“โรม” หนุนตั้ง กมธ.วิสามัญ ศึกษายกเลิก MOU 43–44 ชี้ต้องพิจารณารอบด้าน หลังมีการแบ่งสรรปันส่วนให้เอกชนแล้ว
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงข้อเสนอการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 43 และ 44 ว่า พรรคประชาชนเข้าใจในความกังวลของประชาชนจำนวนมากที่เห็นว่า MOU ดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายต่อประเทศไทย จึงจำเป็นต้องหากลไกที่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก
นายรังสิมันต์ ระบุว่า วิธีที่ดีที่สุดคือการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อเปิดให้ทั้งนักการทูต นักวิชาการ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้ามาร่วมศึกษาและให้ข้อสรุป โดยคาดหวังว่าการตัดสินใจจะออกมาอย่างรอบคอบและทันต่อสถานการณ์ “วันนี้สาระสำคัญคือ ต้องมีการพูดคุยทุกฝ่าย เอาข้อมูลออกมากาง เพราะ MOU 44 ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย–กัมพูชา (OCA) มีเรื่องก๊าซธรรมชาติ และมีการแบ่งสรรปันส่วนให้ภาคเอกชนแล้ว หากจะยกเลิกก็ต้องเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบ เพราะเอกชนเหล่านี้อาจมีรัฐบาลต่างชาติอยู่เบื้องหลัง”
รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวต่อว่า หากรัฐบาลอ้างว่ายกเลิกไม่ได้ เพราะไทยใช้กรอบ MOU เพื่อชี้ว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลงนั้น ตนเห็นว่าทั้ง MOU 43 และ 44 เป็นคนละส่วน และต้องพิจารณาแยกกัน โดยเฉพาะ MOU 44 ที่เกี่ยวพันกับทรัพยากรธรรมชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งหากไทยจะยกเลิกฝ่ายเดียวต้องชัดเจนว่าทำได้หรือไม่
“ประเด็นสำคัญไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะอ้างอะไร แต่คือสภามีสิทธิที่จะรู้และร่วมตัดสินใจ การพิจารณายกเลิกต้องทำอย่างรอบด้าน ผ่านกลไกคณะกรรมาธิการวิสามัญ และไม่ควรล่าช้า” นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำ.