวมหนี้ครูและหาแนวทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ รวมถึงการเร่งขับเคลื่อนปรับเกณฑ์วิทยฐานะครูให้มีความสมเหตุสมผลและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น


รมว.ศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่น่าห่วงไม่แพ้กันคือ สุขภาพจิตและความเข้มแข็งทางอารมณ์ของเด็กยุคใหม่ ที่ต้องเผชิญแรงกดดันและการตัดสินบนโลกออนไลน์ ซึ่งส่งผลให้หลายคนมีความเปราะบางทางอารมณ์มากกว่าเด็กยุคก่อน ในส่วนนี้กระทรวงศึกษาฯ ได้มีมาตรการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ และจัดนักจิตวิทยาเพื่อช่วยดูแลเด็กอย่างจริงจังแล้ว
“อนาคตของชาติขึ้นอยู่กับการที่เด็กมีทั้งความรู้ ความเข้มแข็งทางอารมณ์ และสุขภาพจิตที่ดี หากละเลยปล่อยให้เด็กมีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ ก็จะส่งผลต่อประเทศในอนาคตด้วย” ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ การประชุมสมัชชาสภาการศึกษาระดับชาติ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคมมีส่วนร่วมจัดการการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนและพื้นที่ สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ผ่านการมีส่วนร่วมของภาคีที่เข้าใจปัญหาและมีฐานทุนในพื้นที่ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาที่ทุกคนมีส่วนร่วมกับการศึกษาอย่างแท้จริง




กำลังโหลดความคิดเห็น