xs
xsm
sm
md
lg

“อิ๊งค์” แสดงออกทางภาษากายว่า เครียด! ศาล รธน. ขยับวันยื่นคำแถลงปิดคดีเร็วขึ้นเป็น 25 ส.ค. ส่วนวันชี้ชะตา29 ส.ค.ตามเดิม ** “มุสาพาเอวัง! "หลวงพ่ออลงกต” สถานะเหลือแค่พระลูกวัด ผงะเงินเหลือแค่10 ล้าน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แพทองธาร ชินวัตร - นครินทร์ เมฆไตรรัตน์- คมสันต์ โพธิ์คง พระอลงกต
ข่าวปนคน คนปนข่าว


++ “อิ๊งค์” แสดงออกทางภาษากายว่า เครียด! ศาล รธน. ขยับวันยื่นคำแถลงปิดคดีเร็วขึ้นเป็น 25 ส.ค. ส่วนวันชี้ชะตา29 ส.ค.ตามเดิม

การไต่สวน “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม กับ“ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ฐานะพยาน ในคดีที่ สว.ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอน “แพทองธาร” จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากกรณีคลิปเสียงพูดคุย เจรจากับ “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา

การไต่สวนมีขึ้นเมื่อวานนี้ ( 21ส.ค.) ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบ 39 ปี ของ “แพทองธาร” พอดี

“แพทองธาร” เลือกใส่ชุดสูทสีดำ เชิ้ตขาว ไปศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้มีเสียงวิพากวิจารณ์ตามมาพอสมควร ว่าในวันเกิดทำไม แต่งดำ ตกลงเป็น “ลาง” หรือเป็นการ “แก้เคล็ด”กันแน่

แพทองธาร ชินวัตร
ก่อนเข้าไต่สวนในห้องพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ศาลฯ ได้ตรวจสัมภาระสิ่งของตามระเบียบขั้นตอน “แพทองธาร”ต้อง ฝากกระเป๋า โทรศัพท์มือถือ ไอแพด ไว้กับเลขาฯ ส่วนตัว โดยมีเพียงปากกา กับยาดม ติดตัวไป โดยมี “ปิฎก สุขสวัสดิ์” สามี กับ “พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์” พี่สาว เข้าไปนั่งเป็นกำลังใจ ในการไต่สวนด้วย

“นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงกระบวนการไต่สวนว่า ศาลฯไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดภาพ และเสียง ในการไต่สวน เนื่องจากพยานบุคคลที่มาให้ถ้อยคำเป็นพยานคู่ และเป็นคดีที่เป็นความลับเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ห้ามไม่ให้ผู้เข้ารับฟังการไต่สวนของศาลฯ นำข้อความการไต่สวนออกไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริง หรือข้อกฎหมาย ในลักษณะการสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน

การถ่ายทอดระหว่างการพิจารณาไต่สวน ที่ศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จึงมีแต่ภาพ ไม่มีเสียง เหมือนดูหนังใบ้ ทำเอาผู้ติดตามข่าวที่อยากรู้ว่า ศาลฯจะถามอะไร “แพทองธาร” จะตอบว่าอย่างไร รู้สึกผิดหวังไปตามๆกัน

นครินทร์ เมฆไตรรัตน์
แต่ถึงอย่างไร ก็ยังดีที่ได้เห็นภาพระหว่างการไต่สวน ว่า “แพทองธาร” มีสีหน้า ท่าทาง ท่าทีที่แสดงออกมา หรือที่เรียกว่า “ภาษากาย” อย่างไรบ้าง

ภาพที่เห็นในบางช่วงบางตอนที่ “แพทองธาร” แสดงออกทางสีหน้า และเอกชันต่างๆ ถูกนำมาตีความ เช่น การยืนกุมมือทั้งสองข้างไว้แน่น โดยปลายนิ้วชี้ทั้งสองชนกัน แม้จะดูเป็นธรรมชาติ แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญแล้ว นี่คือภาษากาย ของผู้ที่พยายามควบคุมอารมณ์ตนเองอย่างเต็มที่ เป็นสัญญาณของการขาดความมั่นใจ และ ความพยายามสร้างความมั่นคง ในภาวะที่สภาพแวดล้อมอยู่เหนือการควบคุม

มีการ "กระพริบตาถี่" อยู่บ่อยครั้ง นักวิเคราะห์ภาษากาย ก็ตีความว่า เป็นสัญญาณของความตึงเครียดทางจิตใจ หรือความพยายามกลบเกลื่อนอารมณ์ภายในที่ปั่นป่วน

มีบ่อยครั้ง ที่เธอก้มหน้า "เม้มริมฝีปาก" เป็นระยะ คล้ายกับพยายามควบคุมบางความรู้สึก หรือกลั้นคำพูดบางอย่างไว้กับตัวเอง ท่าทีเช่นนี้ สะท้อนถึงแรงกดดันระดับสูงภายในจิตใจ ซึ่งอาจเป็นทั้งความวิตกกังวล ความไม่พอใจ หรือ ความกลัวในสิ่งที่จะตามมา เป็นต้น

นักวิเคราะห์ภาษากาย บอกว่า คำพูดอาจถูกเลือกใช้ด้วยความระมัดระวังได้ แต่ภาษากาย ไม่เคยโกหก!!

หลังการไต่สวน “ประธานศาลรัฐธรรมนูญ” ได้ออกมากำชับอีกรอบว่า ห้ามมิให้ผู้เข้ารับฟังการไต่สวน นำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และบิดเบือนข้อมูลที่จะทำให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจผิด

นอกจากนี้ ตามที่ศาลได้สั่งให้คู่กรณี ยื่นคำแถลงปิดคดีในวันพุธที่ 27 ส.ค.68 นั้น ได้เลื่อนมาให้คู่กรณี ยื่นคำแถลงปิดคดี ภายในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. 68 เพื่อตุลาการฯ แต่ละท่านจะได้มีเวลาทำคำวินิจฉัยส่วนตนได้อย่างรอบคอบ ครบถ้วน

ส่วนการนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ยังคงเป็นไปตามกำหนดเดิม คือวันที่ 29 ส.ค.68 เวลา 09.30 น.และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในเวลา 15.00 น.

คมสันต์ โพธิ์คง
ด้าน “อาจารย์คมสันต์ โพธิ์คง” รองคณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งได้เข้าฟังการไต่สวนในครั้งนี้ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เล่าถึงบรรยากกาศในห้องพิจารณาคดี โดยไม่เกี่ยวกับเนื้อหา สาระที่มีการไต่สวน หรือ บิดเบือน ตามที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งห้ามไว้แต่อย่างใด

โดยเห็นว่า “แพทองธาร” เตรียมตัวมาดี ในการตอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคลิป และเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างฉะฉาน แต่เรื่องที่ไม่ได้เตรียม และข้อกฎหมาย มีอึ้งเล็กน้อย ตอบไปตามความรู้ที่ตนมีอย่างหยุมหยิม

ข้อกฎหมาย เป็นจุดอ่อนสำคัญของพยานทั้ง 2 ปาก มีการตอบที่ผิดพลาด คลาดเคลื่อน จากหลักการของกฎหมายพอสมควร ดูแล้วเสียเปรียบเรื่องข้อกฎหมาย อย่างสาหัส

ต้องชมว่าทนายความของ “แพทองธาร” เตรียมตัวดี แต่บางเรื่องก็ช่วยไม่ค่อยได้ ผู้ร้องถามประเด็นไม่คมนัก แต่ก็ยังสะท้อนว่า ทำการบ้านมาพอสมควร

มีดรามา “สะอึกสะอื้น” เล็กน้อย แต่ไม่น่าส่งผลให้มีความสงสารมากนัก เพราะว่า สะอึกสะอื้น ผิดคิวไปนิด

การไต่สวนคดี ชั้น 14 ของศาลฎีกา ฟังสนุกกว่า มันส์กว่า คมกว่า และมองว่าการไต่สวนครั้งนี้ ดูแล้วอาจส่งผลต่อคณะรัฐมนตรี ชุดนี้ในอนาคต

อ่านความเห็นแล้วก็ลองตีความ และสรุปด้วยตัวเองว่า “อาจารย์คมสันต์” อยากจะบอกอะไร

แต่ถ้าไม่อยากตีความเอง ก็ต้องติดตามกันวันต่อวัน ว่าหลังจากนี้ “แพทองธาร” จะลาออกวันไหน ถ้าถึงวันที่ 28 ส.ค. แล้วยังไม่ลาออก วันที่ 29 ส.ค. ศาลฯ ก็จะเป็นคนตัดสินเองว่า“แพทองธาร” ได้ไปต่อ หรือ พอแค่นี้!

พระอลงกต
++ “มุสาพาเอวัง! "หลวงพ่ออลงกต” สถานะเหลือแค่พระลูกวัด ผงะเงินเหลือแค่10 ล้าน!

ความคืบหน้า หลัง "หลวงพ่ออลงกต" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ยื่นใบลาออกตำแหน่งไปเรียบร้อย คราวนี้ไม่ใช่แค่เก้าอี้เจ้าอาวาสที่หาย แต่ตำแหน่ง“ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 3” ก็หลุดตามไปด้วย เหลือสถานะเพียง “พระลูกวัด”ธรรมดา ๆ

งานนี้ใครเห็นก็ต้องปลงอนิจจัง ว่า ชีวิตเปลี่ยนในพริบตา!

ซ้ำรอยดรามาเรื่อง "วุฒิการศึกษา" เทพศิรินทร์ ที่เจ้าตัวออกมายอมรับ ว่าไม่ได้จบจากที่นี่ แค่เคยมาคัดตัวเตะบอล เท่านั้น ล่าสุดเพจ “นักเกรียน เทพศิรินทร์” ออกมาโพสต์ ป้ายเชิดชู “หลวงพ่ออลงกต”ในหอเกียรติยศเพชรเทพศิรินทร์ ถูกปลดออกแล้วจ้า!

แถมสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์ ยังประกาศชัด จะลบข้อมูลทุกอย่างทิ้งให้เกลี้ยง เหตุผลฟังแล้วเจ็บ เพราะไว้ใจเกินไป คิดว่าท่านเป็นของจริง ที่ไหนได้...ไม่คิดว่าท่านจะ "มุสา"

ทางสมาคมฯ ก็รับผิดตรงๆ ว่าพลาดเองที่ไม่ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน เพราะหลงดีใจกับภาพลักษณ์พระนักพัฒนา จนรีบ “เชิดชู ขึ้นหิ้ง” ... แล้วก็มาตกม้าตายทีหลัง

ขณะที่ วัดพระบาทน้ำพุซึ่งเคยคึกคัก ฟังว่าตอนนี้แทบร้าง เพราะคนแห่กันมาขอเงินบริจาคคืน แถมรายรับใหม่ แทบไม่มีเหลือ แม้เงินในบัญชี 8 บัญชี รวมกันยังมีอยู่ราว 10 ล้าน แต่ค่าใช้จ่ายเดือนละ 3 ล้านนี่สิ...ใครๆ ก็เริ่มหวั่นว่า วัดจะไปรอดหรือไม่ ?

ขณะที่เจ้าคณะจังหวัด ตั้งให้ “พระครูสุวัฒน์กิตติสาร” เจ้าอาวาสวัดสระมะเกลือ มานั่งรักษาการแทนชั่วคราว พร้อมคำมั่น จะรัดกุมทุกเรื่อง โดยเฉพาะการเงิน เพื่อฟื้นภาพลักษณ์วัดพระบาทน้ำพุ ที่กำลังย่ำแย่

ส่วน “พระอลงกต” ได้ออกมาพูดคุยกับทีมกระทรวงสาธารณสุข ที่ลงพื้นที่เมื่อวันก่อน และพบว่า หลายอย่างทำไม่ถูกกฎหมาย ไม่ได้ขออนุญาต เจ้าตัวก็ยอมรับตรงๆ ว่า ไม่รู้กฎหมายดูแลผู้ป่วย HIV พร้อมสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ยังยืนยัน จะเดินหน้าดูแลผู้ป่วยต่อ

เรียกว่าถึงจะร่วงจากตำแหน่งต่างๆ เป็นแค่ "พระลูกวัด" แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมวางบทบาทในสังคมง่ายๆ... แต่จะไปไหวมั้ย ต้องติดตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น